POLITICS

‘อภิสิทธิ์‘ นำทีม 33 ว่าที่ผู้สมัคร สส.กทม. สักการะศาลหลักเมืองสู้ศึกเลือกตั้ง

‘อภิสิทธิ์‘ นำทีม 33 ว่าที่ผู้สมัคร สส.กทม. สักการะศาลหลักเมืองสู้ศึกเลือกตั้ง มั่นใจแคนดิเดตนายกฯ ปชป.มีอุดมการณ์เดียวกัน ยัน ไม่ขอร่วมงานพรรคทุนสีเทา-คิดแก้ ม.112 บอกชัดเจนอยู่แล้ว หลังถูกถามจับมือ ‘เพื่อไทย’ ได้หรือไม่

วันนี้ (26 ธ.ค. 68) เวลา 07.30 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ดร.การดี เลียวไพโรจน์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำทีมว่าที่ผู้สมัคร สส.กรุงเทพมหานคร ทั้ง 33 คน สักการะศาลหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนสมัครรับเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ (27 ธ.ค.68)

โดยวันนี้เวลา 10.00 น. พรรคประชาธิปัตย์ จะเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของ 3 คนผ่านโซเชียลมิเดียทุกช่องทาง ประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์​ นายกรณ์ และ ดร.การดี​

นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่าวันนี้จะมีการประกาศแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์อีก 2 คน ผ่านโซเชียลมิเดีย คาดว่าสื่อและสังคมน่าจะทราบว่าเป็นใคร ส่วนที่ใครยังเดาไม่ออกก็น่าจะเดาได้แล้ว โดยจุดขายของนายกรณ์และ ดร.การดี ทั้ง 3คนไม่ใช่ต่างคนต่างมา เรามีที่มาที่เหมือนกันในเรื่องความคิดและวิสัยทัศน์ทางการเมือง ทั้งยังเคยทำงานร่วมกันมาในโอกาสต่าง ๆ จึงมีความมั่นใจว่าเรามองอนาคตของประเทศที่เราอยากให้เป็น และเชื่อว่าเป็นอนาคตที่คนไทยอยากเห็น ดังนั้นการทำงานของทั้ง 3 คนจะมีลักษณะของความกลมกลืน เพราะมีโอกาสคุยกันหลายครั้งและทำนโยบายสำหรับหาเสียงมาด้วยกัน

ส่วนเมื่อเทียบกับพรรคการเมืองอื่นถือว่าได้เปรียบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ขอเปรียบเทียบแต่อยากอธิบายให้เห็นที่มาว่าทั้ง 3 คนเคยทำงานร่วมกันมา จึงขอให้ประชาชนมั่นใจ เพราะมีอุดมการณ์เดียวกันและมีวิสัยทัศน์ที่ตรงกัน

เมื่อถามว่าภายหลังเปิดตัวมีกระแสในพื้นที่กรุงเทพมหานครดีขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าที่ผ่านมาเรามีโอกาสพบปะประชาชนก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่คิดว่าประชาชนคงต้องใช้เวลา 40 กว่าวันที่เหลือในการเปรียบเทียบและตัดสินใจ ซึ่งเราก็อยากให้เป็นเช่นนั้น เพราะเราถือว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญมาก เราไม่อยากให้ประเทศไทยติดหล่มอยู่กับสภาพเศรษฐกิจการเมืองแบบที่ผ่านมา จึงอยากให้ประชาชนพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่าโอกาสนี้เป็นโอกาสสำคัญที่เราจะทำให้ประเทศพ้นจากสภาพนี้ ให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี เป็นสังคมที่สงบสุข และประเทศไทยกลับมาผงาดในเวทีโลกอีกครั้ง

ส่วนนอกจากแคมเปญไทยไม่ทนจะมีแคมเปญอื่น ออกมาช่วงเลือกตั้งเพื่อดึงคะแนนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ขณะนี้เราไล่เรียงสภาพปัญหาที่สัมผัสได้จากประชาชนในเรื่องที่เขาเหนื่อย ท้อและต้องทน แต่วันนี้เป็นโอกาสที่จะพ้นจากสภาพนั้น จึงได้เปิดแคมเปญไทยหายจน ซึ่งไม่ได้หมายถึงจนเงินอย่างเดียว จากนี้ไปจะทยอยเปิด นโยบายที่จะเป็นคำตอบว่า การแก้ปัญหาความจนแต่ละด้านเป็นอย่างไร

แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คนของพรรคประชาธิปัตย์ เรามีความชัดเจนว่าไม่ได้มาลอย ๆ แต่เราจะระบุเป้าหมายที่เป็นตัวชี้วัดประเมินเราได้ถ้ามีโอกาสไปทำงาน เช่น ภายใน 4 ปีเศรษฐกิจไทยต้องเติบโตอย่างน้อยร้อยละ 5 อย่างที่เราเคยทำมาในอดีต ฉะนั้นเมื่อเศรษฐกิจโต หนี้สินของภาคประชาชนปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 80-90 ของรายได้ก็จะลดลงตามเหลือร้อยละ 60 เราจึงประกาศชัดว่าทั้งหมดทำได้ด้วยบ้านเมืองสุจริต หมายความว่าประเทศไทยต้องไม่ถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 107 ในดัชนีความโปร่งใส และตัวเลขต้องสูงขึ้นอยู่ที่ประมาณ 80 เหมือนสมัยที่เราเป็นรัฐบาล ซึ่งเราจะทยอยอธิบายว่าการสร้างบ้านเมืองที่สุจริตเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคโนโลยี ปรับรื้อกฎหมาย หรือ การเพิ่มทักษะให้กับบุคลากร ซึ่งจะเป็นคำตอบให้กับประชาชน

