POLITICS

ผบช.ไซเบอร์ ออกหมายเรียกแม่แตงโม สอบปมให้โทรศัพท์บังแจ็ค

ผบช.ไซเบอร์ ออกหมายเรียกแม่แตงโม 2 มิ.ย. สอบปมให้โทรศัพท์บังแจ็ค พร้อมเตรียมออกหมายจับ ท้า เก่งจริงมาเมืองไทย

วันนี้ (26 พ.ค. 65) พลตำรวจโทกรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) บอกถึงความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบผู้นำแอคเค้าท์ของแตงโม ไปโพสต์รูปภาพและข้อความ ว่า ขณะนี้มีการออกหมายเรียกนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม มาให้การในฐานะพยาน หลัง กระติก เข้ามาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กของแตงโม โดยนำไปโพสต์ภาพและข้อความทำให้กระติกได้รับความเสียหาย ซึ่งจากข้อมูลพบว่า โทรศัพท์มือถือของแตงโม ถูกส่งมอบคืนให้กับคุณแม่ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. 65 และคุณแม่ไปรับด้วยตัวเองที่สภ.เมืองนนทบุรี

จึงจำเป็นต้องเรียกคุณแม่มาสอบปากคำในประเด็นที่แม่ส่งมือถือไปให้บังแจ็คว่าส่งไปเพื่อวัตถุประสงค์ใด เพื่ออะไร โดยนัดหมายให้เข้ามาพบในวันที่ 2 มิ.ย. 65 ซึ่งขณะนี้ ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ ได้ประสานมาเพื่อจะมาเข้าพบตามวันเวลาที่นัดหมายแล้ว และยังได้พูดคุยกับ ส.ส.เต้ ในหลายเรื่อง

“อย่าไปเชื่ออะไรมาก เพราะมันไม่ใช่ละคร แต่มันคือคดีจริงๆ ต้องผ่านเจ้าหน้าที่ที่กฎหมายรับรองเท่านั้น ถึงบังแจ็คจะส่งหลักฐานอะไรมา ผมก็ไม่เซ็นรับรองให้”

ส่วนแม่แตงโมจะเข้าข่ายสมรู้ร่วมคิดในการเผยแพร่ภาพถ่ายและภาพลับของแตงโมหรือไม่นั้น ต้องรอฟังคำให้การของแม่ก่อน เพื่อดูว่าบังแจ็คไปทำเกินเหตุหรือไม่หรือทำตามคำสั่ง พร้อมยืนยันไม่ออกตัวเข้าข้างคุณแม่ แต่หากบังแจ็คทำเกิน ก็ถือว่าทำงานนอกเหนือคำสั่ง แต่หากทำตามคำสั่งก็อาจจะเข้าข่ายสมรู้ร่วมคิดได้ ซึ่งจะต้องดูเจตนาของคุณแม่ตรงนี้ก่อน ทั้งนี้ยืนยันว่าหากแม่ไม่มาให้ปากคำก็ไม่กระทบต่อรูปคดี เพียงแต่ต้องการให้มาให้ข้อเท็จจริงเพื่อให้สิ้นกระแสความ

ทั้งนี้กรณีที่แม่เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าไม่เคยส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็ค แล้วอ้างว่าให้ทนายเดชาเก็บไว้ และเก็บไว้เองนั้น หากพูดตามตรงก็ถือเป็นการโกหก แต่ยังไม่ถึงกับเป็นคดี เพราะเป็นสิทธิส่วนตัวอาจมีความจำเป็นที่จะต้องโกหก เพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง ดังนั้นจึงต้องขอฟังคำให้การของคุณแม่ก่อน

ส่วนการดำเนินคดีบังแจ็ค วันพรุ่งนี้จะมีการสอบปากคำพยานเพิ่มอีก 1 ปาก ซึ่งเป็นพยานที่รู้เห็นเกี่ยวกับการรู้เห็นภาพลามก ที่บังแจ็คส่งต่อ แม่ว่าจะเป็นการส่งให้ส่วนตัว หรือส่งต่อเพียงคนเดียว แต่ก็เข้าข่ายเผยแพร่สื่อลามกอนาจารถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย โดยหลังจากสอบปากคำเสร็จสิ้น ก็สามารถออกหมายจับได้ และเมื่อผู้ต้องหา อยู่ในต่างประเทศตามขั้นตอนก็จะยื่นตำรวจสากลออกหมายแดง เนื่องจากบังแจ็คมีถิ่นพำนักอยู่ในอเมริกา และเข้าสู่กระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ทั้งนี้ยืนยันว่า ทุกหน่วยพร้อมที่จะช่วยเหลือเรา แต่ต้องดูความสำคัญของคดีด้วย

พร้อมฝากถึงบังแจ็ค “อย่าดูถูกตำรวจ อยากให้บังแจ็คเดินทางมาประเทศไทยแล้วเห็นเอกสารในมือตนเอง แล้วคุณจะรู้ว่าตำรวจไทยไม่ธรรมดา ถิ่นที่อยู่ของคุณผมมีหมด ที่คุณโพสต์ผมมีข้อมูลหมด มือถือที่คุณโพสต์ผมก็มีหมด เครือข่ายที่คุณโพสต์ผมก็มีหมด วันเวลาที่คุณโพสต์ผมก็มีหมด ดังนั้นขอร้องว่า ให้เคารพสิทธิของแตงโมด้วยอย่าพูดอะไรเพ้อเจ้อ พร้อมท้าให้มาเมืองไทย ผมรออยู่ อเมริกาเองก็ไม่เอานะครับ ประชากรที่สร้างแต่ปัญหา”

ส่วนกรณีการปิดเพจของแตงโมนั้น ขณะนี้ มีการประสานไปยังเฟซบุ๊กประเทศไทย ร่วมกับฝ่ายป้องกันอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ภายใต้สังกัดของ ตอท.ให้ยื่นเรื่องขอให้ปิดเพจทั้งหมด เนื่องจากผู้ที่ถูกกล่าวอ้างคือแตงโม ซึ่งเสียชีวิตแล้ว

พลตำรวจโทกรไชย ยังยืนยันว่า ข้อมูลเฟซบุ๊กของแตงโม มีการโพสต์ที่อเมริกา และมีการล็อกอินในอเมริกา นั่นหมายความว่า คนที่ล็อกอินได้ต้องรู้พาสเวิร์ดซึ่งบังแจ็คได้ทั้งเครื่องได้ทั้งพาสเวิร์ด

Related Posts

Send this to a friend