POLITICS

พล.อ.ประวิตร ยกระดับทำประมงยั่งยืน พร้อมเคาะแผนแก้ประมงผิดกฎหมายทะเลสาบสงขลา ปี 66-70

วันนี้ (25 ก.ค. 65) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2565 ณ ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (VDO Conference) เพื่อรับทราบกำหนดการประชุมคณะทำงานร่วมระหว่างรัฐบาลไทย กับคณะกรรมาธิการยุโรปในการต่อต้านการทำประมง IUU ครั้งที่ 6 ที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 10 – 14 ต.ค.65 และการเตรียมการจัดทำรายงานความก้าวหน้าในการต่อต้านการทำประมง IUU ของไทย และรับทราบผลการพิจารณาจัดสรรใบอนุญาตและหลักเกณฑ์การทำประมง ปี 65-66 โดยมีเรือที่ขอรับการจัดสรรจำนวน 9,687 ลำ ได้รับการอนุญาต 9,608 ลำ อยู่ในพื้นที่ฝั่งอ่าวไทย 7,703 ลำ และฝั่งอันดามัน 1,905 ลำ ไม่ได้รับอนุญาต 79 ลำ จากคุณสมบัติที่ไม่ครบถ้วน

ที่ประชุมยังได้ร่วมพิจารณาและให้ความเห็นชอบ โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน ระยะที่ 2 จำนวน 59 ลำ วงเงิน 287,181,800 บาท และแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายในทะเลสาบสงขลา ปี 66 -70 โดยมีสาระสำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรประมงในพื้นที่ทะเลสาบสงขลา และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชาวประมง ชุมชนและผู้เกี่ยวข้อง ในการจัดการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย

นอกจากนี้ ยังเห็นชอบแผนอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรประมงที่เสี่ยงสูญพันธุ์ โดยกำหนด 3 แนวทางประกอบด้วย การฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากร ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้ประโยชน์ทรัพยากรประมงแบบบูรณาการ และการบริหารจัดการทรัพยากรประมงในทะเลสาปสงขลาอย่างยั่งยืน

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการยกระดับขับเคลื่อนนโยบายการทำประมงที่ยั่งยืน จำเป็นต้องถูกกฎหมายควบคู่กับการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรทะเล และการบริหารจัดการอย่างมีส่วนร่วมกันของผู้มีส่วนได้เสีย โดยกำชับให้กรมประมงและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความสำคัญกับการบูรณาการทำงานร่วมกันด้วยความเข้าใจ ร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศและภาคประชาชน โดยเฉพาะการดูแลแรงงานภาคประมงและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย พร้อมทั้งพิจารณาให้ความสำคัญกับ MMPA และแผนปฏิบัติการระดับชาติเพื่อการอนุรักษ์และบริหารจัดการสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม ปี 66-70 ที่จัดทำขึ้นรองรับไปพร้อมกัน โดยเฉพาะมาตรการรองรับการลดใช้พลาสติกและโฟม ที่ก่อปัญหาขยะทะเล ซึ่งจะส่งผลอันตรายต่อสัตว์ทะเล และมาตรฐานผลิตภัณฑ์สัตว์ทะเลส่งออก และความเชื่อมั่นระหว่างประเทศ

Related Posts

Send this to a friend