POLITICS

‘ร.อ.ธรรมนัส’ เผย คืบหน้า ‘โฉนดชุมชน’ พร้อมขับเคลื่อนตามหลักการ ‘พีมูฟ’

‘ร.อ.ธรรมนัส’ นั่งหัวโต๊ะ เปิดประชุมอนุกรรมการแก้ปัญหาที่ดินทั้งระบบ เผย คืบหน้า ‘โฉนดชุมชน’ พร้อมขับเคลื่อนตามหลักการ ‘พีมูฟ’

วันนี้ (27 ก.พ. 67) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบ ร่วมกับขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับความคืบหน้าแนวทางโฉนดชุมชน ปัญหาผลกระทบจากการมาตราการห้ามเผาและการกำจัดเชื้อเพลิงในพื้นที่เกษตร ที่มีผลกระทบต่อไร่หมุนเวียนของชุมชนชาติพันธุ์ และผลกระทบจากการบังคับใช้ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 และการแก้ไขปัญหาการเข้าถึงสาธารณูปโภคในที่ดินของรัฐทุกประเภท ตามมติ คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) วันที่ 20 ก.พ. 67

จากการประชุมคณะอนุกรรมการที่ดินทั้งระบบ ผลการประชุมโดยรวมเป็นไปในทิศทางที่ดีและสอดคล้องกับเป้าหมายของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องแนวทางโฉนดชุมชน ที่เป็นหัวใจหลักของการออกมาปักหลักชุมนุมครั้งนี้ หลังจากที่คลุมเครือมาเกือบสามสัปดาห์ระหว่างการชุมนุม จนกระทั่งมีการเปิดประชุมคณะอนุกรรมการที่ดินทั้งระบบครั้งแรกนี้ ที่มีการเสนอวาระเพื่อพิจารณาเรื่องแนวทางโฉนดชุมชนเข้าในที่ประชุม และที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับหลักการทั้งหมดที่ทางพีมูฟเสนอ ซึ่งมีแนวทางและขั้นตอนการขับเคลื่อนดังนี้

“1. ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ประสานงานสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานการปฏิรูปที่ดิน เพื่อเกษตรกรรม และขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) จัดทำระเบียบสำนักนายกว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ. …. (ฉบับที่3/ฉบับปรับปรุงแก้ไข) รวมถึงยืนยันแนวทางการดำเนินการโฉนดชุมชน และให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ นำเสนอมาตรการและแนวทางการยกระดับโฉนดชุมชนตามระเบียบสำนักนายกว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ. 2553 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ปี พ.ศ. 2555 และฉบับที่3/ฉบับปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้การดำเนินการโฉนดชุมชนเป็นรูปแบบหนึ่งของการจัดที่ดิน ตามมาตรา 10 (4) แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ในวาระการพิจารณาการประชุมของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบ ครั้งที่ 1/2567 ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 พ.ศ.2567 เพื่อส่งต่อให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม

2.ให้สำนักงานโฉนดชุมชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จัดประชุมคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน ภายในเดือนมีนาคม 2567 เพื่อกำหนดเป้าหมายและแผนการขับเคลื่อนงานของสำนักงานโฉนดชุมชน และนำร่างที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) จัดทำ (ร่าง) ระเบียบสำนักนายกว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ. …. (ฉบับที่3/ฉบับปรับปรุงแก้ไข) เข้าสู่การพิจารณา

3.ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ นำแนวทางการดำเนินการโฉนดชุมชนและนำร่างระเบียบสำนักนายกว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ. … (ฉบับปรับปรุงแก้ไข) ที่ได้รับการรับรองจากคณะอนุกรรมการที่ดินทั้งระบบ เข้าสู่การเสนอให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเพื่อพิจารณารับรอง ภายในเดือนเมษายน 2567 และนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ประกาศใช้ภายในเดือนพฤษภาคม 2567

4.ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ จัดทำและแก้ไขกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ ให้สำนักงานโฉนดชุมชนเป็นหน่วยงานภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรี และมีภารกิจในการบริหารจัดการที่ดินด้วย โดยให้เกิดผลภายใน 6 เดือน และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบต่อไป

