POLITICS

9 ตัวแทนพรรคการเมือง ร่วมดีเบตคำถามจากสังคมออนไลน์ ‘คนไทยบ่นเสียดายภาษีเรื่องใดบ้าง’

วันนี้ (27 เม.ย. 66) เวลา 10:00 น. ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ Thailand Future Talk จัดเวทีดีเบตการเมืองเรื่อง “อนาคต” ซึ่งมีตัวแทนจาก 9 ตัวแทนพรรคการเมืองร่วมเสวนา เสนอนโยบายในการแก้ปัญหา และตอบคำถามอนาคตของประเทศไทย

โดยในช่วงแรกของรายการเวทีดีเบตที่มีการเก็บข้อมูล ‘เสียง’ ของประชาชนบนโลกออนไลน์ ผ่าน Social listening ในประเด็นที่ว่า “คนไทยบ่นเสียดายภาษีกับเรื่องใดบ้าง” มาออกแบบ เป็นคำถามถึงผู้แทนพรรคการเมืองเพื่อฟังมุมมองวิสัยทัศน์ และแนวคิดของแต่ละพรรค

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ตัวแทนจากพรรคก้าวไกล ได้คำถามที่ว่า “ประชาชนคิดว่าหลายครั้งทหารทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่หน้าที่ของทหารอย่างรำมวยไทย หรือรับใช้บ้านพักข้าราชการชั้นสูง ซึ่งทำให้รู้สึกเปลืองภาษี ท่านมีความคิดเห็น และแนวทางแก้ไขเรื่องดังกล่าวอย่างไร”

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า คิดว่าตัวอย่างที่ยกมาประกอบยังเป็นส่วนน้อย เพราะในช่วงที่ผ่านมา ที่พรรคก้าวไกลหาเสียงก็มีทหารคอยตาม ซึ่งมองว่าทหารคงมีเวลาว่าง มีงบประมาณเยอะ และบุคลากรที่เยอะไป โดยการแก้ไขปัญหาของพรรคก้าวไกลที่เสนอมาตลอด คือ การเอาทหารออกจากการเมือง ซึ่งอยากให้ทุกพรรคการเมืองช่วยยืนยันว่ากองทัพต้องอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือนที่ประชาชนเป็นคนเลือกมา และการลดอำนาจสภากลาโหมที่เข้ามาแทรกแซงการจัดงบประมาณของรัฐบาลพลเรือน อีกทั้งเรื่องของกำลังพลที่มีจำนวนสูงเกินไป โดยเฉพาะนายพลมีจำนวนสูงมากเมื่อเทียบกับประเทศที่เป็นประเทศมหาอำนาจทางกองทัพในหลายประเทศ ซึ่งในระยะยาวจำเป็นต้องลดนายพลให้ได้อย่างน้อยครึ่งนึงของระยะยาว

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวอีกว่า ตนเองคิดว่าพี่น้องทหารเห็นด้วยกับนโยบายของพรรคก้าวไกลในหลายๆ ประเด็น ซึ่งหากย้อนกลับไปดูเลือกตั้งเมื่อปี 62 และการเลือกตั้งซ่อมในช่วงปีที่ผ่านมา สะท้อนเห็นว่าคะแนนเลือกในค่ายทหารหลายๆ หน่วย พรรคก้าวไกลชนะค่อนข้างเยอะ ดังนั้นคนที่ออกมาต่อต้านนโยบายพรรคก้าวไกล ส่วนใหญ่จะเป็นพวกนายพลระดับสูง ซึ่งตอกย้ำให้เห็นว่าพรรคก้าวไกลมาถูกทางจากทหารชั้นผู้น้อย ทั้งเรื่องสวัสดิการ และเรื่องสิทธิมนุษยชน รวมไปถึงเรื่องการยกเลิกเกณฑ์ทหาร พร้อมย้ำว่าพวกเราไม่ได้ยกเลิกทหาร แต่เรายกเลิกการบังคับคนไปเป็นทหารโดยไม่เต็มใจ

นายปรเมศวร์ กุมารบุญ ตัวแทนจากพรรคชาติไทยพัฒนา ได้คำถามว่า “ประชาชนคิดว่า ส.ส. และ สว. ต่างๆ ที่ได้สวัสดิการดีกว่าประชาชนมากเกินไป เช่นค่าอาหาร สว. วันละ 630 บาท ท่านมีความเห็นและแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าวอย่างไร”

