POLITICS

นายกฯ เผย รัฐบาลเน้นเยียวยาช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจแก่ผู้ประสบอุทกภัย

นายกฯ เผย รัฐบาลเน้นเยียวยาช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจแก่ผู้ประสบอุทกภัย ย้ำ คปภ. ต้องเร่งจ่ายเงินประกัน ยัน รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ให้อำนาจ รองนายกฯ – รมต.ที่กำกับดูแลพื้นที่น้ำท่วม สั่งการได้เสมือนข้อสั่งการนายกฯ ด้าน ’เอกนิติ‘ ย้ำ พร้อมเยียวยา หากน้ำลด จ่ายเงินทันที คุยเครือข่ายวายุภักษ์ – คปท. เคลมประกัน ต้องง่าย และรวดเร็ว ขณะที่ ‘ตรีนุช‘ ชี้ ก.แรงงาน เร่งสำรวจสถานประกอบการ เบื้องต้นกระทบ 1 หมื่นสถานประกอบการ ลูกจ้างอีก 2 แสนราย สั่งเยียวยาเร็วที่สุด

วันนี้ (27 พ.ย. 68) เวลา 12:20 น. ที่กระทรวงการคลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แถลงข่าวภายหลังการประชุมบูรณาการช่วยเหลือเยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ว่า วันนี้ได้ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการหามาตรการช่วยเหลือ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการ และภาคธุรกิจ ตลอดจนหามาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ทั้งนี้ มีการตั้งกรอบให้การช่วยเหลือเยียวยา และฟื้นฟูเหตุที่เกิดขึ้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และจังหวัดใกล้เคียงที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยการประชุมวันนี้เพื่อจัดสรรกรอบงบประมาณ และเชื่อมโยงเครือข่ายทรัพยากร และเครือข่ายการสื่อสาร ให้เป็นไปทิศทางเดียวกัน และเป็นการดำเนินการภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมีการยกเว้นระเบียบต่างๆ เพื่อความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า วันนี้ที่มาประชุมที่กระทรวงการคลัง เพราะต้องการเน้นเรื่องการเยียวยา และการช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจแก่ผู้ที่ประสบความเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือนิติบุคคล ส่วนการให้ความช่วยเหลือ และความปลอดภัยในชีวิต รวมถึงการดำรงชีวิตของพี่น้องประชาชน ขณะเกิดเหตุตนได้เดินทางลงไปในพื้นที่ตลอดเวลา โดยได้ประสานงานกับฝ่ายปกครองตำรวจ ทหาร และหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ ขณะอยู่ในพื้นที่มีการระดมกำลังต่างๆมีผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นผู้บัญชาการสั่งการ ซึ่งอยู่ในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้ตนจึงขึ้นมาดูเรื่องประมาณในการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงแรงงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) สำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่ต้องดูการเร่งจ่ายค่าประกันภัยให้กับประชาชนในที่เกิดเหตุ

“วันนี้มาเพื่อให้การดำเนินการเร็วที่สุด โดยมีมาตรการช่วยเหลือด้านการเงินด้วย ไม่ว่าจะเป็นการลดหย่อนภาษี การพักชำระหนี้ การให้สินเชื่อที่ไม่มีดอกเบี้ยเพื่อซ่อมแซมร้านค้า และการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการดำรงชีวิตของพี่น้องประชาชนในที่เกิดเหตุ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรึ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยใช้เวลาทุกวินาทีเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย ขณะนี้ตนได้ขอให้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งทั้งสองท่านประจำอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุหลายวันแล้ว และได้มีการสั่งการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งพยายามทำให้ระดับน้ำลดเร็วที่สุด และสั่งการให้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ขณะนี้ทราบว่าสถานการณ์ในพื้นที่คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น

อีกทั้ง ตนได้ออกคำสั่งให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีแต่ละท่านรับผิดชอบแต่ละจังหวัดที่เกิดเหตุน้ำท่วม โดยร้อยเอกธรรมนัส จะสามารถสั่งการเปรียบเสมือนเป็นข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในพื้นที่จังหวัดสงขลา รวมถึงนายพิพัฒน์ นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี นายสันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับการมอบหมายให้โดยที่แต่ละจังหวัด สามารถสั่งการในนามของนายกรัฐมนตรีได้เลย เพียงแต่ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้ประกาศให้ใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ดังนั้น จะมีการบูรณาการดำเนินการอย่างเต็มที่

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในด้านสาธารณสุขรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้รับมอบหมายให้ผู้ป่วยเกิดความมั่นใจ รวมถึงการสนับสนุนโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง ตลอดจนการเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม หากมีความจำเป็น ซึ่งบุคลากรสาธารณสุขท่านมีประสบการณ์ในการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้มาแล้ว ดังนั้น ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจ และขอให้รับฟังการแถลงข้อมูลของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ในทุกๆ วัน เพื่อที่จะได้มีการสื่อสารที่ถูกต้อง ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้เหมือนช่วงโควิด -19 ถ้าประชาชนรับฟังข่าวสารจากช่องทางอื่นๆ จะทำให้เกิดความสับสน

