‘เพื่อไทย’ หวังกวาดที่นั่ง ส.ส.ภาคกลางเกินครึ่ง หลังเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร 36 คนใน 15 จังหวัด
‘เพื่อไทย’ หวังกวาดที่นั่ง ส.ส.ภาคกลางเกินครึ่ง หลังเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร 36 คนใน 15 จังหวัด รับบ้านใหญ่แข่งขันสูง มองอาจยุบสภาหลังเอเปค-เลือกตั้งต้นปี 66 ชูตั้งรัฐบาลพาพ้นวิกฤตด้วยกลยุทธ์แลนด์สไลด์
วันนี้ (26 ส.ค. 65) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส. นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส. กรุงเทพมหานคร (กทม.) โฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคเพื่อไทย ในพื้นที่ภาคกลาง จำนวน 36 คน จากทั้งหมด 106 คน ใน 26 จังหวัด
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ภาคกลางถือเป็นพื้นที่สำคัญของประเทศ ถือเป็นแกนกลางและเป็นหัวใจในการพัฒนาประเทศ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคเพื่อไทยจึงเป็นเสมือนจุดเชื่อมของพรรคกับพี่น้องประชาชน เพื่อไปบอกกับพี่น้องประชาชนว่า เราจะต้องช่วยกันนำพาประเทศออกจากวิกฤตครั้งนี้ให้ได้ พรรคเพื่อไทย มุ่งมั่นที่จะส่งผู้สมัคร ส.ส. ครบทุกเขต ในพื้นที่ภาคกลาง แต่วันนี้เราขอเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในพื้นที่ภาคกลางเบื้องต้น 36 เขตเลือกตั้ง ซึ่งเป็นผู้อาสามาเป็นตัวแทนในการทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน ส่วนผู้สมัครในพื้นที่เขตอื่นๆ ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาผู้ที่เหมาะสมและจะเปิดเผยต่อไป
“8 ปีที่ผ่านมาเราสูญเสียโอกาสต่างๆ ไปเยอะมาก ทั้งในเรื่องการทำมาหากิน ปากท้อง เศรษฐกิจ ไปจนถึงเรื่องสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ที่ถูกทำลายไปอย่างย่อยยับ เราอยากบอกกับพี่น้องว่าขอให้ให้ช่วยกันนำพาประเทศออกจากวิกฤตครั้งนี้ให้ได้ การเลือกตั้งอาจเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ ซึ่งคาดการณ์เอาไว้ว่าอาจจะมีการยุบสภาหลังประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค ในช่วงปลายปี 2565 และอาจมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ในช่วงต้นปี 2566 พรรคเพื่อไทยเห็นความเป็นอยู่ของพี่น้องเป็นเรื่องสำคัญ จึงอยากเชิญชวนพี่น้องให้มาร่วมกันเลือกพรรคเพื่อไทยอย่างแลนด์สไลด์ และไม่ต้องลังเล เพื่อร่วมกันช่วยกันให้ออกจากวิกฤต 8 ปีที่เรายากลำบากให้ได้ โดยแลนด์สไลด์จะเป็นกลไกในการป้องกันอำนาจมิชอบและเป็นการปิดสวิตซ์ ส.ว. ที่จะตั้งนายกรัฐมนตรีไปโดยปริยาย” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมุ่งมั่นที่จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น ด้วยนโยบายที่ทำได้จริง และตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนจนสามารถลืมตาอ้าปากได้ อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ตามที่พรรคยึดมั่นหัวใจหลักสำคัญ คือ ประชาชนเป็นศูนย์กลาง