นายปรเมศวร์ กล่าวว่า เราเข้าใจอารมณ์ของประชาชน เป็นสิ่งที่เรารู้สึกว่าไม่เป็นธรรมจริงๆ กับสิ่งประชาชนบ่นกันมา คือ สว.ในชุดปัจจุบันไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน โดยพรรคชาติไทยพัฒนาก็มีประสบการณ์ที่เคยร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนในปี 40 ขณะที่ สว. ควรจะเป็นผู้ที่ทรงคุณวุฒิจริงๆ แต่จะให้ข้าราชการระดับสูงมาเป็น ก็จะขาดกับการยึดโยงกับประชาชนอีก ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ในใจของชาติพัฒนาจริงๆ เพื่อก้าวข้ามผ่านความขัดแย้งจริงๆ สักที เพื่อข้ามไปเรื่องการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ส่วนเรื่องสวัสดิการของ ส.ส. – ส.ว. ความเห็นส่วนตัวมองว่า ยังไม่ได้เกินไปสักเท่าไหร่ แต่เข้าใจความรู้สึกของประชาชน

นายสาโรจน์ ซึ้งไพศาลกุล ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ ได้คำถามว่า “ประชาชนคิดว่า สว.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนแต่ได้รับเงินเดือนที่มาจากภาษีของประชาชนจึงเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองภาษี ท่านมีความคิดเห็น หรือแนวทางการแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร”

นายสาโรจน์ กล่าวว่า ตนโชคดีที่มีโอกาสที่ได้เป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมาธิการวุฒิสภาในส่วนของกรรมธิการยุติธรรม และกรมตำรวจ ซึ่งหากพูดตามตรง บางท่านส่วนใหญ่ตอบไม่ได้ ว่าหน้าที่ของ สว. คืออะไร แต่หน้าที่ของ สว. คือการคัดกรองกฎหมาย ส่วนเรื่อง สว. ที่มาจากการเลือกตั้ง ตนเห็นด้วยเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะเราอาจจะไม่ได้ผู้ที่ทรงความรู้เรื่องนั้นจริงๆ โดยปัญหาจริงๆ ของ สว. ที่คนมองว่าเปลืองภาษีคือการมีสิทธิ์เลือกนายกฯ เพราะในหลายๆ ประเทศ สว. ไม่มีสิทธิ์เลือกนายกฯ เพราะหากไม่มีเรื่องการเลือกนายกฯ ตนมองว่า สว. ในประเทศทำบทบาทได้ดี

นายวรวุฒิ อุ่นใจ ตัวแทนจากพรรคชาติพัฒนากล้า ได้คำถาม “ประชาชนคิดว่าเหตุสภาล่มบ่อยครั้ง เป็นการสิ้นเปลืองภาษีที่ถูกใช้ไปจ่ายเงินเดือน ส.ส. และ สว. ท่านมีความเห็นและแนวทางการแก้ไขเรื่องดังกล่าวอย่างไร

นายวรวุฒิ กล่าวว่า ปัญหาสภาล่มในสมัยประชุมสภาครั้งล่าสุด ล่มบ่อยที่สุดของประวัติการณ์ สิ่งที่ตนคิดอยู่เสมอว่า สภาล่มบ่อยโดยที่พวกเขาไม่ละอายเป็นเพราะประชาชนไม่ลงโทษพวกเขา ซึ่งเวลาสภาล่มเราสามารถไปเช็คชื่อได้ว่าเป็นใครจากพรรคไหน ครั้งหน้าก็อย่าไปเลือก ควรตัดสิทธิ์ หรือตัดเงินเดือนไปเลย เพราะอาสาเข้ามารับผิดชอบ แต่ไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง จึงมองว่าสภาคือแหล่งรวบรวมผู้ทรงเกียรติ ควรมีบทลงโทษที่จำเป็นต้องทำ อีกทั้งการผ่านกฎหมาย ควรเป็นเรื่องที่จะต้องใช้วิจารณญาณของสภา เรื่องแบบนี้เราจะปล่อยให้ ส.ส. ที่ไม่ทำหน้าที่เข้าสภาไปทำไม ซึ่งการเมืองไม่ใช่เรื่องของการที่จะทะเลาะกันเห็นต่างได้ แต่ต้องพร้อมที่จะทำงานแก้ไขปัญหาประเทศชาติร่วมกัน

นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ตัวแทนจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้คำถามว่า “ประชาชนคิดว่าขนส่งสาธารณะ โดยเฉพาะรถเมล์ที่ไม่มีคุณภาพ เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณภาษี ท่านมีความคิดเห็นและแนวทางแก้ไขเรื่องดังกล่าวอย่าไร

นายพิสิฐ กล่าวว่า ถ้าเรามีบริการรถขนส่งที่มีคุณภาพ และประชาชนใช้บริการ รถบนถนนก็จะน้อยลง การใช้พลังงานก็จะน้อย มลพิษก็จะลดลง ส่วนรถขนส่งที่ไม่มีคุณภาพ เราใช้กฎหมายบังคับให้เอาเรื่องอยู่แล้ว เพราะมีการทำให้เกิดมลพิษ ซึ่งรถสาธารณะเป็นตัวช่วยให้กับผู้มีรายได้น้อย อีกทั้งรถไฟฟ้าก็มีความซับซ้อนก็จะยิ่งเสียค่าบริการไปอีก ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ มีแนวคิดที่อยากให้มีการใช้บัตรใบเดียว เดินทางทั้งวัน และให้คนใช้ในราคาที่ต่ำ ส่วนรถประจำทางจะต้องมีการปรับโครงสร้างรถเมล์ ทั้งเรื่องหนี้สิน และเรื่องบริการ ให้เป็นระบบไฟฟ้าเพื่อช่วยลดมลพิษให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการปรับปรุงรถสาธารณะตามหัวเมืองต่างๆ ให้ผู้คนสามารถเดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้น

นายวินท์ สุธีรชัย ตัวแทนจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้คำถามว่า “ประชาชนคิดว่าอาจมีการทุจริตในการเลือกตั้ง รวมถึงความโปร่งใสของ กกต. ที่ไม่สามารถสร้างความชัดเจนได้ เป็นการสิ้นเปลืองภาษี ท่านมีความเห็นและแนวทางแก้ไขเรื่องดังกล่าวอย่างไร”

นายวินท์ กล่าวว่า เมื่อมีประเด็นแบบนี้ จึงอยากเชิญชวนประชาชนให้คิดถึงอดีต ว่าที่มาที่ไปก่อนประเทศจะมาถึงนี้ได้เป็นเพราะอย่างไร ซึ่ง กกต. เป็นองค์กรที่เป็นอิสระปราศจากอำนาจอื่นครอบงำ เมื่อคนพูดว่าให้ยุบทิ้งไป จึงอยากบอกว่ากกต. นั้นเกิดจากรัฐธรรมนูญปี 40 ซึ่งก่อนหน้านั้น รัฐบาล เป็นผู้จัดการเลือกตั้ง พร้อมถามว่าท่านอยากย้อนกลับไปยุคนั้นหรือไม่ ซึ่งตนเองกับทุกคนก็ไม่อยากย้อนกลับไป และอยากที่จะสนับสนุนให้ กกต. มีความอิสระจริงๆ ดังนั้นปัญหา ไม่ได้อยู่ที่ตัวบทกฎหมาย แต่อยู่ที่วิธีการบังคับใช้ ฉะนั้น กกต. ควรกำหนดกติกาให้ชัดเจน

นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย ได้คำถาม “ประชาชนคิดว่าการจัดการเรื่องฝุ่นล่าช้า และใช้จ่ายงบประมาณในการแก้ไขฝุ่นอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ควรแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังกว่านี้อย่างไร ท่านมีความคิดเห็น และแนวทางการแก้ไขเรืองดังกล่าวอย่างไร”

นายศึกษิษฏ์ กล่าว่า อย่างแรกพรรคเพื่อไทยเชื่อว่า อากาศที่สะอาดควรจะเป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชนคนไทยทุกคน พ.ร.บ. อากาศสะอาดต้องได้รับการผ่านสภาฯ ที่ประชาชนจะได้รับความคุ้มครองเมื่อสูดอากาศ การเพิ่มมาตราการในระยะสั้น คือการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย และมีพื้นที่ดูแลกลุ่มที่เปราะบางเป็นพิเศษ ส่วนระยะยาว เราจะต้องหาว่าปัญหาเกิดขึ้นจากตรงไหน การเจรจากับเพื่อนบ้าน เพราะปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในประเทศไทย และหาทางแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด และการปรับโครงสร้าง เพราะปัญหาฝุ่น และปัญหาการเผาไหม้ เกิดมาจากภาคการเกษตร เราจำเป็นต้องลงทุนปรับโครงสร้างการเกษตร โดยการหาเทคโนโลยีเข้าไปช่วย ทำให้ชาวบ้านเกษตรกรเข้าถึงแหล่งทุนให้ได้ เพื่อยกระดับการทำเกษตรของตนเอง และใช้ประโยชน์จากคาร์บอนเครดิตให้ได้ เพื่อสร้าง Green Economy ขึ้นมา ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ผลักดันให้มีพื้นที่สีเขียวให้ได้กว่า 50 ล้านไร่ เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี และสร้างเศรษฐกิจสีเขียวที่ดีอีกด้วย