ส่วนกรณีมาตรการห้ามเผาที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนชาติพันธุ์กะเหรี่ยงที่ต้องเตรียมพื้นที่เพาะปลูกข้าวตามระบบเกษตรไร่หมุนเวียน มติที่ประชุมเห็นชอบตามข้อเสนอ และให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษามติ ครม. 3 ส.ค. ปี 2553 ว่าด้วยแนวนโยบายและหลักปฏิบัติในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง ซึ่งมีข้อมูลเรื่องไร่หมุนเวียนอยู่ และในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีหน่วยงานที่รับผิดชอบงานด้านกลุ่มชาติพันธุ์ คือ ‘สถาบันพัฒนาและวิจัยพื้นที่สูง’ ซึ่งทางกระทรวงจะดำเนินการให้ชุมชนในพื้นที่ของหน่วยงานกว่า 8,000 ชุมชน สามารถเข้าถึงการพัฒนาอาชีพ สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึง โดยให้การพัฒนาเป็นไปตามความประสงค์ของประชาชนในพื้นที่”

ทั้งนี้ พีมูฟมีข้อเสนอว่า ชุมชนชาติพันธุ์กะเหรี่ยงที่ต้องเตรียมพื้นที่เพาะปลูกข้าวตามระบบเกษตรไร่หมุนเวียน ซึ่งเป็นวิถีเกษตรที่มีความเฉพาะลักษณะนิเวศที่มีความจำเป็นต้องใช้ไฟในการทำแนวกันไฟ การจัดการเชื้อเพลิงสะสม และเตรียมแปลงเพาะปลูกที่ต้องอาศัยช่วงเวลาที่สอดคล้องตามบริบทนิเวศแต่ละชุมชนและต้องคำนึงถึงสภาพอากาศที่เหมาะสมขณะดำเนินการ โดยแต่ละชุมชนจะต้องดำเนินการในช่วงระหว่างกุมภาพันธ์จนถึงเมษายนของทุกปี ซึ่งมักจะเป็นช่วงเวลาที่มีการประกาศมาตรการห้ามเผาอย่างไม่แยกแยะกรณี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงด้านคดีความอันไม่เป็นธรรม ป้องกันผลกระทบต่อการดำรงชีพของชุมชนและเพื่อส่งเสริมการป้องกันปัญหาไฟลุกลามไม่พึงประสงค์

จึงขอให้มีการประสานงาน เพื่อรับทราบข้อมูล สร้างความเข้าใจ แจ้งจำนวนพื้นที่เป้าหมาย กรณีชุมชมกะเหรี่ยงกับการดำเนินการดังกล่าวข้างต้นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับจังหวัด โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครอง องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น หน่วยงานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ขอให้มีข้อชี้แจง ข้อสั่งการหรือแนวทางปฏิบัติไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ส่วนกรณีชุมชนคลองโยง จ.นครปฐม ที่เป็นประเด็นภาษีที่ดินแปลงรวม มีมติชัดเจนในที่ประชุมว่า การเสียภาษีที่ดินเห็นชอบให้งดเว้นภาษีในปีนี้ และเปลี่ยนการเก็บภาษีเป็นแบบแปลงย่อยแทนแปลงใหญ่ และให้กระทรวงการคลังนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

ส่วนกรณีร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองสิทธิและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง พ.ศ….. ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ จะดำเนินการเสนอไปยังสภาผู้แทนราษฏร โดยจะแต่งตั้งคณะกรรมการวิสามัญเพื่อศึกษาเรื่องนี้ โดยมีสัดส่วนของประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมต่อไป

ทั้งนี้ ในวันที่ 28 ก.พ. 67 นี้ ตัวแทนของพีมูฟ พร้อมด้วยรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จะเข้าหารือกับรองนายกรัฐมนตรีภูมิธรรม เวชยชัย ในเรื่องที่หารือกันวันนี้ เพื่อทำความเข้าใจและเตรียมความพร้อม ก่อนการนัดหมายประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาขปส.ต่อไป

Related Posts

Send this to a friend