‘มาริษ’ แจงกระทู้ สว. การเจรจา MOU 44 จะยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ

‘มาริษ’ แจงกระทู้ สว. ยืนยัน MOU 44 เป็นความตกลงที่กำหนดแค่กรอบและกลไกการเจรจาเรื่องแบ่งเขตทางทะเลและพัฒนาพื้นที่ร่วมกันโดยแบ่งแยกไม่ได้ พร้อมย้ำการเจรจาจะยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ

การประชุมวุฒิสภา วันนี้ (27 ม.ค. 68) ในการพิจารณาวาระกระทู้ถาม นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา สมาชิกวุฒิสภา ได้ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี เรื่อง การเจรจาผลประโยชน์ร่วมกันในเขตพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนไทย – กัมพูชา โดย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้มาตอบกระทู้ถามแทน โดยชี้แจงว่าปัจจุบันรัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ในพื้นที่อ้างสิทธิไหล่ทวีปทับซ้อนดังกล่าว และยังไม่ได้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางด้านเทคนิคไทย-กัมพูชา (JTC) ชุดใหม่ เพื่อเป็นกลไกหลักในการเจรจา ซึ่งระหว่างนี้ รัฐบาลพร้อมรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน และข้อเสนอแนะจากสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมดที่เป็นประโยชน์มาประมวลกำหนดท่าทีของไทยในการเจรจา พร้อมย้ำการเจรจาจะยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ โดยยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องที่เป็นไปตามกรอบที่รัฐบาลทุกรัฐบาลก่อนหน้านี้เคยดำเนินการไว้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติในมิติความมั่นคง ไม่ว่าจะแบ่งเขตทางทะเลและเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลจะยึดหลัก 3 ข้อ ได้แก่ ประชาชนต้องยอมรับได้ สภาต้องสามารถให้ความเห็นชอบ และเป็นไปตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยย้ำว่า MOU 44 เป็นความตกลงที่กำหนดแค่กรอบเจรจาและกลไกการเจรจาเรื่องแบ่งเขตทางทะเลและพัฒนาพื้นที่ร่วมกันโดยแบ่งแยกไม่ได้ และไม่ได้เป็นการยอมรับการอ้างสิทธิของกัมพูชา รวมทั้งไม่ส่งผลให้กัมพูชาอ้างสิทธิ์เหนือเกาะกูด เพราะรัฐบาลไทยได้ใช้อำนาจเหนือเกาะกูดมาอย่างต่อเนื่อง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวอีกว่า ในวันพรุ่งนี้ (28 ม.ค. 68) รัฐบาล และคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องของรัฐสภา ได้กำหนดจัดเวทีเสวนาร่วมกันเพื่อรับฟังความเห็นทุกภาคส่วนในเรื่องนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจที่สอดคล้องกันต่อไป