POLITICS

โรม เผย คืบหน้าคดีฟอกเงินทุนกัมพูชาโยงสแกมเมอร์–คอลเซ็นเตอร์

โรม เผย คืบหน้าคดีฟอกเงินทุนกัมพูชาโยงสแกมเมอร์–คอลเซ็นเตอร์ เร่งไล่เส้นทาง ‘ฮุยวันกรุ๊ป–ฮุน โต’ ชี้ สัญญาณดีขึ้น แต่การปฏิบัติยังล่าช้า หวังหน่วยงานประสานข้อมูลเกิดผลลัพธ์เป็นรูปธรรมมากขึ้น

วันนี้ (26 พ.ย. 68) ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ เปิดเผยถึงการประชุม กมธ.ความมั่นคงฯ ว่า เป็นการติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาการฟอกเงินของกลุ่มทุนกัมพูชาที่เชื่อมโยงสแกมเมอร์ โดยเฉพาะกรณีฮุยวันกรุ๊ปและ ฮุน โต เชื่อมโยงระดับผู้นำกัมพูชา และติดตามประเด็นบริษัททำ MOU กับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เกี่ยวข้องนำสแกมเมอร์กว่า 500 คน เข้าประเทศผ่านการขอวีซ่า

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า การแก้ไขสแกมเมอร์มีสัญญาณดีขึ้น อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้เตรียมข้อมูลเรื่องบริษัทที่ทำ MOU แต่จะบรรจุเข้าวาระการประชุม กมธ.ความมั่นคงฯ อีกครั้งวันที่ 11 ธ.ค. 68 ส่วนการทลายเครือข่ายบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน แม้ภาพรวมยังไม่น่าพอใจ แต่เห็นความก้าวหน้าบางจุด หวังให้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตำรวจไซเบอร์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) และคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) ประสานงานกันให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น

สำหรับการสืบถึงต้นตอหลักของสแกมเมอร์ มีผู้เสียหายรายหนึ่งที่มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงมากกว่า 100 คดี สามารถขยายผลได้โดยตรง ต่อยอดจากเคสผู้เสียหายพร้อมกัน ซึ่งหน่วยงานเริ่มเข้าใจแนวทางการทำงานแล้ว แต่ขั้นตอนปฏิบัติยังเป็นสิ่งที่ต้องเร่ง

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า โมเดลที่เคยทำสำเร็จ เช่น เวิลด์คอยน์ ที่มีการสแกนม่านตาโดยไม่ได้รับความยินยอม และต่อมาศาลมีคำสั่งลบข้อมูล ถือเป็นตัวอย่างว่าหากประสานงานกันถูกทิศทาง ปัญหาจะแก้ได้เป็นระบบ จึงจำเป็นต้องนำทุกข้อมูลมาประกอบกัน เพื่อแก้ปัญหาทั้งระบบ

Related Posts

Send this to a friend