‘ยุทธพงศ์’ ชี้ภารกิจหลักตอนนี้คือล้ม ‘พล.อ.ประยุทธ์’

‘ยุทธพงศ์’ ชี้ภารกิจหลักเวลานี้คือล้ม ‘พล.อ.ประยุทธ์’ ถามกลับ ‘พล.อ.ประวิตร’ จะเป็นนายกฯ ขัดตาทัพแทน ทำได้หรือ และยังไกลเกินถ้าจะมาถามรับได้หรือไม่ มั่นใจ กลุ่ม 16 และ ส.ส. พรรคเล็ก ที่กินข้าวด้วยกัน จะลงมติไม่ไว้วางใจ ถ้ารัฐบาลดันทุรังลงนามสัญญาระบบท่อส่งน้ำอีอีซี
วันนี้ (29 เม.ย. 65) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการนัดทานข้าวกับ ส.ส. กลุ่ม 16 ที่นำโดย นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นการพูดคุยสอบถามถึงประเด็นที่พรรคฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งทุกคนเห็นพ้องว่าหากรัฐบาลยังเดินหน้าประมูลโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ของกรมธนารักษ์ และ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ดำเนินการยับยั้งการลงนามสัญญาในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ ก็จะร่วมโหวตไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ โดยมองว่าเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดการแตกหักได้
“วันนี้ก็มาบอกประยุทธ์ก่อน ประธานอีอีซี แกไม่ทำอะไร ก็ไม่เป็นไร ก็ยื่นไม่ไว้วางใจก็ยื่นไง และก็ดูกันว่า ก็คุยกันเรียบร้อยแล้วเมื่อคืนนี้ ที่ทางหัวหน้ากลุ่ม 16 มาถามเรื่องความพร้อม ของทางพรรคเพื่อไทย ว่าพร้อมขนาดไหน ข้อมูลเป็นอย่างไร แน่นไหม มั่นใจไหมในการอภิปราย ผมเนี่ยก็ยืนยันครับว่าพร้อม”
ส่วนการที่นายพิเชษฐ์ ยังมีสถานะเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ด้วยนั้น จะทำให้ข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านรั่วไหลหรือไม่ นายยุทธพงศ์ บอกว่าขณะนี้ยังไม่มีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะรั่วไหลได้อย่างไร พร้อมยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย มีความพร้อมที่จะยื่นญัตติ เมื่อเปิดประชุมรัฐสภา สมัยนี้แน่นอน
“เมื่อวานนี้ก่อนที่จะมากินข้าวเย็นกัน ผมและ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ได้ประชุมหารือกันเรื่องการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ถามว่าพรรคเพื่อไทยมีเรื่องอะไรที่พร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็มีการสรุปกันของผู้บริหารพรรค เรื่องแรกคือเรือดำน้ำไม่มีเครื่องยนต์ จีทูจีเก๊นั่นแหละ และเรื่องท่อส่งน้ำอีอีซีนี่แหละ และเรื่องที่ 3 ก็มีการหารือกันว่าจะยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจอีกครั้งหนึ่งจะบอกว่าฉายหนังซ้ำก็ได้คือเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว ก็อยากจะดูเหมือนกันว่าพรรคการเมืองบางพรรคจะยกมือกันอย่างไร”
เมื่อถามว่ามีเรื่องการดีลเสียงของพรรคเล็กมาร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน ในการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายยุทธพงศ์ ย้ำว่า เป็นการพูดคุยสอบถามว่าพรรคฝ่ายค้านมีข้อมูลแน่นแค่ไหน และในทางการเมืองก็ไม่มีใครที่จะไปเปิดข้อมูลทั้งหมด แต่ที่ได้คุยกับนายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ และนายดล เหตระกูล รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ก็ย้ำว่าเรื่องประมูลโครงการระบบส่งน้ำอีอีซี เป็นเรื่องสำคัญหลัก เพราะเป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่มีการอภิปราย
