‘ชูวิทย์’ ชี้สูตรตั้งรัฐบาล ใช้พรรคอันดับ 3 เป็นแกนนำ สลัด ‘ก้าวไกล’ ฉีก MOU มั่นใจได้นายกฯ ไม่เกิน 15 ส.ค.
‘ชูวิทย์’ แฉ “ฮ่องกงซุปเปอร์ดีล” อ้าง เตรียมพา ‘ทักษิณ’ กลับไทย แลกรัฐบาลผสม ในแผน “เหลืองรวมแดงล้มส้ม” ชี้ สูตรตั้งรัฐบาล ใช้พรรคอันดับ 3 เป็นแกนนำ สลัด ‘ก้าวไกล’ ฉีก MOU ดัน ว่าที่นายกฯ ตัวสูง แลก ตำแหน่งรัฐมนตรี มั่นใจ เคาะ นายกฯ – ครม. เสร็จ ไม่เกิน 15 ส.ค. เตรียมแฉ ว่าที่นายกฯ เพิ่มหลังจากนี้
วันนี้ (26 ก.ค. 66) เวลา 14:00 น. ที่โรงแรมเดวิส สุขุมวิท 24 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในประเด็น “ทำไมทักษิณถึงกลับบ้าน” โดยนายชูวิทย์ ได้เปิดเผยถึงสาเหตุของการที่ออกมาพูดในเรื่องนี้ เพราะมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ มีการปล้นคะแนนประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเองไม่สามารถรับได้
นายชูวิทย์ยังระบุอีกว่า จากผลการเลือกตั้ง ฝ่ายที่อ้างตัวเองว่าเป็นประชาธิปไตยได้ออกมาบอกว่า ฝั่งเผด็จการพ่ายแพ้แล้ว แต่หลายคนก็ไม่เชื่อ แม้แต่คนที่ร่วมทำ MOU ด้วยกันมาก็ยังเชื่อว่า การจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง และพังตั้งแต่วันแรก มีหลายคนที่ออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าว อาทิ นายศิธา ทิวารี แกนนำพรรคไทยสร้างไทย, นายจตุพร พรหมพันธุ์ และตนเอง ที่ออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่อง MOU มาตลอด และก็ถูกต่อว่า กระแนะกระแหนว่าเป็นพวกปั่นกระแส
นายชูวิทย์ยังกล่าวอีกด้วยว่า รอยร้าวได้เริ่มเกิดมาตั้งแต่ตำแหน่งประธานสภาฯ ไล่มาจนถึงการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบแรกที่โหวตไม่ผ่าน เพราะเสียงไม่ถึง ไปจนถึงรอบสอง ที่ไม่สามารถเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซ้ำได้เป็นครั้งที่ 2 และในรอบที่สาม ที่ถูกเลื่อนออกไปอีก โดยเมื่อพรรคก้าวไกล ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จึงต้องส่งไม้ต่อให้กับพรรคเพื่อไทยดำเนินภารกิจเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเชิญ 188 เสียงของกลุ่มอำนาจเก่า หรือ พรรครัฐบาลเดิมเข้ามาหารือ แนวทางแก้ไขปัญหาของประเทศ แต่ในทางการเมืองคือตั้งใจโชว์ให้สื่อมวลชนเห็นว่ามีการพูดคุยทางการเมือง และชักชวนไปตามมารยาท
นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงดีลลับที่ฮ่องกง หรือที่เรียกกันว่า “ซุปเปอร์ดีล” พร้อมเปิดรูปภาพ ที่ถ่ายเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมาเมื่อเวลา 15:00 น ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองเกาลูน เขตบริหารพิเศษ ฮ่องกง โดยภายในภาพมีนายทักษิณ ชินวัตร, น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี, แกนนำพรรคเพื่อไทย แกนนำของพรรคร่วมรัฐบาลเดิม รวมถึงกลุ่มทหาร และกลุ่มนายทุน พร้อมระบุว่า