POLITICS

ศรีสุวรรณ’ ร้อง กกต.ปมผู้สมัครไม่เก็บป้ายหาเสียง

‘ศรีสุวรรณ’ ร้อง กกต.ปมผู้สมัครไม่เก็บป้ายหาเสียง ‘วรัญชัย’ กระซิบ “ถ้าไม่ดี ก็ลงสมัครผู้ว่าฯ เองเลย” ‘ศรีสุวรรณ’ โต้ “หากคิดจะเป็นนักการเมืองก็ต้องทำตามกฎหมาย”

วันนี้ (30 พ.ค. 65) เวลา 10:00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ เพื่อขอให้พิจารณากรณีปรากฏป้ายรณรงค์หาเสียง ของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการหาเสียงเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ และ ส.ก. ที่ผ่านไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ผอ.กกต.กทม. มีหนังสือแจ้งไปยังผู้สมัครเลือกตั้ง ทั้งผู้ว่าฯ และ ส.ก. ให้เร่งเก็บป้ายหาเสียงให้เร่งเก็บป้ายหาเสียงให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน ซึ่งหลังจากครบ 3 วันแล้ว ปรากฏยังมีผู้สมัครจำนวนมากที่ละเลยเพิกเฉย ปล่อยให้มีป้ายหาเสียงแขวนหรือติดตั้งในพื้นที่เต็มไปหมด ชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครเหล่านี้ เน้นอยากจะเป็นตัวแทนของประชาชน แต่ไม่สนใจเรื่องของการปฏิบัติตามกฎหมายแต่อย่างใด จึงนำพยานหลักฐานแจ้งความต่อสถานีตำรวจนครบาลหลายแห่ง เช่น สน.ดอนเมือง สน.สายไหม สน.สุวินทวงศ์ สน.ลำผักชี และอีกหลาย สน. ต่อไป

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า แต่เนื่องจาก กกต. จะมีการพิจารณารับรองผู้สมัครหลายเขต สมาคมฯ เห็นว่ากรณีการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของผู้สมัครรับเลือกตั้ง เป็นประเด็นสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครเหล่านี้ยังไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ยังละเลย ประสาอะไรจะไปบริหารบ้านเมือง คิดข้อบัญญัติท้องถิ่นต่าง ๆ ได้ เรื่องนี้จึงเป็นบทเรียนสำคัญที่สมาคมไม่ยอม จึงนำหลักฐานใช้ประกอบการวินิจฉัยของ กกต. รับรองผลเลือกตั้ง

นายศรีสุวรรณ เน้นย้ำว่า เมื่อเสร็จสิ้นการหาเสียงจะเก็บไปทำกระเป๋าหรือผ้ากันเปื้อนเอง แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏทำลวดลายไว้ ถูกประชาชนหยิบยกหรือลักนำไป ตลอดจนการไม่ระบุผู้ว่าจ้าง ซึ่งระบุชื่อชมรมคนรักกรุงเทพฯ แต่ในระเบียบต้องเขียนชื่อตัวชื่อสกุล ซึ่งนายชัชชาติไม่อาจหลบเลี่ยงได้

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนายชัชชาติชี้แจงว่าไม่ได้เจตนาให้ประชาชนนำไปประยุกต์ต่อ นายศรีสุวรรณ ตอบว่า ถ้าไม่เจตนา ก็ไม่ควรประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย แต่การโพสต์เช่นนั้นเป็นการเสแสร้ง เพราะทีมงานไม่ได้เก็บใช้เอง จึงถูกลักไปจนโพสต์ขายถึง 2,000-3,000 บาท แสดงว่าคุณชัชชาติเห็นด้วยที่ประชาชนนำเอาป้ายไปทำกระเป๋า จึงย้อนแย้งกัน

กรณีป้ายหาเสียงของนายชัชชาติจะสำคัญกว่าคะแนนเสียงที่เลือกนายชัชชาติมาหรือไม่นั้น นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ไม่ได้สนใจเรื่องคะแนนเสียง 1.38 ล้านเสียง แต่สนใจว่าเมื่อท่านอาสาเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเป็นเบื้องต้น ไม่ใช่นำคะแนนเสียงนับล้านแล้วมาฝ่าฝืน ยอมรับไม่ได้ จึงนำพยานหลักฐานมายื่นให้เพิ่มเติมหลังยื่นไปหลายสัปดาห์ก่อน

เมื่อสอบถามว่ามั่นใจว่า กกต. จะวินิจฉัยเห็นด้วยหรือไม่ นายศรีสุวรรณ ตอบว่า ทำหน้าที่ไปตามครรลอง แต่ กกต. จะวินิจฉัยไปในทิศทางใดก็ตามนั้น จริงๆ กกต. ควรออกระเบียบให้ชัดเจนว่าป้ายสามารถไปประดิษฐ์ หรือรีไซเคิลได้ แต่ในเมื่อกฎหมายไม่ได้เขียนเรื่องนี้ไว้โดยตรงเราก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายไว้ก่อน

ผมทำตามหน้าที่ และผมไม่สนใจ 1.38 ล้าน แต่อย่างยกก่อนของคุณสุขุมพันธุ์ได้รับ 1.2 ล้าน แต่พอ คสช. เข้ามาปลดคุณสุขุมพันธุ์ออกไป ผมไม่เห็นเอฟซีคุณสุขุมพันธุ์ออกมาร้องแรกแหกกระเฌอชักดิ้นชักงอเป็นไส้เดือนเหมือนของคุณชัชชาติเลย” นายศรีสุวรรณ กล่าว

ส่วนกรณีปรากฏป้ายหาเสียงผู้สมัครผู้ว่าฯ ท่านอื่นนอกจากนายชัชชาติยังปรากฏอยู่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า แต่ผู้สมัครท่านอื่นไม่ได้ทำแพทเทิร์นไว้ ก็มีที่ร้องว่ายังพบป้ายอยู่เกือบ 10 คน ซึ่งเป็นตัวเด่นทั้งนั้น รวมถึง ส.ก. อีกหลาย 10 คน แต่ไม่คิดไปถึงขนาดเลือกตั้งใหม่ เว้นแต่ กกต. เห็นว่าการกระทำดังกล่าวอาจไม่สุจริตเที่ยงธรรม ก็ให้ใบเหลือและจัดการเลือกตั้งใหม่ได้

ทั้งนี้ ในช่วงที่นายศรีสุวรรณมาถึง ปรากฏว่าได้พบกับ นายวรัญชัย โชคชนะ อดีตผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 22 ที่ตั้งใจมายื่นเรื่องของให้ กกต. รับรองผลการเลือกตั้ง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. จึงมีการพูดคุยกัน โดยนายวรัญชัย เดินไปแตะหลังนายศรีสุวรรณและบอกว่า 1.3 ล้านคนไม่เห็นมีปัญหาเลย ถ้าไม่ดีก็ให้นายศรีสุวรรณลงสมัครผู้ว่าฯ ไปเลย โดยนายศรีสุวรรณตอบว่า หากคิดจะเป็นนักการเมืองก็ต้องทำตามกฎหมายด้วย

Related Posts

Send this to a friend