‘เศรษฐา‘ เยี่ยมประชาชนพื้นที่น้ำท่วม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
‘เศรษฐา‘ เยี่ยมประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ส่งรัฐมนตรี ‘เกรียง‘ ดูแลในพื้นที่ต่อ เข้าใจน้ำมาเร็ว ลดไว ห่วงปลายน้ำ จี้กรมอุตุฯ เตือนภัยเชิงรุก ให้กำลังใจชาวนราฯ อย่าเพิ่งวางใจ รับฟังการแจ้งเตือนใกล้ชิด
วันนี้ (26 ธ.ค. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางลงพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส หลังประสบเหตุอุทกภัยจากน้ำป่าไหลหลากและฝนตกหนักสะสม ตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมผู้ประสบภัยที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ภายในหอประชุมของที่ว่าการอำเภอระแงะ และเยี่ยมชุมชนที่ถูกน้ำท่วม เขตเทศบาลตำบลระแงะ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
ผู้สื่อข่าว The Reporters รายงานบรรยากาศที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว นายกรัฐมนตรีพูดคุยให้กำลังใจกับผู้ประสบภัย มอบสิ่งของยังชีพ กำชับให้ทุกหน่วยราชการทำงานเรื่องการเตือนภัยให้ดีขึ้น สอบถามพี่น้องประชาชนถึงความเป็นอยู่ พร้อมกำชับให้นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อยู่ในพื้นที่เพื่อดูแลเรื่องการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่อไป
นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอเป็นกำลังใจให้ขาวนราธิวาส เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายพร้อมดูแลอย่างเต็มที่ และคิดว่าเรื่องการเตือนภัย (Warning) ต้องมีความกระชับมากขึ้น เนื่องจากเป็นพื้นที่สูง แม้น้ำจะมาไวและลดเร็ว แต่ความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว ไม่อยากให้เกิดซ้ำซาก กรมอุตุนิยมวิทยาต้องออกแบบระบบเตือนภัยให้ดีกว่านี้ แม้จะเห็นรอยยิ้มพี่น้องประชาชน แต่เข้าใจว่าทุกคนเดือดร้อน ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
นายเศรษฐา ยังกล่าวว่า หากย้อนหลังไปเมื่อ 36 ชั่วโมงที่แล้ว สถานการณ์เลวร้ายกว่านี้ แต่ลักษณะภูมิประเทศเป็นพื้นที่สูงต่ำแตกต่างกันมากทำให้น้ำไหลระบายได้ดี มีทะเลเป็นที่รับน้ำได้ดี จึงทำให้น้ำได้ระบายไปบ้าง แต่เมื่อสักครู่ได้คุยกับคุณแยม ช่อง 3 (ฐปณีย์ เอียดศรีไชย) บอกว่าพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ต้นน้ำ ยังไม่ใช่ปลายน้ำ ฉะนั้นน้ำก็จะไหลไปสะสมที่ปลายน้ำ แต่อย่างไร รัฐมนตรีเกรียง จะอยู่ต่อ จะคอยดูแลว่าช่วงไหนน้ำไปเยอะ เพราะน้ำมาเร็วเหลือเกิน แม้พยากรณ์อากาศมีแนวโน้มจะไม่มีฝนตกแล้วแต่ยังคงต้องเฝ้าระวังให้ดี ดูเรื่องระบบเตือนภัย ให้กรมอุตุนิยมวิทยาดูแลเชิงรุกมากขึ้นอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ครั้งนี้ถือเป็นน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ของประชาชน อ.ระแงะ ต้องมีการจัดการอย่างไร โดยเฉพาะพื้นที่สามจังหวัดที่เป็นพื้นที่พิเศษ นายเศรษฐา ระบุว่า พื้นที่สามจังหวัดมีความสงบดีขึ้นแล้ว การค้าขายชายแดนกับมาเลเซียก็ดีขึ้นแล้ว แต่เหตุการณ์ลักษณะนี้ก็ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ไม่อยากให้เกิดซ้ำซากและความสูญเสีย จึงฝากพี่น้องให้เชื่อการเตือนภัยจากเจ้าหน้าที่ด้วย จะจำเป็นต้องมีโครงการขนาดใหญ่หรือไม่ ต้องไปศึกษาองค์รวมทั้งหมดก่อน
“ขอให้พี่น้องระมัดระวังต่อไป ตอนนี้ยังไม่เป็นช่วงเวลาปลอดภัยนัก ขอให้รับฟังการเตือนภัยจากกรมอุตุฯ ให้ดี ระหว่างนี้ทางกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข หน่วยปกครองทั้งหมดจะช่วยดูแลและเยียวยา ขอขอบคุณหน่วยงานรัฐทุกหน่วยงานที่มาช่วยดูแล กองทัพมาทำครัวเคลื่อนที่ก็ช่วยบรรเทาได้มาก” นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้าย