’ชูศักดิ์‘ ชี้ 11 รมต. ยังไม่มีมูลชี้ขาดความผิด มองคนปล่อยข่าวทำประเทศติดหล่ม

’ชูศักดิ์‘ ชี้ 11 รมต. ยังไม่มีมูลชี้ขาดความผิด มอง คนปล่อยข่าวทำประเทศติดหล่ม เดินหน้าไม่ได้ ปัดซ้ำรอย ’เศรษฐา‘ บอก เป็นคนละเรื่องกัน
วันนี้ (2 ก.ย. 67) นายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ออกมาเปิดเผยว่าอาจมี 11 รัฐมนตรีชุดใหม่ที่มีชนักติดหลังอยู่ตามหน่วยงานต่าง ๆ ว่า ที่เข้าใจคือขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ และเท่าที่ตนเองได้ติดตามดู ก็ได้ส่งรายชื่อไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ให้ดูว่าใครถูกร้องหรือไม่ถูกร้องเรื่องอะไรบ้าง และขณะนี้มีขั้นตอนไปถึงไหนแล้ว ซึ่งเข้าใจว่าทางเลขาธิการ ป.ป.ช. ได้แถลงหมดแล้ว ก็มีหน้าที่ตรวจสอบไม่ใช่ไปชี้ว่าผิดหรือถูก แค่ตรวจสอบว่ามีใครถูกร้องเรื่องอะไรบ้าง และส่งกลับมาให้คณะทำงาน
นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า ต้องเข้าใจว่าตอนนี้ยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ ที่ผ่านมาเรื่องที่วิตกกังวลกันคือเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และเรื่องประมวลจริยธรรม ซึ่งเรื่องเหล่านี้ ต้องมีการวินิจฉัยชี้ขาด เช่น ป.ป.ช.ต้องชี้ขาดมาว่ามีความผิด แต่ขณะนี้เรื่องไม่ถึงขั้นนั้น แต่ตนเองสันนิษฐานว่าเรื่องเหล่านี้มันยังไม่สิ้นสุด และยังไม่มีข้อยุติ ใครจะร้อง ป.ป.ช.ก็รับเรื่องไว้แต่จะผิดหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง เป็นเพียงดุลพินิจแต่ไม่ได้ชี้ว่าใครขาดจริยธรรม ใครขาดความซื่อสัตย์สุจริต มองเรื่องความถูกต้องชอบธรรมว่า ถ้าใครถูกร้องและไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี จะกลายเป็นว่าไม่ได้รับแต่งตั้งกันทั้งหมด
ส่วนจะซ้ำรอยเหมือนกับ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนเองมองว่าเป็นคนละเรื่องกัน เรื่องนั้นทราบอยู่แล้วว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร แต่ว่าที่รัฐมนตรีที่แต่ละพรรคเสนอมาขณะนี้ยังไม่มีใครถูกชี้มูลความผิด
เมื่อถามว่าจุดประสงค์คนที่ปล่อยข่าวต้องการแกล้งรัฐบาลหรือไม่ นายชูศักดิ์ ระบุว่า ตนไม่ทราบแต่มองว่าการเมืองไทยก็เป็นแบบนี้ และเมื่อเป็นเรื่องจริยธรรมมันก็จะร้องไม่จบเหมือนไปติดหล่มอะไรบางอย่าง ซึ่งประเทศก็จะเดินไม่ได้เหมือนกัน
ส่วนที่ฝ่ายรัฐบาลดึงกูรูด้านกฎหมายมาช่วยตรวจสอบครั้งนี้จะทำให้ราบรื่นหรือไม่ นายชูศักดิ์ เผยว่า ก็เป็นเรื่องของความรอบคอบแต่ไม่รู้ว่าเกณฑ์การตรวจสอบคืออะไร แต่ส่วนตัวมองว่าตราบใดที่ยังไม่มีคำวินิจฉัยหรือคำพิพากษาว่าผิด ก็ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์ ไม่เช่นนั้นประเทศจะเดินไม่ได้