‘อรรถวิชช์’ ย้ำ ถ้าต้องแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่อีกรอบ ไม่กระทบวันเลือกตั้ง

‘อรรถวิชช์’ อัด กกต.จงใจสลายเขต ใช้ระเบียบส่วนต่างเกินขอบเขต แบ่งเขตขัดกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ย้ำถ้าต้องแบ่งเขตใหม่อีกรอบ ไม่กระทบวันเลือกตั้ง ศาลปกครองนัดอ่านคำพิพากษา 7 เม.ย.นี้
วันนี้ (30 มี.ค. 66) ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า เปิดเผยว่า ตนได้ให้ข้อมูลต่อศาลว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งของกรุงเทพมหานคร ต้องยึด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 มาตรา 27(1) กำหนดหลักเกณฑ์การแบ่งเขตให้ “รวมอำเภอต่างๆ เป็นเขตเลือกตั้ง” ซึ่งหมายความว่าจะต้องมีอำเภอหลักอยู่ในเขตเลือกตั้ง แต่ กกต. ใช้หลักเกณฑ์การคิดคำนวณ ส.ส.แบ่งเขตเลือกตั้ง ใน กทม. 33 เขตเลือกตั้ง ที่ไม่เหมือนเดิม 29 เขตเลือกตั้ง
เป็นความตั้งใจของ กกต. ถือเป็นการทำลายระบบตัวแทน ทำให้ความผูกพันระหว่าง ผู้แทนราษฎร กับ ประชาชนในพื้นที่ห่างออกไป กกต.ใช้หลักเอาผลต่างของจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้ง ไม่ควรเกินร้อยละ 10 ของจำนวนเฉลี่ย ต่อจำนวน ส.ส.1 คน เป็นตัวตั้ง ซึ่งเกณฑ์ 10 เปอร์เซ็นต์มีมานานแล้วใช้กับต่างจังหวัด แต่เพิ่งใช้เป็นครั้งแรกกับ กทม. และที่น่าแปลกใจ คือ ในการชี้แจงของ กกต.วันนี้ พบว่า กกต.ไม่ได้ใช้เกณฑ์ไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ใช้เกณฑ์ 5 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ
“หากศาลปกครองมีคำวินิจฉัยให้มีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ จะไม่มีผลกระทบต่อกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.66 เพียงแต่มีผลต่อการทำไพรมารีโหวตของแต่ละพรรคการเมือง และการรับสมัครการเลือกตั้ง ซึ่งสามารถเลื่อนไปวันที่ 14-18 เม.ย.66 และขยายวันเลือกตั้งล่วงหน้าออกไป ก็ยังอยู่ในกรอบเวลา แต่วันเลือกตั้งไม่ขยับ“ ดร.อรรถวิชช์ กล่าว
ทั้งนี้ รองหัวหน้าชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวกกต.มีเป้าหมายทำให้เขตเลือกตั้งเดิมทั้งหมดถูกสลายไป จากนี้ต้องวัดใจว่า ศาลปกครองจะมีคำวินิจฉัยตาม กกต.หรือไม่ แต่สำหรับพรรคการเมือง พวกเรามองว่า นี่ไม่ใช่วิถีทางที่จะทำให้ประชาธิปไตยเข้มแข็ง เพราะเป็นการทำลายระบบตัวแทน โดยศาลปกครองนัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก ในวันที่ 4 เม.ย.นี้ และนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 7 เม.ย.นี้