POLITICS

‘ปานปรีย์’ เตรียมตั้งศูนย์ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ‘ไทย – เมียนมา‘ ที่ จ.ตาก

‘ปานปรีย์’ เตรียมตั้งศูนย์ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ‘ไทย – เมียนมา‘ ที่ จ.ตาก เตรียมลงพื้นที่ 8-9 ก.พ. นี้

วันนี้ (30 ม.ค. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการที่ได้ไปประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการที่ประเทศลาว ซึ่งประเทศเมียนมาได้ส่งผู้นำระดับปลัดกระทรวงเข้ามาร่วมประชุมด้วย สำหรับการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ความรุนแรงในเมียนมา ทางการไทยเองได้เสนอพื้นที่สำหรับจัดตั้งการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมระหว่างชายแดนไทย – เมียนมา ซึ่งได้มีการพูดคุยกับรัฐบาลเมียนมาเป็นระยะอยู่แล้ว ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศไทยเองได้มีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นสภากาชาดไทย สภากาชาดเมียนมา รวมถึงสภากาชาดระหว่างประเทศ ซึ่งสภากาชาดไทยและเมียนมาจะเข้ามาดำเนินการก่อน ส่วนสภากาชาด ต่างประเทศจะเข้ามาทีหลัง โดยเหตุผลที่ต้องนำสภากาชาดเข้ามาเกี่ยวข้องนั้น เพื่อความโปร่งใสและปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง

สำหรับการกำหนดเขตพื้นที่มนุษยธรรมนั้น นายปานปรีย์ ระบุว่า จะเริ่มเป็นพื้นที่ ไม่ใช่ตลอดช่วงชายแดน เพราะพื้นที่ชายแดนไทย – เมียนมา ยาวกว่า 2,000 กิโลเมตร เราคงเริ่มจากพื้นที่ในจังหวัดตาก ซึ่งวันที่ 8 – 9 กุมภาพันธ์นี้ ตนเองจะลงพื้นที่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่ใหญ่มากนัก ถ้าในส่วนนี้ประสบความสำเร็จก็จะขยายไปในพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งประเทศในกลุ่มอาเซียนก็ให้การสนับสนุน การริเริ่มของประเทศไทยภายใต้ฉันทามติห้าข้อ

สำหรับมาตรการการป้องกันไม่ให้ประเทศที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องนั้น นายปานปรีย์ กล่าวว่า ภายหลังได้มีการพูดคุยกับนายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศ พรรคคอมมิวนิสต์จีน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็เห็นด้วยกับแนวทางที่เราริเริ่มจัดตั้งพื้นที่มนุษยธรรม พร้อมย้ำว่า จนถึงวันนี้ยังไม่มีใครปฏิเสธ

ส่วนหลักการไม่แทรกแซงกิจการภายในประเทศของกลุ่มประเทศอาเซียนถูกตั้งคำถามถึงสิทธิมนุษยชนในเมียนมา นายปานปรีย์ กล่าวยืนยันว่า หลักการดังกล่าวเป็นหลักการที่กลุ่มประเทศอาเซียนให้ความสำคัญ โดยมองว่า ปัญหาความรุนแรงในเมียนมาเป็นปัญหาภายใน ซึ่งเมียนมาต้องแก้ไขด้วยตนเอง

Related Posts

Send this to a friend