‘ชัยชนะ’ ฟาดแม่ยก-คนออกจากพรรค หยุดเสี้ยม ยันไม่มีใครขับ ‘ชวน’ พ้นพรรค
‘ชัยชนะ’ ย้ำ เข้าร่วม ‘รัฐบาลแพทองธาร’ ต้องเป็นมติพรรค ฟาดแม่ยก-คนออกจากพรรค หยุดเสี้ยม สร้างความแตกแยก ยืนยันไม่มีใครขับ ‘ชวน’ พ้นพรรค
วันนี้ (27 ส.ค. 67) นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ในการเข้าร่วมรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตรว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการประชุม สส. ต้องรอผลการประชุมก่อน และยังไม่มีการเทียบเชิญ ซึ่งทุกอย่างรับทราบมาจากสื่อ และไม่รู้ว่าสื่อนำข่าวมาจากไหน
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าบุคคลใกล้ชิด นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ปรากฏตัวที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล จนมีการเข้าใจว่าไปส่งเอกสารของผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี นายชัยชนะระบุว่า ต้องไปถามเลขาธิการพรรคฯ ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าบุคคลที่อ้างถึงเป็นคนของเลขาธิการพรรคจริงหรือไม่ เพราะไม่มีภาพมายืนยัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการคุยกันหรือไม่หลังมีกระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมรัฐบาล นายชัยชนะระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ มีหลักชัดเจน หากเข้าร่วมรัฐบาล จะต้องมีการเทียบเชิญ จากนั้นจะต้องมีการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรค และ สส.ของพรรค เพราะฉะนั้นคิดว่าสิ่งที่เป็นข่าวในขณะนี้ ออกมาจากสื่อ ไม่มีบุคคลใดในพรรคออกมายืนยัน
ส่วนที่เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่ามติพรรคประชาธิปัตย์ได้มอบให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคฯ ไปเจรจา และมีข่าวว่าหัวหน้าพรรคเจรจาแล้ว จนหัวหน้าพรรคออกมายอมรับว่าเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะการประชุมพรรคครั้งก่อนมีการขอถอนมตินั้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายชัยชนะระบุว่า ตามที่หัวหน้าพรรคชี้แจงถูกต้องแล้ว ว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้เสนอ แต่ก็มีการถอนมติออกไป
หลังจากมีกระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมรัฐบาลทำให้มีกระแสข่าวว่า คนที่ไม่เห็นด้วยอย่างนายชวน หลีกภัย จะถูกขับออกจากพรรค นายชัยชนะกล่าวว่า นายชวนเป็นผู้ใหญ่ในพรรคที่ทุกคนให้ความเคารพนับถือ ไม่มีใครขับท่าน ซึ่งท่านให้สัมภาษณ์ชัดเจนว่าความเห็นส่วนตัวเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายหากมติพรรคเป็นอย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามนั้น ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นเรื่องที่กรรมการบริหารพรรคยังไม่เคยมีการประชุมกัน เพราะยังไม่มีการเทียบเชิญอย่างเป็นทางการ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นออกมาจากสื่อมวลชนเท่านั้น ต้องถามสื่อว่าได้ข่าวมาจากไหน ซึ่งคนที่มีรายชื่อก็ไม่มีใครออกมายืนยัน ต้องยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะมี 25 เสียง แต่ก็มีหลัก และอุดมการณ์ของพรรคอย่างชัดเจน ทำตามระเบียบวิธีการขั้นตอนในการเข้าร่วมรัฐบาล เพราะฉะนั้นไม่มีใครคนใดคนหนึ่งที่ตัดสินใจได้ การที่มีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล แล้วต้องขับนายชวนออกจากพรรค ขอยืนยันว่าไม่มีทาง และย้ำว่า ประชาธิปัตย์ทำงานด้วยกันอยู่แล้ว
“ก็ต้องยอมรับว่าคนในพรรคไม่ได้พูด คนนอกพรรคพูด แล้วคือใคร เวลาหาเสียงเลือกตั้งเคยมาช่วยหรือไม่ ที่บอกเป็นแม่ยก ตอนหาเสียงอยู่ตรงไหน และไม่ทราบว่าแม่ยกเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ และทราบหรือเปล่าว่ากระบวนการกว่าจะได้ 25 ที่นั่ง สส. ทุกคนต้องลงพื้นที่หาเสียงเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน มันมีอยู่ 2 อย่าง คือพูดสนุกปาก พูดให้แตกแยก กับให้คนรักกัน ก็แค่นั้น ผมคิดว่าทุกคนที่ยืนอยู่ในพรรคทั้งหมด ทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ตัวผมเองและ สส. ให้ความเคารพ ท่านชวน ท่านบัญญัติ ท่านจุรินทร์ ให้ความเคารพทั้งหมด และเป็นหนึ่งเดียวกันแน่นอน เพราะฉะนั้นหยุดเสี้ยม หยุดทำร้ายพรรค คนที่ออกจากพรรค ด่าพรรค โจมตีพรรคขอหยุดเถอะครับ” นายชัยชนะกล่าว
นายชัยชนะกล่าวต่ออีกด้วยว่า วันนี้คำว่า รักพรรค ยืนยันอยู่เสมอว่า รักในวันที่พรรคตกต่ำ มาช่วยกันฟื้นฟู ไม่ใช่บอกว่ารักพรรคต้องเป็นโน่นเป็นนี่ ขอถามกลับว่าในวันที่คุณยืนอยู่ในพรรคได้ทำประโยชน์อะไรให้กับพรรคบ้าง ซึ่งหมายถึงทุกคนที่วิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมถามกลับว่าพรรคทำอะไรผิด ไม่มีใครทำอะไรผิด เข้าร่วมรัฐบาลแล้วหรือ มีการประชุมพรรคไปแล้วหรือ คิดกันไปเอง หากบอกว่ามีใครแอบไปคุย ท้าให้ไปเอาหลักฐานมา ว่าคุยที่ไหนเมื่อไหร่ อย่าพูดอะไรลอย ๆ
นายชัยชันะยังชี้แจงกรณีเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ได้พบกับนายทักษิณ ชินวัตร ว่าในฐานะที่ตนเองอายุน้อยกว่า และนายทักษิณก็อายุเยอะกว่า เป็นตามมารยาทไทยในการไหว้ เพราะเด็กเราก็ยังไหว้ แล้วการไหว้ผู้ที่มีอายุมากกว่าผิดตรงไหน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นไม่แฟร์ หลังจากที่มีผู้มาวิพากษ์วิจารณ์ตนเองว่านอบน้อม และเหตุใดต้องไปไหว้ ส่วนตัวมองว่าผู้ที่วิจารณ์ไม่ได้หวังดีต่อประเทศชาติ
ผู้สื่อข่าวยังถามอีกด้วยว่าต้องก้าวข้ามความขัดแย้งใช่หรือไม่ นายชัยชนะระบุว่า ในฐานะคนรุ่นใหม่ เราต้องไม่ยึดติดกับอดีต เห็นด้วยกับการก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่ต้องก้าวข้ามความขัดแย้งในสิ่งที่ถูกต้อง












