POLITICS

นายกฯ ลงพื้นที่นครสวรรคค์-พิจิตร ติดตามการบริหารจัดการน้ำ

นายกฯ ลงพื้นที่นครสวรรคค์-พิจิตร ติดตามการบริหารจัดการน้ำเพื่อความยั่งยืน และเพื่อการเกษตรสมัยใหม่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย , นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี , นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกฯ ลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ เพื่อตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำเพื่อความยั่งยืน และเพื่อการเกษตรสมัยใหม่

จุดแรก ลงพื้นที่สันฝายเก่าบึงบอระเพ็ด ต.หนองปลิง อ.เมืองนครสวรรค์ ทักทายคณะรำวงนครสวรรค์ที่มาต้อนรับ พร้อมกล่าวว่า ขอให้ทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ขอให้ทุกคนรักและสามัคคีกัน อย่าขัดแย้ง ก่อนจะรับฟังรายงานการบริหารจัดการน้ำบึงบอระเพ็ด “สี่แควโมเดล” สำหรับเป็นทุ่งหน่วงน้ำ เพื่อประโยชน์ทั้งทางด้านบรรเทาอุทกภัยและการสงวนน้ำต้นทุนเพื่อเกษตรกรรม

โดยในปี 2566 มีแผนดำเนินการพัฒนาพื้นที่หน่วงน้ำ ใน 4 พื้นที่ 5 อำเภอ ของจังหวัดนครสวรรค์ ได้แก่ ชุมแสง เมืองนครสวรรค์ ตาคลี บรรพตพิสัยและเก้าเลี้ยว รวมทั้งบึงบอระเพ็ด และอีก 2 พื้นที่ในจังหวัดตอนบน ส่วนในปี 2567-2568 จะดำเนินการเพิ่มเติมอีก 2 พื้นที่ที่เหลือ คือ อ.โกรกพระและหนองบัว ใช้งบประมาณ 13,205 ล้านบาท

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะรับสี่แควโมเดลไว้พิจารณา สิ่งสำคัญคือต้องทำให้รอบคอบทุกเรื่อง ดูว่าตรงอื่นมีอะไรที่จะได้หรือจะเสีย ไม่อยากให้มีความขัดแย้งในพื้นที่ ถ้ามีผู้ที่ต้องเสีย ก็ต้องไปดูว่าจะไปแก้ปัญหาได้ยังไง

นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาทุกครั้ง พื้นที่รับนน้ำพอรับได้ แต่ปีนี้พายุมาจึงทำให้น้ำท่วม น้ำต้องไหลจากเหนือไปใต้แน่นอน สิ่งสำคัญคือการเกษตร ที่มีคู่แข่งขันเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลกำลังดูทุกอย่าง โดยเน้นไปที่เรื่องต้นทุนการผลิต การจัดหาปุ๋ย ที่ปีหนึ่งต้องซื้อกว่า 500 ล้านตัน ทำยังไงถึงจะมีแหล่งผลิตในประเทศ ถ้ามีตรงนี้ จะทำให้ช่วยลดต้นทุน หลายอย่างต้องใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งจะต้องแก้ไขไปตามสถานการณ์

“ทุกวันทำงานด้วยความตั้งใจ ปัญหามีมากมาย ทางปัญหาน้ำมากและนำน้อย จะต้องมีแผนการทำงานยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และต้องบริหารงบประมาณให้ดี ไม่ให้ล้มเหลว สิ่งสำคัญคือ วันนี้มีปัญหารายได้ของประเทศ ทำยังไงจีดีพีของประเทศจึงจะเพิ่มขึ้น เราจะต้องพัฒนา โดยเฉพาะเพื่ออนาคตของลูกหลานของทุกคน วันนี้ดีใจที่เห็นรอยยิ้ม เห็นทุกคนมีความสุข ปลอดภัยจากโควิด ซึ่งเรื่องนี้หลายคนอาจจะลืมไปแล้วแต่เรื่องนี้คือความสำเร็จของเรา โดยที่มีทุกคนให้ความร่วมมือ หลายคนลืมว่าเราได้ทำอะไรสำเร็จแล้ว ทำให้ได้รับการยอมรับจากองค์กรต่างประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีมนตรีถามว่า “เหนื่อยหรือไม่ ถ้าเธอเหนื่อยใจ ฉันก็เหนื่อยใจ ถ้าเธอไม่เหนื่อย ฉันก็ไม่เหนื่อย” ซึ่งก็มีประชาชนตะโกนว่า “ไม่เหนื่อยค่ะ สู้ค่ะเป็นกำลังใจให้นายกฯ สู้ๆ” นายกฯ จึงชูสองนิ้ว บอกว่า รู้สึกดีใจ คนเราอยู่ที่ใจและความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ความจริงใจทั้งหมด และไม่สร้างปัญหาในวันข้างหน้า ทุกคนที่อยู่กับตนต้องทำงานแบบนี้ และไม่สร้างภาระในวันข้างหน้า เพื่อความก้าวหน้าไปเรื่อยๆ ไม่ต้องทำลายสิ่งที่มีอยู่แล้ว ยืนยัน สิ่งที่ทำมาตลอดเพื่อลูกหลานของทุกคน ดังนั้น เวลาที่เหลืออยู่จะต้องทำต่อเนื่อง ก่อนจะย้ำว่า วันนี้มาในนามนายกฯ ไม่ได้มาในนามอย่างอื่น

จากนั้น นายกฯ ได้ร่วมปล่อยปลาตะเพียน และเยี่ยมชมนิทรรศการ และผลิตภัณฑ์ของชาวบ้านและเกษตรกร ก่อนจะไปติดตามการขับเคลื่อนระบบการบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้าในระดับพื้นที่ ณ วัดดงแม่ศรีเมือง อ.บรรพตพิสัย และสักการะหลวงพ่อโต นมัสการพระครูนิวาสบุญญากร เจ้าอาวาสวัดดงแม่ศรีเมือง ณ วิหารหลวงพ่อโต และรับฟังรายงานสรุปการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร (บึงบอน) พร้อมพบปะประชาชนในพื้นที่ และไปตรวจติดตามการพัฒนาความมั่นคงด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ณ โรงพยาบาลบรรพตพิสัย

ส่วนช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการตรวจเยี่ยมต้นแบบการเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็ง ณ โรงพยาบาลบึงนาราง อ.บึงนาราง จ.พิจิตร พร้อมรับฟังสรุปปัญหาการบริหารจัดการน้ำการเกษตรในพื้นที่ ก่อนจะไปตรวจเยี่ยมต้นแบบชุมชนคุณธรรม ณ โรงพยาบาลบางมูลนาก ต.หอไกร อ.บางมูลนาก

ขณะที่ช่วงเย็น จะตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาบางมูลนากเมืองน่าอยู่ ณ ตลาดฟื้นอดีตบางมูลนาก อ.บางมูลนาก ซึ่งมีการปรับปรุงจากตลาดร้างสู่แลนด์มาร์คสุดชิคกลางเมืองบางมูลนาก และสักการะองค์เจ้าพ่อแก้ว ณ ศาลเจ้าพ่อแก้ว จากนั้น จะเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร

Related Posts

Send this to a friend