จนพูดได้อย่างเต็มภาคภูมิว่า พรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน เราพร้อมที่จะทุ่มเททุกสรรพกำลังในการทำงานดูแลพี่น้องคนคนไทยทุกคน เราและพี่น้องประชาชนจะจับมือกันสร้างปรากฎการณ์แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน เหมือนที่เกิดขึ้นมาแล้วในอดีตที่ทำให้เราได้รัฐบาลของประชาชนที่แท้จริง ทั้งรัฐบาลไทยรักไทย รัฐบาลพลังประชาชนและรัฐบาลเพื่อไทย ขอให้พี่น้องประขาชนเลือกพรรคเพื่อไทยยกจังหวัด เลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ทุกจังหวัด ร่วมกันสร้างปรากฎการณ์แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน แล้วเราจะก้าวพ้นวิกฤต กลับคืนสู่การมีชีวิตและอนาคตที่ดีกว่าไปด้วยกัน
โดยรายชื่อของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในสัดส่วนพื้นที่ภาคกลาง ของพรรคเพื่อไทย จำนวน 36 รายชื่อ ประกอบด้วย
- อุทัยธานี
สุชาดา บัวพันธ์
อรรถพล โต๋วสัจจา - ชัยนาท
พรหมมิน สีตบุตร
วิฑูร ลี้ธีระนานนท์ - สุพรรณบุรี
กุลธิดา เหมาเพชร
พลตรีเทียมศักดิ์ สุขานุยุทธ
ทรงธรรม ลิ้มธนาคม - ลพบุรี
สิทธิชัย หล่อประสงค์สุข
สุชาติ ลายน้ำเงิน
อุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม
วรวงศ์ วรปัญญา - สระบุรี
อรรถพล วงษ์ประยูร
บุญส่ง เกิดหลำ
จเร เสี่ยตั้งทวีพรชัย
องอาจ วงษ์ประยูร - นครนายก
เกรียงไกร กิตติธเนศวร - ปราจีนบุรี
กฤษณ์กมล แพงศรี
คงกฤช หงษ์วิไล - สระแก้ว
กฤษณะ สุนทรกิจพานิช
สรวงษ์ เทียนทอง - กาญจนบุรี
อัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์
ชูเกียรติ จีนาภักดิ์ - เพชรบุรี
กิตติ ทรัพย์วิสุทธิ์
ภาณุมาศ อังกินันท์ - ประจวบคีรีขันธ์
พรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ - สมุทรสงคราม
ณิชาภา โกวิทานนท์ - ตราด
ทินวัฒน์ เจียมอุย - นนทบุรี
จิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์
มานะศักดิ์ จันทร์ประสงค์
มนตรี ตั้งเจริญถาวร
วันชัย เจริญนนทสิทธิ์
ภณณัฎฐ์ ศรีอินทร์สุทธิ์ - พระนครศรีอยุธยา
อัณณพ อารีย์วงศ์สกุล
วิทยา บุรณศิริ
อาทิตย์ ภาคอินทรีย์
จิรทัศ ไกรเดชา
สมภพ หงษ์ทอง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อีก 11 จังหวัดในพื้นที่ภาคกลางที่ยังไม่เปิดรายชื่อว่าที่ผู้สมัครฯ ได้แก่ ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ สมุทรสาคร ระยอง ชลบุรี จันทบุรี ราชบุรี นครปฐม สิงห์บุรี อ่างทอง และ ปทุมธานี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเป้าหมายในพื้นที่ภาคกลาง ว่าจะกวาดที่นั่ง ส.ส. เท่าใด นพ.ชลน่าน ตอบว่า ภาพใหญ่ตั้งเป้าว่า ต้องแลนด์สไลด์ แต่จากที่ประเมินมองว่า ต้องได้เกินกว่าครึ่ง คือ 60 ที่นั่ง ขึ้นไป ทางพรรคก็มีความกังวลเรื่องการแข่งขันที่สูงในพื้นที่ภาคกลาง ปัจจัยในการเลือกก็ต่างจากภาคอื่น มีระบบบ้านใหญ่ค่อนข้างมาก แต่ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยมั่นใจในนโยบายว่าจะสร้างโอกาสได้ ทำให้ประชาชนให้ความสำคัญกับพรรคมากขึ้น
