‘ภูมิธรรม’ เห็นด้วยกับ ‘ธรรมนัส’ แก๊งตบทรัพย์มีทุกกระทรวง หากพบจะจัดการขั้นเด็ดขาด

‘ภูมิธรรม’ เห็นด้วยกับ ‘ธรรมนัส’ แก๊งตบทรัพย์มีทุกกระทรวง หากพบจะจัดการขั้นเด็ดขาด ยินดีรับฟัง สว.อภิปราย ยันไม่ยื้อ พ.ร.บ. นิรโทษกรรม

วันนี้ (30 ม.ค. 67) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะผู้กำกับดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา เรียกรับเงินจากอธิบดีกรมการข้าว โดยเมื่อวานนี้ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องแบบนี้อาจเกิดขึ้นได้ทุกกระทรวง ส่วนกระทรวงพาณิชย์มีหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่าคนมีอำนาจ ถ้าแพ้ภัยตัวเอง แพ้ใจตัวเองโอกาสที่จะทำให้เกิดการคอรัปชั่นก็เกิดขึ้นได้ ดังนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องพึงระวังและต้องจัดการอย่างเด็ดขาด อย่างที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายไว้ซึ่งทุกกระทรวงสามารถที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ได้ทั้งสิ้น

ส่วนจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความเป็นจริง เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอุทาหรณ์และเป็นประเด็นให้เราได้คิดว่ามีลักษณะแบบนี้ เพราะปัญหาคอรัปชั่นเป็นปัญหาของสังคมไทย เป็นเรื่องที่ทุกกระทรวงต้องขับเคลื่อน หากรู้ว่าจุดไหนมีคอร์รัปชั่นก็จะดำเนินการตามกฏหมาย และจะให้คนติดตาม ยอมรับว่าเป็นเรื่องค่อนข้างยาก หากไม่มีคนยืนยันหรือไม่มีหลักฐาน ทั้งนี้ก็ได้ใช้วิธีกำชับไปแล้ว จึงยอมว่าเป็นไปตามที่ร้อยเอกธรรมนัสได้กล่าวไว้ว่ามีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้กับทุกกระทรวง

โดยหลังจากเกิดเรื่อง มีข้าราชการในกระทรวงพาณิชย์ มาแจ้งเรื่องการคอรัปชั่นอะไรบ้างหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่าปัญหาในกระทรวงพาณิชย์ก็เป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้ว อย่างเรื่องที่เกิดขึ้นในองค์การคลังสินค้า และถูกสภาฯ อภิปรายเยอะมากหลายส่วน อีกทั้งเราได้พูดไปแล้วว่า เรื่องนี้หากเรารับรู้ก็จะจัดการเด็ดขาด แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานชัดเจนที่จะสามารถดำเนินคดีทางอาญาได้ แต่สามารถใช้มาตรการในการบริหารจัดการได้

ส่วนการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติของ ยินดีรับฟังทุกอย่าง หากสิ่งไหนเป็นประโยชน์รัฐบาลก็จะนำไปปฏิบัติ อะไรที่เป็นเรื่องที่ไม่ชัดเจนหรือยังเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็จะชี้แจง ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดการอภิปรายก็ได้ไม่มีอะไร สว. ก็ทำหน้าที่ตรวจสอบ ฝ่ายรัฐบาลก็ทำหน้าที่ชี้แจงให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้น

ขณะที่มีคนมองว่าพรรคเพื่อไทยพยายามจะยื้อ พ.ร.บ. นิรโทษกรรมนั้น ต้องถามคนในสังคมว่า ความเห็นตรงกันส่วนใหญ่เป็นอย่างไร แต่หากเป็นเรื่องที่เราพูดชัดเจนมาตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วว่า ปัญหาของประเทศที่ผ่านมาเกิดจากความขัดแย้งที่ไม่ยินยอมกันและพยายามจะผลักดันให้ได้ในสิ่งที่ต้องการของตนเอง หากเป็นแบบนี้คงใช้เวลาในการทำความเข้าใจกับทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องก็จะทำให้ปัญหามันคลี่คลายลงตราบใดที่ยังมีคนต้านแบบรุนแรงและไม่ได้เป็นกลุ่มคนเล็ก ๆ ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลยังไม่ขยับ จนกว่าจะมีข้อสรุปในสังคม

นายภูมิธรรม ยืนยันว่าไม่ได้ยื้ออะไร แต่เป็นการทำความเข้าใจและพยายามจัดการความขัดแย้งที่มีในสังคมให้เกิดประโยชน์สูงสุด และไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาเหมือนอย่างที่เคยเกิดมาแล้วอย่างเดิม