‘แพทองธาร’ เผย สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มดีขึ้น ยันไม่ท่วมเหมือนปี 54

‘แพทองธาร’ เผย สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มดีขึ้น ยันไม่ท่วมเหมือนปี 54 ชี้ ตั้งใจแก้ปัญหาระยะยาว เพื่อไม่ให้เสียงบประมาณบ่อย ๆ
วันนี้ (30 ส.ค. 67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสุโขทัย ว่า ได้พูดคุยกับพี่น้องชาวบ้านหลาย ๆ คน ทราบถึงความลำบากในหลายวันที่ผ่านมา ตอนนี้เหตุการณ์เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ น้ำเริ่มลดแล้ว แต่อยากให้โฟกัสช่วงการเยียวยาพี่น้องประชาชนต่อไป เพราะเมื่อน้ำท่วมทีก็ลำบาก และสูญเสียไปเยอะ
นางสาวแพทองธาร ระบุว่า ตอนนี้เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนภูมิพล สามารถรองรับน้ำได้เพียงพออย่างแน่นอน เมื่อมาถึงกรุงเทพไม่มีปัญหา ถ้าไม่มีพายุอื่นเข้ามา ซึ่งจากการคาดการณ์ ก็ไม่มีพายุเข้ามา น่าจะปลอดภัย ตอนนี้สถานการณ์ค่อย ๆ ดีขึ้น เมื่อวานนี้ ได้คุยกับ นายภูมิธรรม เวชชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของพื้นที่ และร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้พูดคุย และทราบว่าขณะนี้ ทางภาคเหนือจะใช้เวลาสูงสุด 7 วันจะคืนสู่สภาพเดิม บางจังหวัดใช้เวลาแค่ 3 – 5 วัน
เมื่อถามย้ำว่าภาพรวมสถานการณ์น้ำปีนี้ จะไม่รุนแรงเท่าปี 2554 ใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ไม่น่ากลัวเหมือนปี 54 แน่นอน เพราะปี 54 เป็นปีที่น้ำเยอะมาก ๆ และช่วงเดือนตุลาคมของปี 54 มีพายุเข้าถึง 5 ลูก ซึ่งปีนี้มีการคาดการณ์ว่าพายุจะเข้ามา 2 ลูก หรืออาจไม่มีเลยก็ได้
นางสาวแพทองธาร กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือปริมาณน้ำฝนในช่วงเดือนกันยายน และตุลาคม ว่า เมื่อวานได้พูดคุยกับทางการ โดยมีการเตรียมการรับมือกันมากพอสมควร ซึ่งทางฝั่งกรมชลประทานเอง ไม่ได้มีความกังวลใจเหมือนช่วงปี 54 เพราะเคยรับมือมาแล้ว และปริมาณน้ำฝนไม่เยอะเท่า
นางสาวแพทองธาร กล่าวถึงความรู้สึกหลังรับฟังความเดือดร้อนของประชาชน ว่า นายสมศักดิ์ เป็นตัวแทนพูดให้ ตนเองในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี การดูแลความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับตนเองอยู่แล้ว และเป็นสิ่งสำคัญของรัฐขาลด้วย ถ้าในอนาคตพิธีทุกอย่างจบเรียบร้อยแล้ว มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว คงต้องช่วยดูเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะตนเองมีประสบการณ์การลงพื้นที่หาเสียง หลายที่ให้เห็นความลำบากของพี่น้องประชาชน ย้ำว่า ลำบากจริง ๆ ซึ่งขณะนั้น ตนเองลงพื้นที่ และไม่สามารถมอบของช่วยเหลือประชาชนได้ เพราะจะผิดกฎของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตอนนั้นก็รู้สึกว่าถ้าอะไรที่ช่วยเหลือประชาชนได้ ก็อยากให้ช่วยกันให้เต็มที่ดีกว่า เพราะผลประโยชน์ตกอยู่ที่พี่น้องประชาชน เป็นแง่มุมที่มีไว้ในใจ เมื่อกระบวนการทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะเริ่มทันที
นางสาวแพทองธาร ระบุว่า นักเรียนมินิ วปอ. ได้มาลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัยประมาณ 10 คนมาดูในพื้นที่ เพราะในกลุ่มมีการระดมความช่วยเหลือในพื้นที่ต่าง ๆ ก็เลยมาช่วยกัน
เมื่อถามย้ำว่าอยากแก้ไขปัญหานี้ในอนาคตหรือไม่ นางสาวแพทองธาร ตอบทันทีว่า แน่นอนสิคะ ซึ่งขณะนี้มีการรับทราบข้อมูลว่าเขื่อนไหนที่แตก และปัญหานี้ในอนาคต ถ้าถูกแก้ในระยะยาว จะได้ไม่ต้องมาคอยแก้ หรือเสียงบประมาณในช่วงสั้น ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก คือสิ่งที่เรามีความตั้งใจอยากทำในอนาคต
“ถ้าจะพูดถึงเรื่องความตั้งใจ มีแน่นอน เรามีความตั้งใจแน่นอนที่จะทำให้ตรงนี้สามารถแก้ไขปัญหาในระยะยาวได้ เพื่อไม่อยากให้เสียงบประมาณที่เล็ก ๆ และบ่อย ๆ“ นางสาวแพทองธาร กล่าว