สำหรับที่มีการโจมตีใช้วาทำกรรมตอบโต้กันไปมา​ นายอภิสิทธิ์​ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องวาทกรรม แต่เป็นความตั้งใจที่ประกาศและทำจริง ความจริงเมื่อวานนี้ตนเองชี้แจงไปแล้ว 2-3 รายการ ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ประสงค์ตอบโต้ต่อความ แต่เราแสดงจุดยืน สำหรับการสร้างบ้านเมืองสุจริตคือ สิ่งที่ได้รับฟังจากประชาชนจำนวนมากที่ต้องการเห็นบ้านเมืองหลุดพ้นจากสภาพปัจจุบัน หลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศไม่จับมือกับพรรคการเมือง พรรคประชาชนก็มีการประกาศเหมือนกัน

ส่วนที่มีการคาดการณ์ว่าประชาธิปัตย์จะได้ร่วมทำงานกับพรรคประชาชน​ นายอภิสิทธิ์​ กล่าวว่า​ ไม่ได้เป็นเรื่องเดียวกัน ซึ่งมีความพยายามตีความหรือบางครั้งเป็นการยัดเยียดว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งในวันนั้นตนเองเป็นคนที่พูดชัดเจน ในกรณีที่คนเป็นห่วงเรื่อง การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112​ ซึ่งตนเองเป็นคนพูด เนื่องจากพรรคการเมืองต่าง ๆ ไม่มีใครพูดเรื่องนี้ยกเว้น การถูกถามเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งเป็นคนละฉบับกัน ซึ่งตนเองพูดชัดเจนว่านโยบายที่สร้างความแตกแยก เราจะไม่สนับสนุน และร่วมกับรัฐบาลที่มีนโยบายเช่นนั้น ฉะนั้นพรรคการเมืองใด ที่มีนโยบายแบบนี้เราจะไม่ร่วมอยู่แล้ว ซึ่งตนเองเคยพูดตั้งแต่ต้น และไม่ทราบว่าเหตุใดจึงมีความพยายาม ที่จะมายัดเยียดหรือตีความให้ในสิ่งที่ตนไม่ได้พูด

เรื่องนี้ขออย่าตีความ เหตุใดบ้านเมืองทุกวันนี้จึงไม่ตรงไปตรงมา สิ่งที่ตนเองพูดนั้นเป็นข้อเท็จจริง​ ชัดเจน​ วันนี้ตนเองสนใจอารมณ์ของประชาชนทั่วไป มากกว่านักวิเคราะห์หรือกูรูทางการเมืองที่พยายามพูด ทิศทางเกมการเมือง ตนเองอยากได้การเมืองสุจริต พรรคการเมืองบางพรรคที่ไม่สามารถสร้างการเมืองสุจริต ตนเองก็ประกาศไม่ร่วม ซึ่งมีความตรงไปตรงมาง่าย ๆ ส่วนใครอยากตีความก็ตีไป แต่เชื่อว่าประชาชนอยากเห็นบ้านเมืองสุจริต

ทั้งนี้ที่มีความพยายามจับขั้วทางการเมือง นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า เป็นเรื่องของคนอยากจับ วันนี้เราเดินหน้าสร้างบ้านเมืองสุจริต แสดงจุดยืนที่ชัดเจน เพราะการไม่แสดงจุดยืนที่ชัดเจน จะเปิดโอกาส กลับไปสู่การเมืองที่มีข้อตกลงลับ​ มีข้อตกลงแล้วฉีก หรือสลับขั้วเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เพื่อจะทำให้บ้านเมืองอยู่ที่เดิม ดังนั้นวันนี้ประกาศให้ชัด และไม่ได้สร้างปัญหาให้กับใคร และทางพรรคที่เราไม่ร่วมด้วย เขาก็บอกไม่อยากให้เราร่วมอยู่แล้ว ก็เท่านั้นเอง โดยพรรคการเมืองที่อยากจะร่วมด้วยคือ ทุกพรรคที่อยากสร้างบ้านเมืองสุจริต​ มรวิสัยทัศน์​ที่ชัดเจน​ ทำเศรษฐกิจ​เติบโต​ เพื่อประโยชน์สุขของ​ประชาชน

เมื่อถามโอกาสที่จะร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ย้อนถามว่าทำไมต้องถามต่อ ตอนนี้เราพูดกันชัดเจนอยู่แล้ว ขอให้ไปถามคนอื่นที่ไม่ตอบดีกว่า นั่นถือเป็นวาทกรรม ประเภทที่พูดว่าไม่ร่วมทุนเทา แต่หันไปหันมา สุดท้ายกลับไม่มีใครเป็นทุนเทา แล้วมาจากไหนในวันนี้

Related Posts

Send this to a friend