หากถามว่าทำไมพรรคเพื่อไทยจะต้องไปหารือ เพราะพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนอยู่ตรงกลาง เป็นตัวแปรระหว่าง ฝั่งจัดตั้งรัฐบาล 312 เสียง และฝั่งรัฐบาลเดิม 188 เสียง การที่นายทักษิณกลับมาจึงเป็นเงื่อนไขในการปล่อยซุปเปอร์ดีลนี้ หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเงื่อนไข แต่ตนมองว่านายทักษิณจะมาเป็นคนคุมเกม หรือที่เรียกว่า “การเอาแดงมารวมกับเหลืองเพื่อล้มส้ม”
นายชูวิทย์ ยังตั้งคำถามว่า เหตุใดนายทักษิณจะต้องกลับมาในช่วงเวลานี้ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ และมาเป็นตัวประกันสำหรับดีลนี้ ซึ่งมองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือการปล้นทรัพย์สินของประชาชนมา และการเอาคน 1 คนไปแลกกับ 26 ล้านเสียงมันคุ้มค่าหรือไม่
จากนั้น นายชูวิทย์ ได้จำลองสูตรจัดตั้งรัฐบาล โดยใช้เว็บไซต์จำลองของ THE STANDARD โดยมีการนำพรรคที่นายชูวิทย์อ้างว่าจะมาเป็นรัฐบาล มี 3 พรรคแกนนำหลัก ได้แก่ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ ที่มีคะแนนรวมกัน 279 เสียง ส่วนพรรคฝ่ายค้าน นำโดย พรรคก้าวไกล พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีคะแนนรวม 221 คะแนน ซึ่งระบุว่าเป็นสูตรสำเร็จ ส่วนการจะเป็นรัฐบาลผสมได้ นายชูวิทย์ย้ำว่า ดีลนี้จะเกิดขึ้นได้ นายทักษิณจะต้องกลับมาเมืองไทยก่อน
นายชูวิทย์ อ้างว่าในการโหวตครั้งถัดไป คือการโหวตทดลอง เพื่อเช็คเสียง และไม่มีทางที่จะเลือกได้สำเร็จ เปรียบเหมือนการโหวตหลอก โดยแคนดิเดตนายกฯ ที่เพื่อไทยจะเสนอชื่อ คือ บุคคลสูงอายุ ในการโหวตเลือกครั้งที่ 3 ที่ตนเองมั่นใจว่าจะไม่สำเร็จ ส่วนหนึ่งเพราะ นายทักษิณยังไม่เดินทางกลับมา
นายชูวิทย์ อธิบายเพิ่มเติมว่าการโหวตครั้งที่จะสำเร็จอาจจะเป็นการโหวตครั้งที่ 3 หรือ ครั้งที่ 4 ก็เป็นไปได้ โดยสูตรดังกล่าวจะให้พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเป็นสูตรนี้ที่น่าจะสำเร็จ เพราะพรรคภูมิใจไทยสามารถเชิญหลายพรรคการเมืองมาพูดคุยกันได้ แต่อย่างไรก็ตาม สูตรนี้ นายชูวิทย์ ยืนยันได้ว่า จะไม่มีการรวมกันของ 2 ลุง (พลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ) อย่างแน่นอน เป็นไปได้มากที่สุดคือมีพรรคพลังประชารัฐเข้าร่วมเพียง 1 พรรคเท่านั้น และพรรคภูมิใจไทยจะเป็นเงื่อนไขในการแกะข้าวต้มมัด ระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ออกจากกัน และยืมมือพรรคภูมิใจไทย เพื่อฉีก MOU เพราะพรรคภูมิใจไทยจะเป็นผู้เลือกว่าจะเอาใครมาเป็นพรรคร่วมฯ จัดตั้งรัฐบาล
นายชูวิทย์ ยังกล่าวอีกว่าหลังจากการกลับมาของนายทักษิณ ซึ่งตนมีข้อมูลว่าขณะนี้พักอยู่ที่ประเทศกัมพูชา และในวันที่ 10 สิงหาคม จะสามารถโหวตนายกรัฐมนตรีได้สำเร็จ ซึ่งนายกฯ คนนั้นมาจากพรรคเพื่อไทย เป็นชาย รูปร่างสูง และทุกกระบวนการ ทั้งการได้นายกรัฐมนตรี และการตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะแล้วเสร็จไม่เกินวันที่ 15 สิงหาคมนี้อย่างแน่นอน เพราะมีการคุยกันไว้แล้ว