นายณัฏฐ์ มงคลนาวิน ตัวแทนจากพรรคภูมิใจไทย ได้คำถามว่า “ประชาชนคิดว่าการถ่ายทอดสดกีฬาซีเกมส์ไม่จำเป็น หากต้องมีการจ่ายค่าลิขสิทธิ์แพงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ควรเอาเงินไปทำอย่างอื่น ท่านมีความเห็นและแนวทางการแก้ไขเรื่องดังกล่าวอย่างไร”

นายณัฏฐ์ กล่าวว่า ประชาชนที่ถามอาจมองเรื่องของความคุ้มค่าหรือไม่ แต่อยากให้ลองมองกลับไปในมุมของนักกีฬา ซึ่งปัจจุบันเรียกได้ว่าประเทศไทยอาจจะสนับสนุนนักกีฬาได้ไม่เท่าที่ควร ไม่อยากให้มองเรื่องของความคุ้มค่า แต่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องของการให้กำลังใจกับนักกีฬาไทยมากกว่า และเชื่อว่านักกีฬาเองก็อยากที่จะมีกองเชียร์ที่มาช่วยซัพพอร์ต หรืออาจจะช่วยให้เด็กๆ ได้เห็นนักกีฬา เพื่อที่จะสร้างนักกีฬาของประเทศไทย ให้สามารถเข้ามาอยู่ในตลาดโลกได้ ซึ่งอยากให้มองจุดนี้มากกว่าการที่ว่าซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วจะคุ้มหรือไม่คุ้ม

นายปริเยศ อังกูรกิตติ ตัวแทนจากพรรคไทยสร้างไทย ได้คำถามว่า “ประชาชนคิดว่าการทำงานของตำรวจนั้นช้าและล้าหลัง โดยเฉพาะการจัดการกับ Call Center และเว็บพนัน ท่านมีความคิดเห็น และแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างไร”

นายปริเยศ กล่าวว่า สิ่งแรกคือตนขอปกป้องตำรวจไซเบอร์ เพราะในอดีตที่ผ่านมาเราจะใช้วิธีการแจ้งความตามท้องที่ ไม่ได้ถูกนำมารวมเป็นส่วนกลาง ในกรณีของตำรวจไซเบอร์ก็พยาพยามรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเข้ามาอยู่ที่ส่วนกลาง ซึ่งจะทำให้ทุกอย่างเกิดความรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งบางคดีอาจจะต้องใช้เวลา โดยปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาที่ควรอยู่ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) ที่ไม่ได้ทำหน้าที่ในสิ่งที่ควรจะทำ โดยในภาพในปัจจุบันนี้เราไม่เห็นอะไรเลย ทั้งเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล เห็นได้เพียงอย่างเดียวคือภาพลักษณ์ที่เกี่ยวกับดิจิทัลมีเพียงแค่แอพเป๋าตังเท่านั้น

ทั้งนี้ ถ้ากระทรวงฯ ดังกล่าวอยู่ในมือของพรรคไทยสร้างไทย เราจะจัดการปัญหาที่เกี่ยวกับเรื่องของการฉ้อโกง และความปลอดภัยของประชาชน อย่าง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือข้อมูลของประชาชนที่จะหลุดรั่วไหลออกไปนั้น พรรคไทยสร้างไทยจะต้องจัดการได้อย่างแน่นอน รวมถึงการต่อยอดระบบดิจิทัลต่างๆ ให้พัฒนา เช่นการต่อยอดให้ 30 บาท พลัส ให้สามารถเข้าถึงสาธารณสุขได้ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้ด้วยระบบดิจิทัล

Related Posts

Send this to a friend