‘พิธา’ แจงไม่โกหกปมเดินทางกลับจาก USA ร่วมงานศพพ่อ ไม่หวั่น ‘ศรีสุวรรณ’ ร้อง กกต.
‘พิธา’ แจงปมเดินทางกลับจาก USA ร่วมงานศพพ่อ หลังรัฐประหาร 49 ยันไม่โกหก มาถึงไทยทันสวดอภิธรรม 3 วันหลัง หลักฐานชัด ไม่หวั่น ‘ศรีสุวรรณ’ ร้อง กกต.
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เตรียมร้อง กกต. ตรวจสอบกรณีนายพิธาให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ เกี่ยวกับเหตุการณ์รัฐประหารปี 2549 ซึ่งเนื้อหาที่พูดใน 2 รายการไม่ตรงกันอาจเป็นการจูงใจให้เข้าใจผิด ในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง
นายพิธาระบุว่าต้องดูคำร้องของนายศรีสุวรรณก่อนว่าเป็นอย่างไร แต่ในมุมของตนคิดว่าภาพ 2-3 ภาพที่โพสต์ไปเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าข้อกล่าวหาไม่เป็นความจริง งานศพของพ่อตนมีทั้งหมด 7 วัน 18-24 กันยายน ตนมาทันในวันที่ 22-24 กันยายน ไม่ทัน 18-20 กันยายน ส่วนวันที่ 21 กันยายนแหล่งข่าวต่างประเทศระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นวันที่เครื่องบินพยายามจะลงที่ดอนเมือง แต่ลงไม่ได้จึงต้องย้ายไปลงที่กองทัพอากาศ และโดนกักตัวต่ออีกหลายชั่วโมง กว่าจะได้ออกมาและมีคนมารับตนถึงบ้านประมาณ 2-3 ทุ่ม ดังนั้นที่คนเอาการสัมภาษณ์ใน 2 รายการมาเทียบกันและบอกว่าไม่ตรงกันถูกทั้งคู่ คือมาทัน 3 วันสุดท้าย ไม่ทันใน 3 วันแรก
ทั้งนี้มีข้อกังวลตรงที่มีคนมาเคลมว่าเพื่อนพ่อ ที่บอกว่าเจอตนตั้งแต่คืนแรก ในภาพก็เห็นอยู่ว่าคืนแรกคือวันที่ 18 แต่เครื่องบินมาถึงวันที่ 21 ดังนั้นวันที่ 18 ตนยังอยู่อเมริกาแน่นอน น่าจะเป็นความเข้าใจผิด ส่วนจะเป็นการดิสเครดิตทางการเมืองหรือไม่นั้น เรื่องจากบุคคลดังกล่าวเป็นอดีตแนวร่วม กปปส. นายพิธาระบุว่าตนคงยืนยันในข้อเท็จจริงว่าที่เขาเคลมว่าเป็นเพื่อนพ่อและพบตนในงานศพวันแรก เป็นไปไม่ได้ ซึ่งคงจบแค่นั้นไม่อยากเติมนามสกุลให้ใคร ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดให้เข้าเกมของใคร ขอโฟกัสกับการเลือกตั้งเพราะเหลือเวลาอีก 10 กว่าวัน ในเมื่อสิ่งที่กล่าวหาเป็นไปไม่ได้และตนมีรูปยืนยันก็ขอให้เข้าใจว่าเป็นไปไม่ได้กับสิ่งที่กล่าวหามา
ส่วนการที่เรื่องตั้งแต่ปี 2549 ถูกยกขึ้นมากล่าวถึงในช่วงที่มีส่วนได้ส่วนเสียทางการเมือง นายพิธาระบุว่า คงไม่ใช่เรื่องแรกและเรื่องสุดท้ายของการเมืองไทย ขอประชาชนอย่าสับสน เสียสมาธิ ในการเลือกตั้งครั้งนี้กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ตนเป็นนักการเมืองก็พร้อมในการตรวจสอบ ยืนยันไม่หวั่นไหวพร้อมเดินหน้าหาเสียงต่อ ไม่ว่าอีก 2 สัปดาห์นี้จะเจออะไรที่สกปรกขนาดไหนก็จะพร้อมที่จะสู้ต่อ มองเป็นกลยุทธ์การเมืองทุกยุคทุกสมัย และตนไม่ใช่คนแรกที่เจอและคงไม่ใช่คนสุดท้ายที่โดน
ส่วนที่นายศรีสุวรรณระบุว่าข้อความที่ให้สัมภาษณ์อาจทำให้เข้าใจผิดสร้างประโยชน์ให้พรรคการเมืองนั้น นายพิธาย้ำถึงข้อความและรูปภาพที่ชี้แจงไป หากนายศรีสุวรรณมีข้อมูลไม่ครบ หสกได้เห็นข้อมูลนี้แล้วอาจเปลี่ยนใจไม่ไปร้อง
ส่วนกรณี นายชัยวุฒิ ธนาคมาณุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกมาให้ความเห็นเรื่องนี้ว่าอย่าสร้างความเกลียดชังนั้น นายพิธาระบุว่าเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองทุกคนรวมถึงนายชัยวุฒิด้วย
