‘เศรษฐา’ ย้ำจุดยืนเพื่อไทย หนุน ‘พิธา’ จนสุดทาง เชื่อ เก้าอี้ประธานสภาฯ ทุกฝ่ายแฮปปี้

วันนี้ (30 มิ.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ดูธนาคารน้ำที่จังหวัดนครพนม

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่าพรรคเพื่อไทยยอมเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ เพื่อเตรียมพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีแทนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หากไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. นายเศรษฐา มองว่า ข่าวดังกล่าวเป็นเพียงกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ขอให้รอฟังข้อเท็จจริงจากหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย รวมถึงฝ่ายเจรจาก่อน ตนเองไม่อยู่ในกระบวนการการเจรจา แต่อยู่ในกระบวนการทำงานมากกว่า ยังไม่อยากให้มองไปไกล เพราะต้องผ่านขั้นตอนการเลือกประธานสภาฯ ก่อน ขอให้อดใจรอ ซึ่งพรรคเพื่อไทยยึดมั่นหลักการฝ่ายประชาธิปไตยต้องจับมือทำงานร่วมกัน และมั่นใจเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ จบลงด้วยดี ทุกฝ่ายแฮปปี้

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แม้ตัวนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะมีความพร้อม แต่ยังมีขวากหนามอีกหลายอย่างที่อาจทำให้นายพิธา ไม่ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะไปนั่งนายกฯ แทนหรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า ตนเองยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น ตอนนี้ต้องพยายามให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีก่อน และเพื่อไทยย้ำมาตลอดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องผลักดันให้นายพิธาเป็นนายกก่อน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีแผนสำรอง เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายเศรษฐาพร้อมที่จะนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเลยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่คิด เพราะยังไม่ถึงวันนั้น ขอเป็นไปทีละขั้นตอน เราต้องช่วยกันผ่านด่านประธานสภาฯ ให้ได้ก่อน โดยไม่บอบช้ำทั้งสองฝ่าย แล้วค่อยเป็นขั้นตอนการเลือกนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรเพื่อไทยก็อยากให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นพรรคที่ชนะการเลือกตั้งมาเป็นอันดับหนึ่ง หวังว่าจะไม่มีอุปสรรคใด ๆ ทั้งสิ้น

ส่วนการลงพื้นที่ในวันนี้นายเศรษฐา ได้ศึกษาดูการบริหารจัดการธนาคารน้ำใต้ดิน นอกเขตชลประทาน ซึ่งจังหวัดนครพนมถือเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการน้ำได้ และต้องเร่งดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพราะสถานการณ์น้ำในปีนี้ อาจจะได้รับผลกระทบในหลายพื้นที่ยากเรื่องของเอลนีโญ โดยธนาคารน้ำใต้ดินจะช่วยให้แต่ละพื้นที่กักเก็บน้ำได้ แต่ถ้าจะนำโมเดลนี้ไปปรับใช้ในพื้นที่อื่น ๆ ก็จะต้องศึกษาวิเคราะห์เป็นรายพื้นที่ และควรทำอย่างรวดเร็ว ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีความพร้อมในเรื่องนี้

ทั้งนี้ นายเศรษฐา ยอมรับว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถือเป็นกระทรวงหนึ่งที่เคยคุยว่าพรรคเพื่อไทยจะเข้ามารับผิดชอบเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนจะมีการแบ่งจัดสรรตำแหน่งว่าการรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยอย่างไร ขึ้นอยู่กับผู้ที่เกี่ยวข้องจะหารือกัน