สำหรับการเดินทางกลับประเทศไทยของนายทักษิณ นายชูวิทย์ กล่าวว่า ย่อมสอดคล้องกับประเด็นซุปเปอร์ดีลอย่างไม่ต้องสงสัย แต่หากถามว่าถ้านายทักษิณกลับมาประเทศไทยก็จะต้องรับโทษในหลายคดี ซึ่งในประเด็นนี้นายชูวิทย์ ชี้แจงว่า บุคคลที่มีอายุมากกว่า 70 ปี จะนับว่าเป็นผู้สูงอายุ การที่ผู้สูงอายุเข้าไปในเรือนจำตามหลักการ แม้จะเข้าไป 1 หรือ 2 ชั่วโมงหรือแม้กระทั่ง 1 วัน บุคคลนั้นจะสามารถยื่นขอพระราชทานอภัยโทษได้ทันที เพราะถือว่าเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องขัง
นายชูวิทย์ ยังได้เปิดอภิปรายนอกสภาฯ โดยได้นำแสตนดี้ที่ระบุว่าเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่ตัวสูงๆ พร้อมเปิดภาพถ่ายของบุคคลที่นายชูวิทย์ระบุว่า เป็นบุคคลสำคัญ ที่มีฉายาว่า “ขงเบ้ง” เป็นผู้อยู่เบื้องหลังว่าที่นายกรัฐมนตรีคนถัดไป ซึ่งนายชูวิทย์ อธิบายว่า เป็นผู้หยั่งรู้ในวงการหุ้น และที่ดิน พร้อมยืนยันว่าตนเองมีทั้งข้อมูลเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวกับที่ดิน และภาษี ที่จะโยงถึงบริษัทต่างๆ ซึ่งนายชูวิทย์กล่าวอีกว่า นายกฯ คนใหม่ จะต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริต ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 และตนเองพร้อมที่จะออกมาอภิปรายนอกสภา ถึงความซื่อสัตย์สุจริตของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ต้องเดินหน้าตรวจสอบ และมั่นใจว่า ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะแปดเปื้อนตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง ด้วยข้อมูลที่ตนเองมี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทำไมนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นคนตัวสูง นายชูวิทย์ อ้างว่าเพราะพรรคเพื่อไทยมีคะแนนมากที่สุด ส่วนพรรคภูมิใจไทย ก็ได้รัฐมนตรีคมนาคม สาธารณสุข และอาจจะพ่วงรัฐมนตรีเกษตรไปด้วย
เมื่อถามต่อว่าการจัดการจัดตั้งรัฐบาลสูตร 279 เสียงตามที่นายชูวิทย์กล่าวอ้างว่ามีพรรคพลังประชารัฐรวมอยู่ด้วย เท่ากับว่าพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะต้องวางมือทางการเมืองหรือไม่ นายชูวิทย์ บอกว่า แน่นอนว่าบิ๊กป้อม จะไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว แต่เป็นน้องชาย ที่จะเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตามที่พลเอกประวิตรมีการจองไว้
ผู้สื่อข่าวยังถามอีกด้วยว่า นายทักษิณจะกลับประเทศไทยแน่นอนหรือไม่ และเมื่อกลับมาจะทำอะไรเป็นอย่างแรก นายชูวิทย์ บอกว่า ตนคิดว่า 80% จะกลับมา เพราะนายทักษิณอยู่ในสถานะตัวประกัน และอยู่ในสถานะผู้คุมเกม ที่พูดแบบนั้นเพราะนายทักษิณจะกลับมา นายทักษิณต้องเป็นตัวประกันก่อน และเมื่อมาถึงก็อาจจะมีการก้มกราบพื้นแผ่นดินไทยเพราะจากประเทศไทยไปนานถึง 17 ปี