เมื่อถามย้ำว่าสถานการณ์ทางการเมือง ขณะนี้ กลุ่ม 16 ยังสนับสนุนรัฐบาลอยู่หรือไม่ นายยุทธพงศ์ บอกว่า ไม่รู้ เพราะคุยแต่เรื่องการอภิปราย และการลงมติ ซึ่งจะหนุนหรือไม่หนุนอยู่ที่การยกมือ ซึ่งถ้าพวกเขาไม่ยกมือ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องไป
ส่วนข้อเสนอที่ให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็น นายกรัฐมนตรีขัดตาทัพ ในช่วงเวลาที่เหลือ หาก พล.อ.ประยุทธ์ เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง นายยุทธพงศ์ ระบุว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ในฐานะฝ่ายค้าน ที่มีหน้าที่เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเที่ยวนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่ต้องโชว์ผลงาน ให้ประชาชนเห็น และต้องล้ม พล.อ.ประยุทธ์ ให้ได้ ส่วนใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน ก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย
เมื่อถามย้ำว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงจริง และ พล.อ.ประวิตร มาเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยจะรับได้หรือไม่ นายยุทธพงศ์ ระบุว่า “ถามว่า พล.อ.ประวิตร จะเป็นนายกฯ เป็นได้อย่างไร กฎหมายรัฐธรรมนูญให้แกเป็นได้หรือ มันต้องมาจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองไม่ใช่หรือ ลิสต์พรรคการเมืองน่ะ”
เมื่อถามว่ามีช่องทางคือการปลดล็อก เสนอชื่อบุคคลนอกบัญชี นายยุทธพงศ์ ย้ำว่า การเสนอชื่อต้องเสนอจากบัญชีก่อน วันนี้ยังมีรายชื่อคนในบัญชีหรือไม่ที่พร้อมจะเป็นนายกฯ ซึ่งก็ต้องให้รายชื่อในบัญชีไม่ผ่านก่อน ค่อยมาถามว่าจะเอาอย่างไร
เมื่อถามย้ำว่าถ้าเป็นชื่อ ‘พล.อ.ประวิตร’ พรรคเพื่อไทยรับได้หรือไม่ นายยุทธพงศ์ บอกว่า ยังไกลเกินไปที่จะพูดถึงตรงนั้น เพราะหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยวันนี้คือไล่ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมท้าว่า “อย่ายุบสภาหนีก็แล้วกัน”
“8 ปีบ้านเมืองฉิบหายหมดแล้ว วันนี้ไปถามชาวบ้านชาวช่องสิ ไม่มีใครเขาเอา ทางอีสานบ้านผมไม่มีใครเขาเอา คนเขาไล่แกทั้งบ้านทั้งเมือง และที่ผมประกาศไล่ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะผมเป็น ส.ส. ผมทำหน้าที่ในสภาได้แน่นอน”
ส่วนแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ที่เหลือ นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย เพียงคนเดียว จะสามารถให้รัฐสภาลงมติเห็นชอบเป็นนายกฯ คนต่อไปได้หรือไม่ นายยุทธพงศ์ ระบุว่า วันนี้ขอล้มพล.อ.ประยุทธ์ ให้ได้ก่อน และขอให้ติดตามว่าพรรคเพื่อไทยจะทำได้หรือไม่ ดังนั้นประเด็นอื่น ๆ ค่อยว่ากันทีหลัง
นายยุทธพงศ์ ยังเชื่อว่าประเด็นนี้ จะมี ส.ส. กลุ่ม 16 รวม 16 เสียง ร่วมกับ พรรคเศรษฐกิจใหม่ 6 เสียง และพรรคชาติพัฒนา 1 เสียง รวม 23 เสียง ที่จะสนับสนุนพรรคฝ่ายค้าน ส่วนพรรคเศรษฐกิจไทย ขณะนี้ยังไม่มีการคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ว่าจะเอาด้วยหรือไม่ และเป็นเรื่องของแต่ละพรรคการเมืองจะตัดสินใจ