POLITICS

‘ภราดร’ นั่งหัวโต๊ะ ศป.กฉ. ประชุมนัดแรก ติดตามสถานการณ์อุทกภัย

‘ภราดร’ นั่งหัวโต๊ะ ศป.กฉ. ประชุมนัดแรก ติดตามสถานการณ์อุทกภัย เผย ผบ.ทสส. เตรียมแบ่งโซนพื้นที่รับผิดชอบ ขณะที่ รมช.กลาโหม จัดเตรียม C-130 จำนวน 5 เที่ยวบินต่อวัน จัดส่งความช่วยเหลือ

วันนี้ (26 พ.ย. 68) เวลา 10:00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย ครั้งที่ 1/2568 โดยเปิดเผยก่อนการประชุมถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ขณะนี้เริ่มบริหารจัดการข้อมูลแล้ว โดยทีมงานหลังบ้านของศูนย์ปฏิบัติการฯ อยู่ระหว่างเตรียมข้อมูลที่ประชาชนร้องเรียนมาและคัดกรองข้อมูล พร้อมประสานไปยังส่วนท้องถิ่นว่าในส่วนที่รับผิดชอบมีผู้ประสบภัยอยู่เท่าใด เพื่อส่งต่อไปยังศูนย์บัญชาการส่วนหน้า ที่มี พล.อ. อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัยส่วนหน้า (ศป.กฉ.ส่วนหน้า)

นายภราดร ระบุต่อว่า ในวันนี้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด จะมีการแบ่งโซนที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน จากนั้นจะแจ้งให้ทราบว่าแต่ละโซนใครเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งจะทำให้เราทราบว่าจะต้องประสานงานอะไรกับใคร ขณะเดียวกันก็จะมีการประสานกับทางกองทัพในการขอโดรนเพื่อลำเลียงอาหารไปยังจุดที่เรือหรือรถไม่สามารถเข้าถึงได้

อีกทั้ง พล.ท. อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ยังได้ประจำการอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ เพื่อรอรับสิ่งของบริจาคจากประชาชน พร้อมประสานไปยังกองทัพอากาศ เพื่อนำเครื่องบิน C-130 ส่งสิ่งของจำเป็นไปในพื้นที่ อาทิ เจ็ทสกี และ เรือยนต์ เป็นต้น โดยแต่ละวันจะมีทั้งหมด 5 เที่ยวบินด้วยกัน

ส่วนศูนย์พักพิงใหญ่ ซึ่งอยู่ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์นั้น ปัจจุบันมีประชาชนเข้าพักเป็นจำนวนมากจึงต้องการข้าวของเครื่องใช้เพิ่มเติม แต่สิ่งที่จำเป็นและขาดแคลนมากที่สุดขณะนี้คือเรือท้องแบน เจ็ทสกี และคนขับ ฉะนั้น ตนเชื่อว่า ยิ่งมีมากเท่าใดก็จะยิ่งสามารถช่วยคนได้มากเท่านั้น รัฐบาลจึงได้ติดต่อไปยังนายกสมาคมประมงจังหวัดสงขลาด้วย เพราะมีเรือประมงหางยาวที่สามารถเข้าพื้นที่ได้หลาย 100 ลำ แต่ต้องยอมรับว่าสถานการณ์เปลี่ยน เพราะทั้งตัวเมืองสงขลาและอำเภอสิงหนครกำลังจะกลายเป็นพื้นที่ประสบภัยแทน ทำให้เรือที่ประสานไว้อาจจะต้องช่วยเหลือตัวเองอยู่ในพื้นที่ก่อน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายปฏิบัติต้องฟังคำสั่งจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นายภราดร กล่าวว่า ใครช่วยได้ก็ช่วย เชื่อว่าใครอยู่ส่วนใดก็จะแบ่งโซนกันไป ร้อยเอกธรรมนัส ก็อยู่หน้างานมาวันที่ 3 แล้ว ซึ่งก็ได้เข้าไปช่วยเหลือหลายเคส

ส่วนผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่จะต้องฟังคำสั่งการจากใครนั้น นายภราดร กล่าวว่า อย่าถามเรื่องการเมืองเลย ทุกคนทำงานเพื่อช่วยประชาชน อย่าแบ่งว่าร้อยเอกธรรมนัส หรือผบ.ทสส. ทุกคนมีบทบาทหน้าที่ ยืนยันว่าไม่สับสน ทุกคนมีการสั่งการที่ถูกต้อง

ส่วนที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของรัฐบาล เรื่องแผนอพยพที่เริ่มมีผู้เสียชีวิตรอความช่วยเหลือไม่ไหว นายภราดรระบุว่า ตนเข้าใจและกำลังเร่งรัดดำเนินการ ศูนย์ฯนี้เพิ่งตั้งขึ้นมาเมื่อช่วงบ่ายของเมื่อวาน (25 พ.ย.68) หลังจากมีมติของคณะรัฐมนตรีประกาศสภาวะฉุกเฉิน และทาง ร.อ.ธรรมนัสและ ผบ.ทสส. ก็ได้เดินทางไป และทุกภาคส่วนก็ลงไปอยู่ในพื้นที่หมดแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ประชาชนจะมีความหวังในระบบการช่วยเหลือหรือไม่ นายภราดร กล่าวว่า ตนเชื่อว่าในเรื่องนี้จะเห็นระบบชัดเจนในวันนี้ ซึ่งคัดกรองข้อมูลได้รวดเร็ว เพื่อที่ส่งไปส่วนหน้า ระดมทุกสรรพกำลังไปช่วยเหลือประชาชนที่ยังติดอยู่ และต้องเร่งอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วย ส่วนคนที่ยังสามารถดูแลตัวเองได้ ก็จะส่งเป็นอาหารและเครื่องดื่ม ให้ประทังชีวิต

ส่วนการรวบรวมข้อมูลตอนนี้สามารถกางเป็นแผนที่ได้เลยหรือไม่ เพราะมีหลายพื้นที่ขาดการติดต่อ นายภราดร กล่าวว่า ในส่วนหน้าได้แบ่งโซนกันแล้ว ซึ่งจะรับข้อมูลจากฐานนี้ แล้วนำของจำเป็นเข้าไปให้รวมถึงอพยพคนออกมา

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า เริ่มมีน้ำเริ่มท่วมศูนย์พักพิงนั้น มีการจัดหาพื้นที่เพิ่มหรือไม่ นายภราดร ระบุว่า ตนเชื่อว่าหน้างานเห็น และกำลังเร่งหาศูนย์พักพิงเพิ่มเติมอยู่

ส่วนแผนรับมือในตัวเมืองสงขลาที่น้ำกำลังจะไปถึงมีการเตรียมพร้อมมากน้อยเพียงใด เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยในอำเภอหาดใหญ่ นายภราดร กล่าวว่า จริงๆ ไม่ใช่แค่จังหวัดสงขลา ที่จังหวัดพัทลุงหรือจังหวัดสตูลเอง ก็เริ่มหนักเหมือนกัน เมื่อวานได้ประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัด และสส. หลายคนในจังหวัด พยายามประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนอพยพออกมาจากในพื้นที่ การช่วยเหลือจะได้รวมอยู่ที่ศูนย์อพยพ ไม่ต้องเข้าไปตามบ้านเหมือนที่หาดใหญ่ ก็ใช้หาดใหญ่เป็นบทเรียน ซึ่งทางจังหวัดเองก็ได้เตรียมพื้นที่อพยพ

สำหรับในส่วนของแพทย์ และโรงพยาบาลที่ยังมีปัญหาอยู่ ได้รับการรายงานอย่างไรบ้างนั้น นายภราดร ระบุว่า ตัวเลขข้อมูลในการแบ่งเคสผู้ป่วยขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ ซึ่งเมื่อคืนตอนดึกตนได้สอบถามไปที่ นายพัฒนา พร้อมพัฒน์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ทั้งนี้ ในส่วนของไฟฟ้าที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ก็ได้ประสานงานกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และเข้าไปจั้มไฟเรียบร้อยแล้ว ส่วนเคสที่จำเป็นต้องอพยพและเคลื่อนย้าย เมื่อวานเข้าใจว่าเคลื่อนย้ายได้ 80% แล้ว ซึ่งจะเคลื่อนย้ายไปที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คาดว่าวันนี้ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องย้ายจริงๆ จะย้ายได้ทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามเมื่อวานทางกรมฝนหลวงก็ได้คนทั้งออกซิเจนไปเพิ่มที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ซึ่งในวันนี้ พลโทอดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ก็จะประสานงานคนทางออกซิเจนไปเพิ่มด้วยเช่นกัน

Related Posts

Send this to a friend