สภาฯ เสียงเอกฉันท์ อนุมัติ 2 พ.ร.ก.ปราบอาชญากรรมไซเบอร์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์
สภาฯ เสียงเอกฉันท์ อนุมัติ 2 พ.ร.ก.ปราบอาชญากรรมไซเบอร์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ‘รังสิมันต์’ ท้วง ขาดการคุ้มครองประชาชน จี้หน่วยงานเร่งออกมาตรฐานกลาง
การประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ ที่มี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาอนุมัติพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอเพื่อแก้ปัญหาการหลอกหลวงทางออนไลน์ หรือภัยอาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่ง สส. ส่วนใหญ่ สนับสนุน แต่ได้ท้วงติงต่อการใช้กฎหมาย
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายว่า แม้ พ.ร.ก.ที่ขออนุมัติจากสภาฯ จะบังคับใช้ไปแล้ว แต่ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับเพิ่มมากขึ้น แสดงว่ามีปัญหาต่อการบังคับใช้ ใน พ.ร.ก. ตัดประเด็นกรณีการระงับการเข้าถึงธุรกรรมทางการเงินโดยไม่ผ่านตัวกลางออกไป มองว่าหากรัฐบาลต้องการแก้ปัญหา ต้องมั่นใจว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้โดยให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางที่ต้องได้รับความปลอดภัย เมื่อถูกหลอกต้องได้รับเงินคืน ภาระไม่ควรตกอยู่ที่ประชาชน แต่วันนี้เปิดช่องทางที่ควบคุมไม่ได้
“พ.ร.ก.กำหนดให้สถาบันการเงิน และเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบ หากมีความเสียหาย 100% มีส่วนร่วม1% เท่ากับว่ามีส่วนร่วมแล้ว ดังนั้นโอกาสการได้เงินคืนของประชาชนมีมาตรฐานตรงไหน ถือว่าไม่ใช่การกำหนดภาระความรับผิดชอบกับผู้ประกอบกิจการอย่างแท้จริง เมื่อกฎหมายออกมาแล้ว ต้องมีไกด์บุ๊คเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนในมาตรฐานของเรื่องต่าง ๆ และปรับใช้ต่อผู้ให้บริการและประชาชน เพื่อให้เป็นพยานหลักฐานสำคัญในการพิสุจน์ในชั้นศาล” นายรังสิมันต์ อภิปราย
นายรังสิมันต์ อภิปรายด้วยว่า บัญชีม้า ซิมม้า หรือกระเป๋าวอลเล็ตม้า มีอยู่ธนาคารหนึ่งในชั้นความมั่นคงชี้ข้อมูลชัดว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์นิยมเพราะอนุญาตให้เปิดง่าย ทำไมถึงไม่ดำเนินการ ควรเริ่มให้ผู้ให้บริการรับผิดชอบ นอกจากนี้ สตช. ต้องตรวจสอบซิมม้าหลังพบการนำชื่อคนต่างชาติสวมสิทธิทำผิดกฎหมาย และต้องหาให้เจอว่าระบบผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่ผิดพลาด และใครคือเอเย่นต์ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์
“การทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก่อนหน้านั้น พบว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องปัจจุบันอย่าง พล.ต.ต. ‘ต.’ ดำเนินการแล้วหรือไม่ ต้องพิสูจน์การทำงานเพื่อแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่อไป” นายรังสิมันต์ อภิปราย
นายวิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า กรณีที่ทักท้วงว่าไม่มีข้อบังคับให้ผู้ประกอบการร่วมรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชนที่ถูกหลอกหลวง การไม่ระบุข้อความว่าต้องปรับเท่าไร เพื่อให้เกิดความยืดยุ่น สามารถปรับกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ได้ โดย กสทช. ธปท. ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ จะเป็นผู้กำหนดมาตรฐาน
“เราไม่เคยบอกว่าจะแบนพีทูพี เมื่อแพลตฟอร์มต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยจะถูกกำกับโดย กลต. เขาจะทำไม่ได้หากไม่ได้ขออนุญาต แต่หากเขาขออนุญาตจะถูกกำกับโดยกระทรวงดีอีเห็นพ้องกับกฤษฎีกาที่จะทำให้ธุรกิจป้องกันอาชญากรรมดำเนินการต่อได้” ปลัดกระทรวงดีอี ชี้แจง
นางดารณี แซ่จู ตัวแทน ธปท. ชี้แจงถึงมาตรการการกำกับธนาคารโดย ธปท. ว่า การออกระเบียบกฎเกณฑ์กำกับจะแล้วเสร็จในช่วงปลายไตรมาสนี้
ที่ประชุมได้ลงมติแยกทีละฉบับ ผลปรากฎว่า พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ได้รับมติอนุมัติ 452 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ขณะที่ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ลงมติอนุมัติ 453 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง