POLITICS

‘เพื่อไทย’ เสนอ 4 แนวทางแก้ปัญหายาเสพติด พร้อมอุดช่องว่างกฎหมายให้สมบูรณ์

‘เพื่อไทย’ เดินหน้าแก้ปัญหายาเสพติด เสนอ 4 วิธีแก้ปัญหา พร้อมอุดช่องว่างกฎหมายให้สมบูรณ์

ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการและรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รายงาน World Drug Report 2022 ของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) พบว่า 10 ปีที่ผ่านมา ผู้ใช้ยาเสพติดมีแนวโน้มอายุน้อยลง เด็กและเยาวชนใช้ยาเสพติดมากกว่าผู้ใหญ่ และใช้ในปริมาณที่มากขึ้น ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่กำลังรุนแรงทั่วโลก อีกทั้งการจับกุมยาบ้าและไอซ์ พบมากสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านขนยาเสพติดไปประเทศปลายทาง

พรรคเพื่อไทยพร้อมเดินหน้าเต็มที่ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ยังคงรุนแรง ซึ่งเป็นปัญหาที่ประชาชนเฝ้ารอให้รัฐบาลใหม่เข้ามาแก้ไขเป็นอันดับ 2 รองจากปัญหาค่าครองชีพ พรรคจึงเดินหน้าแก้ปัญหายาเสพติดด้วยแนวทาง ‘เพื่อไทยมา ยาเสพติดต้องหมดไป’ 4 วิธีการ ดังนี้

1.ปราบปรามผู้ผลิตและผู้ขายเต็มรูปแบบ รวมถึง ‘ยึดทรัพย์’ ของผู้ผลิตและผู้ขาย ให้ความสำคัญที่ผู้ค้ารายใหญ่ ทำลายอุปสรรคทางกฎหมาย เตรียมเสนอแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายยาเสพติดให้ครอบคลุม เพื่อให้การยึดทรัพย์ของผู้ขายยาเสพติดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ป้องกันการโอนย้ายทรัพย์สินและฟอกเงิน นำเอา พ.ร.บ. ปปง.จาก สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (หรือกฎหมายฟอกเงิน) มาใช้ควบคู่กับกฎหมายยาเสพติด เป็นช่องทางเพิ่มรายได้ภาครัฐ

2.หลักการผู้เสพคือผู้ป่วย เพิ่มสถานบำบัดผู้ติดยาเสพติด โดยสถานบำบัดต้องเพียงพอ เมื่อผ่านกระบวนการบำบัดฟื้นฟูแล้ว รัฐบาลต้องจัดหางาน ทำให้ผู้ป่วยกลายเป็นผู้สร้างโอกาส สร้างรายได้แก่ครอบครัวอย่างมั่นคง

3.เพิ่มมาตรการใช้เครือข่ายภาคประชาชนในการรายงานการระบาดของยาเสพติดในชุมชน เพราะมีความเป็นกลาง ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง ประชาสัมพันธ์ จูงใจด้วยเงินนำจับตามกฎหมาย 5% โดยมีมาตรการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส

4.เปิดการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดน เพื่อเข้าจัดการทำลายแหล่งผลิตยาเสพติดอย่างถาวร และเข้มงวดกวดขันการลักลอบขนยาตามแนวพรมแดนในทุกช่องทาง

ทั้งนี้กรณีล่าสุดที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จับกุมเรือขนไอซ์ 900 กิโลกรัม ได้กลางทะเลอ่าวไทยที่ อ.เสม็ด จ.ระยอง ปลายทางส่งที่ประเทศออสเตรเลีย ในขณะที่ในปีงบประมาณ 2566 จนถึงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยังจับกุมยึดไอซ์ได้ 16,000 กิโลกรัม ซึ่งปริมาณมากกว่าปีที่แล้วทั้งปี แสดงให้เห็นว่า แม้ใช้วิธีการปราบปราม จับกุม และยึดทรัพย์ผู้กระทำความผิด ยังไม่เพียงพอต่อสถานการณ์การระบาดในปัจจุบัน

“พรรคเพื่อไทยพร้อมเดินหน้าเต็มที่ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ยังคงระบาดรุนแรง และในฐานะคณะทำงานด้านการแก้ปัญหายาเสพติด ภายใต้คณะกรรมการประสานงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาลของพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค เราจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การหารือร่วมกัน เพื่อให้การแก้ปัญหายาเสพติดเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม คืนความปลอดภัยให้สังคมและคืนอนาคตให้ลูกหลานไทย” ดร.ลิณธิภรณ์ กล่าว

Related Posts

Send this to a friend