POLITICS

‘นันทนา’ เผย กมธ.ประชามติ สว.กลับลำหนุนเกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้น

วันนี้ (25 ก.ย.67) นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติว่า การประชุม 4 ครั้งที่ผ่านมา มีการพูดคุยถึงหลักการและเหตุผล ในเรื่องการทำประชามติตามร่างที่ สส.ส่งมา กรณีเสียงข้างมากชั้นเดียว แต่วันนี้มีการกลับมติ ไปสนับสนุนการใช้เสียงข้างมากสองชั้น ซึ่งเป็นข้อสังเกตว่า การประชุมที่ผ่านมามีความเห็นสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน แต่วันนี้กลับมีการทบทวนมติเกือบเอกฉันท์ 17 ต่อ 1 ซึ่งหนึ่งเสียงนั้นคือตนเอง ในการที่อยากให้คงเสียงข้างมากชั้นเดียวไว้

นางสาวนันทนา มองว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ค่อนข้างผิดปกติ เนื่องจากเห็นว่าการทำประชามติควรจะเป็นการทำที่ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย และมีโอกาสที่จะเป็นจริงได้มากที่สุดคือ เสียงข้างมากธรรมดาเกินกึ่งของผู้ที่ออกมาใช้สิทธิ แต่การกลับมติเช่นนี้ เป็นเรื่องน่าตกใจ เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ที่ผ่านมาเป็นเรื่องหนึ่ง แต่วันนี้มีการกลับมติค่อนข้างหนักหน่วง ซึ่งเข้าใจว่าการทำ พ.ร.บ.ประชามติ หากมีเสียงค้านของ สว. ก็อาจจะไม่สามารถทำได้ทันกับช่วงเวลาเลือกตั้งท้องถิ่น หรือ อบจ. ในเดือน ก.พ.68 นี่จึงเป็นความผิดปกติเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญผ่านทางการทำประชามติ

ส่วนจะเป็นเกมเพื่อทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับเกิดขึ้นไม่ทันสภาชุดนี้หรือไม่ นางสาวนันทนา กล่าวว่า น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะเป็นการทำให้กระบวนการยืดเยื้อออกไป เนื่องจากหาก สว.ไม่เห็นชอบกับร่างของ สส. จะต้องมีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วม ซึ่งก็จะไม่ทันการเลือกตั้ง อบจ. นอกจากการยืดเยื้อเวลาออกไป ความเป็นจริงในการที่จะยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับแทบมองไม่เห็นเลย เพราะจากการถกเถียงของ สส.เรื่องเสียงข้างมากสองชั้นนั้น เป็นการระดมคนที่มีจำนวนมากมา แต่หากมีจำนวนไม่ถึงครึ่ง จะไม่สามารถทำประชามติได้

ทั้งนี้คงต้องมีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อถกเถียงหาข้อสรุปกันใหม่ ว่าจะมีมติเป็นอย่างไรในการแก้ พ.ร.บ.ประชามตินี้ โดยคาดว่าน่าจะใช้เวลามากกว่า 60 วัน ในการตั้งคณะกรรมาธิการร่วม ซึ่งจะเลยจากกำหนดเวลาไปแล้ว โดยขั้นตอนหลังจากนี้ ฝ่ายสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะสรุปเนื้อหาทั้งหมดของร่าง พ.ร.บ.ประชามติเพื่อส่งให้ทางสภาใหญ่ และวุฒิสภาต้องลงมติว่าจะเห็นชอบตามร่างของคณะกรรมธิการหรือไม่ ซึ่งเสียงข้างมากน่าจะลงมติไปตามนั้น แต่ตนขอสงวนความเห็น

สำหรับมุมมองที่ก่อนหน้านี้ทุกพรรคการเมืองอยากให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น ในมุมมองของ สว.คงระบุเฉพาะเจาะจงไปที่พรรคใดพรรคหนึ่งที่มีแนวโน้มไม่อยากให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ไม่ได้ แต่ สว.จำนวนมาก มีการลงมติอย่างพร้อมเพรียงกันในลักษณะนั้น จึงเชื่อว่า เป็นทิศทางของพรรคการเมืองนั้นที่ไม่อยากให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ภายในสมัยสภาฯ ชุดนี้

ส่วนความเป็นไปได้ที่จะกลับไปใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว ขึ้นอยู่ที่คณะกรรมาธิการจะมองอย่างไร เนื่องจากสัดส่วนกรรมาธิการมีคนจากหลายส่วนเข้ามา พรรคการเมืองที่มีอิทธิพลต่อ สว. อาจจะกลายเป็นเสียงไม่สนับสนุนให้ใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว แต่ยึดตามเสียงข้างมากสองชั้น ตนเองเข้าใจว่าเมื่อมีการเสนอเรื่องนี้ออกมาก็มีเสียงคัดค้านในหลากหลายทิศทาง ซึ่งก็อาจจะมีการถอยออกมามองว่า หรือจะยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เพราะการแก้ในแต่ละมาตราอาจจะเป็นอุปสรรค เนื่องจากผ่านได้ค่อนข้างยาก ตนเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat