นายกฯ ฉุนโดนโทษ หลังสภาฯ ล่ม ซัด ส.ส.เป็นผู้ใหญ่ต้องรู้หน้าที่ตัวเอง
นายกฯ ฉุนโดนโทษ หลังสภาฯ ล่ม ยัน กำชับทุกพรรครับปาก “ครับ ครับ ครับ” ซัด ส.ส.เป็นผู้ใหญ่ต้องรู้หน้าที่ตัวเอง ยังอุบ สังกัดพรรคใด ถึงเวลาจะพูดเอง
วันนี้ (15 ธ.ค. 65) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง การขอเสียงสนับสนุนจากต่างประเทศในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงานภูเก็ต Expo ในปี 2028 พร้อมระบุนี่คืออนาคต สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราต้องทำ ต้องถ่ายทอดให้กับคนรุ่นหลังๆ
“ใครจะเป็นรัฐบาล ก็มาทำเถอะครับ แต่ไม่ทำแล้วมาเล่นงานกันตอนนี้ จะไปวันข้างหน้าได้ไหมเล่า ตนบอกไว้แล้วว่า จะพูดในหลายๆ เรื่องเมื่อกลับมา วันนี้ก็พูดไปแล้ว การเมืองคือการเมือง การบ้านคือการบ้าน ประชาชนคือการบ้าน ที่ตนต้องทำให้เขา การเมืองเป็นการต่อสู้ในสภาก็ว่ากันไป เมื่อเลือกตั้งมาแล้วก็ให้ไปดูเอา ที่พูดกันมาที่ทำกันมา ทำไปได้มากน้อยเพียงใด ถึงเวลาเวลานั้น มันจะได้หรือไม่ได้ ถ้าได้ผมก็ดีใจ ถ้าไม่ได้ก็เสียใจเท่านั้นเอง คำว่าเสียใจคือทำให้ประชาชนมีความสุขไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเสียใจที่ผมไม่ได้เป็นหรือได้เป็น เข้าใจนะ อย่าถามกันบ่อยนัก”
นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่าใครจะไปใครจะมาใครจะลาออก ไปอยู่พรรคไหน ก็เรื่องของเขา เป็นเรื่องของสภาฯ สภาฯ ไม่พอสภาฯ ล่ม ก็มาโทษนายกฯ ก็ผมบอกไปแล้วสั่งทุกพรรคไปแล้ว ให้ไปร่วมประชุมสภาฯ เขาก็ตอบรับว่า ครับ ครับ ครับ ถึงเวลาไปไม่ครบ นายกฯ ทำไมไม่ควบคุม ผมไม่โทษใครไม่โกรธใครอยู่แล้ว อยากให้ประชาชนเข้าใจว่าทุกคนมีหน้าที่ ทุกคนบอกนายกฯ มีหน้าที่ มีความรับผิดชอบต้องดูแลบ้านเมือง ดังนั้น ส.ส.ทุกคน ก็ต้องมีหน้าที่ของตัวเอง ในการทำงานในสภาฯ เป็นผู้ใหญ่แล้วโตกันหมดแล้วอีกเรื่องใครจะออกใครจะเข้าพรรคไหนก็เรื่องของท่าน ผมไม่เคยทะเลาะกับใคร โอเคเท่านี้แหละ
อย่างไรก็ตามเมื่อพูดถึงเรื่องการประชุมสภาฯ ล่ม นายกรัฐมนตรีมีท่าทีที่หงุดหงิดและใช้น้ำเสียงที่เข้มขึ้น ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าท่าทีความชัดเจนทางการเมืองของนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีย้อนถามกลับว่า อะไรอีกล่ะ ก่อนที่สื่อจะตอบกลับว่าความชัดเจนเรื่องไปอยู่พรรคใหม่ นายกรัฐมนตรี พูดด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์ว่า อยู่กันถึงวันนี้ยังไม่รู้เรื่องเลยหรืออย่างไร คืออะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกว่าอยากฟังจากปากของนายกรัฐมนตรี ว่านายกรัฐมนตรีตัดสินใจเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีย้ำคำเดิมว่า คืออะไร และเมื่อสื่อถามย้ำอีกครั้งว่านายกรัฐมนตรีตัดสินใจเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าคิดเอาเองบ้าง เพราะทุกทีเวลาเธอคิดเอาเองเขียนเอาเอง เธอยังคิดได้เลย ก่อนที่จะกระชากกระดาษและเดินออกจากโพเดียม ยื่นส่งให้กับนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญผู้สื่อข่าวจะคิดเองไม่ได้ ต้องให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้พูดเอง พล.อ.ประยุทธ์ โบกมือปัดไม่ขอตอบคำถามแต่อย่างใด และย้ำว่า เมื่อถึงเวลาจะพูดเอง และผู้สื่อข่าวยังตะโกนถามต่ออีกว่า เวลาที่นายกรัฐมนตรีพูดถึงคือเมื่อใด นายกรัฐมนตรีไม่ตอบ คำถามแต่อย่างใด ก่อนที่จะเดินทางกลับในทันที
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 บน.6 ในเวลา 15.00 น. โดยมี พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประพัฒน์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มารอต้อนรับ โดยคาดการณ์ว่าเป็นการรายงานสถานการณ์ขณะที่นายกฯไม่อยู่ เนื่องจากทันทีที่ นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงได้มีการพูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสักครู่ ก่อนที่จะเดินเข้ามาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน