‘สุชาติ’ เรียก ผอ.สำนักพุทธฯหารือ เตรียมเด้ง ผอ.สำนักพุทธฯ ลพบุรี – สังคายนาพระสงฆ์ทั่วประเทศ
‘สุชาติ’ เรียก ผอ. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติคนใหม่-เก่า หารือ เตรียมเด้ง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี – สังคายนาพระสงฆ์ทั่วประเทศ ส่วน ตรวจฉี่ – ทรัพย์สิน ต้องหารือมหาเถรสมาคม ชี้ ถึงเวลาแล้วเรียกศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนคืน
วันนี้ (25 ส.ค. 67) นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมร่วมผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ทั้งคนเก่าที่เกษียณ และ คนใหม่ ถึงการแก้ปัญหาวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี มีความคืบหน้าหรือไม่ เพราะประวัติสร้างความสับสนให้กับสังคมว่า ตนเองได้ข้อมูลเท่ากับสื่อมวลชน ยังตามข้อมูลไม่ทัน จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย ทั้งเรื่องวัน เดือน ปีเกิด ไม่ตรงใบสัทธิวิหาริก หรือสมุดประวัติ หลังจากนั้นมีการเปลี่ยนชื่อเป็น นายเกรียงไกร และมีเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ลงทะเบียนพร้อมเพย์ เมื่อมึการโอนเงิน เงินจึงเข้ามูลนิธิ แสดงว่ามูลนิธินี้เป็นของวัด เหมือนกับที่เราลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่ จ.ลพบุรี
ส่วนมูลนิธิมีความเกี่ยวข้องกับวัดอย่างไร นายสุชาติ ระบุว่า ไม่มีใครตอบได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน แสดงว่า การที่เราบริจาคเงิน 1 บาทเข้ามูลนิธิ ซึ่งมูลนิธิเป็นของวัด แสดงว่าเงินบริจาคนี้เป็นของวัด ซึ่งตรงนี้ต้องตรวจสอบต่อไป เมื่อเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ทำให้เกิดการฉุกคิดได้ว่า เราต้องทำการสังคายนา ปฏิรูปวงการพระพุทธศาสนา จะต้องไปปรึกษากับมหาเถระสมาคมว่าถึงเวลาหรือยัง ที่จะสังคายนาพระภิกษุทั้งประเทศ ยอมให้ทำประวัติตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ หรือทรัพย์สินก็ดี โดยเฉพาะเรื่องทรัพย์สินเป็นเรื่องใหญ่มากที่ทำให้พระเสียผู้ เสียคน ความเป็นสมณเพศเยอะแยะไปหมด เพราะการที่มีทรัพย์สินโดยที่คุณไม่รู้ เงินของวัดกลายเป็นเงินส่วนตัว แล้วไปใช้จ่ายกันผิด ๆ ดังนั้น จึงถึงเวลาที่จะสังคายนาพระ แต่ก่อนจะสังคายนาพระ ต้องสังคายนาสำนักงานพระพุทธศาสนา ซึ่งวันนี้ ผอ. สำนักพุทธฯ คนเก่า ที่จะเกษียณอายุราชการ และคนใหม่ ซึ่งเคยให้นโยบายไปแล้วว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดควรจะต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับวัดต่าง ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ แต่จังหวัดลพบุรีเกิดเหตุการณ์มาหลายปี เหตุใดสำนักพุทธจังหวัดจึงไม่รู้เรื่องหรือไม่มีข้อมูลจนถึงขณะนี้ รายงานมาก็ไม่มีข้อมูลอะไรเลย สู้นักข่าวยังไม่ได้ ถึงเวลาหรือยังที่ต้องสังคายนาสำนักงานพระพุทธศาสนา เช่น จ.ลพบุรี ต้องไปดูว่า ผอ. สำนักพุทธจังหวัดลพบุรี คนเก่า ทำอะไรไว้ คนปัจจุบันทำไมไม่ทำงาน ควรจะเอาเข้ามาอยู่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ต้องให้ ผอ. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พิจารณาตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ความหย่อนยานบกพร่อง ประสิทธิภาพในที่ทำงานอยู่ ให้นโยบายไปเป็นเดือนแล้วแต่ก็ยังไม่ทำงาน ตรงนี้ถือว่าไม่สนองนโยบาย
ส่วนการสังคายนาจะเรียกศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนคืนมาได้หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า มันเป็นมาแล้ว 100 ปีละมั้ง ต้องใช้เวลา เพราะต้องไปขอความร่วมมือจากมหาเถระสมาคม เพราะเป็นผู้ปกครองสงฆ์ ว่าท่านจะยินยอมให้สังคายนาหรือไม่ ยินยอมให้ตรวจทรัพย์สินและสุขภาพหรือไม่
เมื่อถามย้ำว่าก่อนหน้านี้ นายสุชาติ ได้ไปพบกับมหาเถระสมาคม เคยมีการพูดคุยเรื่องนี้หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นคุยเรื่องสังคายนา แต่เหตุการณ์ ณ ปัจจุบันมันรุนแรง ขึ้นไปเรื่อย ๆ แสดงว่าความเสื่อมของพระที่ครองสมณเพศ อาจจะมีความประพฤติที่ไม่ถูกต้องนักไม่เคร่งครัดในธรรมวินัย ถึงเวลาแล้วที่จะเรียกศรัทธาของพระพุทธศาสนากลับคืน
ส่วนความผิดของหลวงพ่ออลงกตที่ค่อนข้างชัดเจนในเรื่องของการเก็บศพ และการสวมบัตรประชาชน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมีการดำเนินการอย่างไรแล้วหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องนี้จะให้ผอ. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติตั้งคณะกรรมการสอบว่าดำเนินการอะไรบ้างหรือไม่ ทำอะไรหรือไม่ ทำไมนักข่าวและชาวบ้านรู้แต่ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี ไม่รู้ได้อย่างไร และทั่วประเทศ หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาแสดงว่าสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดบกพร่อง
ทั้งนี้ นายสุชาติ กล่าวด้วยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการไปพูดคุยกับหลวงพ่ออลงกต












