POLITICS

ไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพ “APEC 2022” ทุกหน่วยงานขานรับการจัดงานเพื่อต้อนรับผู้นำและผู้แทนทุกเขตเศรษฐกิจ

เตรียมการฝึกซ้อมแผนแก้ไขปัญหาสถานการณ์วิกฤตและการเผชิญเหตุ จัดเมนูอาหารจากวัตถุดิบที่โดดเด่นจากทุกภูมิภาคของไทย

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยความคืบหน้าการเตรียมการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้อง ในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ปี พ.ศ. 2565 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 19 พฤศจิกายน 2565 นี้ โดยใช้ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นสถานที่สำหรับการประชุมหลัก และหอประชุมกองทัพเรือสำหรับงานเลี้ยงอาหารค่ำ (Gala Dinner) อย่างเป็นทางการ สำหรับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและคู่สมรส

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยร่วมกันเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฯ ของไทยอย่างแข็งขัน โดยด้านการรักษาดูแลความปลอดภัย ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้เตรียมความพร้อมให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชุดปฏิบัติการพิเศษ ฝึกซ้อมแผนแก้ไขปัญหาสถานการณ์วิกฤต และการเผชิญเหตุ รองรับการประชุมเอเปค 2565 ในช่วงวันที่วันที่ 16 – 20 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา โดยมีการซักซ้อมยุทธวิธีการปฏิบัติต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น

ในส่วนของงานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างเป็นทางการ สำหรับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและคู่สมรส ซึ่งจะมีขึ้นที่หอประชุมกองทัพเรือ ได้มีการเตรียมการอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy Model: BCG) ซึ่งเป็นแนวคิดหลักของไทยในการเป็นเจ้าภาพการประชุมฯ พร้อมคัดเลือกวัตถุดิบ และเมนูอาหาร เครื่องดื่มที่มีความเป็นเลิศในรสชาติตามตำรับไทยแท้ มีความสร้างสรรค์ และใช้วัตถุดิบที่โดดเด่นมีคุณภาพจากทุกภูมิภาคของไทย อาทิ ผักออแกนิคจากวิสาหกิจชุมชนทั่วทุกภาคของเมืองไทย ไก่ฟ้าโครงการหลวง กุ้งมังกร 7 สีภูเก็ต ไข่เป็ดไล่ทุ่งเมืองสุพรรณบุรี เกลือเมืองเพชร กุ้งแม่น้ำอยุธยา ไก่บ้านออแกนิคจากนครปฐม ไข่ปลากุเลาแดดเดียวจากปัตตานี เนื้อโคขุนจากสหกรณ์โพนยางคำสกลนคร ข้าวหอมมะลิไทยจากทุ่งกุลาร้องไห้ และยอดกาแฟเมืองน่าน ทั้งนี้ เมนูอาหารจะได้รับการรังสรรค์โดยเชฟชุมพล แจ้งไพร ซึ่งเป็น 1 ใน 9 APEC Presenters นอกจากนี้ ยังมีการนำผลิตภัณฑ์ งานศิลปหัตถกรรมไทย จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มาใช้ในการตกแต่งโต๊ะอาหาร ซึ่งจะสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี

Related Posts

Send this to a friend