นายกรัฐมนตรี ยังขอให้ประชาชนยึดถือข้อมูลของ ศป.กฉ.ที่แถลงทุกวัน เพราะเป็นข้อมูลที่เป็นทางการที่จะสื่อสารถึงพี่น้องประชาชน ซึ่งตนขอให้มีการแถลงทั้งช่วงเช้า และช่วงบ่าย เพื่อให้ประชาชนทราบข้อมูลมากที่สุด นอกจากนี้ มอบหมายให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงไปบังคับบัญชาสถานการณ์ร่วมกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในพื้นที่เกิดเหตุเพื่อให้เกิดความคล่องตัวมากที่สุด

ด้าน นายเอกนิติ ระบุว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตน เป็นประธานในการบูรณาการ เตรียมมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟู ร่วมกับรัฐมนตรีแรงงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อสังคม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งวันนี้ได้ทำงานร่วมกัน โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบาย และให้แนวคิด โดยจะให้ความช่วยเหลืออย่างเร็วที่สุด ในปัจจัย 4 น้ำ เครื่องดื่ม อุปโภคบริโภค ยารักษาโรค รวมถึงเรื่องการเงิน กระทรวงการคลัง ได้ขยายวงเงินระบบราชการ เพื่อนำไปดูเเลประชาชนได้ทันทีจำนวน 100 ล้านบาท พร้อมทั้งออกหนังสือเวียนถึงแนวทางการปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้าง ให้ สามารถดำเนินการได้ทันทีภายใต้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการช่วยเหลือประชาชน นี่คือสิ่งที่จำเป็นที่สุด

นายกรัฐมนตรี ยังได้มอบหมายให้กรมบูรณาการส่วนราชการต่างๆ เพื่อวางระบบในการเยียวยา น้ำลดเมื่อไหร่ ทุกอย่างต้องพร้อมทันที โดยวันนี้ได้มีการพูดคุยกับเครือข่ายวายุภักษ์ และให้เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือคปภ. ในการประสานกับสมาคมต่างๆ ในการเคลมประกัน จะต้องง่ายและรวดเร็ว เงินจะต้องเบิกจ่ายทันทีเพียงแค่ถ่ายรูปเคลม ไม่ต้องรวบรวมเอกสารใดใด ส่วนรายละเอียดจะมีการแจ้งให้ทราบ แต่วันนี้หัวใจสำคัญคือเงินต้องลงไปทันที

นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยกับสถาบันการเงินของรัฐเพื่อออกแพ็คเกจ พักหนี้ พักดอก สำหรับครัวเรือนที่เดือดร้อนโดยทันที รวมถึงสินเชื่อดอกเบี้ย 0% ซึ่งลูกหนี้ไม่ว่าจะของแบงค์รัฐหรือของแบงค์เอกชน ที่มีวงเงินกู้ สามารถใส่เงินเข้าไปได้ทันที ภายใต้กรอบที่กำหนด

นายเอกนิติ กล่าวอีกว่า กระทรวงการคลังยังมีสถานที่ราชพัสดุ โดยได้ให้อธิบดีกรมธนารักษ์ ลงพื้นที่ไปดูสถานที่ เพื่อไปช่วยเสริมศูนย์อพยพที่มีอยู่เดิม 5-6 แห่ง เพื่อรองรับประชาชนที่เดือดร้อน โดยแต่ละกระทรวงได้แบ่งงานกันทำ กระทรวงพาณิชย์ก็จะไปดูแลเรื่องราคาสินค้า พร้อมย้ำว่ากระทรวงการคลัง ใช้เครือข่ายวายุภักษ์ ที่บูรณาการการทำงานร่วมกับทุกฝ่าย

ขณะที่ นางสาวตรีนุช กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้เร่งสำรวจสถานประกอบการ และลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบ โดยข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ได้แจ้งตัวเลขมาว่า มีสถานประกอบการกว่า 10,000 แห่ง และมี ลูกจ้าง 200,000 ราย ได้รับผลกระทบจากเหตุการณนี้ ซึ่งเป็นข้อมูล ณ วันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ดูแล หรือดูโครงการ ที่จะสามารถเร่งรัดดูแลเยียวยาได้เร็วที่สุด

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงาน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่ประกันตน เรามีโครงการสิทธิประโยชน์ กรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยอันเกิดจากภัยธรรมชาติ ซึ่งผู้ประกันตนที่ประสบปัญหาไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้ เรามีกองทุนประกันสังคมในการดูแล ที่จะจ่ายค่าจ้างในวันที่ไม่ได้ไปทำงาน 50% ของค่าจ้างรายวันที่ควรจะได้ โดยอยู่ห้วงช่วงเวลาไม่เกิน 6 เดือน และจะครอบคลุมในช่วงฟื้นฟู ซึ่งผู้ประกันตนสามารถดำเนินการได้ผ่านการดาวน์โหลดในเว็บไซต์ประกันสังคมได้ทันที

ส่วนการฟื้นฟู ในเรื่องการซ่อมต่างๆ นางสาวตรีนุช ระบุว่า กระทรวงแรงงาน มีศูนย์ซ่อม สร้าง ในการที่จะดูแลเบื้องต้นหลังจากน้ำลด ที่จะช่วยซ่อมบ้านหรือยานพาหนะ ซึ่งเราได้ประสานงานเตรียมความพร้อมตามที่นายกรัฐมนตรีได้ดำริไว้

Related Posts

Send this to a friend