POLITICS

พปชร. พร้อมลงชื่อร่วมญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

พปชร. พร้อมลงชื่อร่วมญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เชื่อ ประชาชนพร้อมลงชื่อไล่นายกฯ ด้วย ชี้ นโยบายปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ‘ปากว่าตาขยิบ’ ไม่มีผลเป็นรูปธรรม

วันนี้ (25 มิ.ย. 68) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตามที่พรรคภูมิใจไทยจะรวมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ลงชื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 หลังจากเปิดสมัยประชุมสภาครั้งที่ 3 วันที่ 3 กรกฎาคมที่จะถึงนี้

กรณีดังกล่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เห็นว่าการกระทำของท่านนายกฯ ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติยศ ศักดิ์ศรี เสี่ยงต่อการสูญเสียอธิปไตยของประเทศ หมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศต่อไป และเห็นด้วยกับพรรคภูมิใจไทยที่จะยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ เหลืออีก 10 กว่าเสียง พรรคร่วมฝ่ายค้านที่เหลือเห็นด้วยแน่ เชื่อว่า หากประชาขนลงชื่อไล่นายกฯ ได้ ประชาชนก็พร้อมลงชื่อด้วยเช่นกัน

สิ่งที่ประชาชนคับข้องใจและเคลือบแคลงใจสงสัยการทำงานของนายกฯ และรัฐบาล นับตั่งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งระหว่างประเทศ ทภ.2 เสนอให้ปิดด่านเพื่อตัดกำลังการส่งสินค้า โดยเฉพาะน้ำมัน ซึ่งถือเป็นยุทธปัจจัย และการตัดไฟฟ้า อินเทอร์เน็ท เพื่อตัดกำลังและเส้นทางนักพนันที่เป็นกลุ่มทุนฝ่ายตรงข้าม แต่ฝ่ายรัฐบาลกลับนิ่งเฉย สอดคล้องกับบทสนทนาที่ฮุนเซนนำมาเผยแพร่ ตลอดจนการมองกองทัพภาค 2 และทหารไทยเป็นฝ่ายตรงข้าม ส่วนตนเองเป็นญาติฝ่ายเดียวกับฮุนเซน และยินยอมทำทุกอย่างตามที่ฮุนเซนต้องการ ไม่ต้องแปลความอะไรมาก คนไทยทั้งประเทศได้ยินเข้าใจชัดเจน

ทั้งนี้ ขอชื่นชม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และ พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 ที่สั่งปิดด่านตามแนวพรมแดนไทย-กัมพูชา เพื่อสกัดกั้นภัยคุกคามต่าง ๆ และอาชญากรรมข้ามชาติ ตลอดจนแก๊งคอลเซ็นเตอร์และไฮบริดสแกม ถือเป็นการตัดท่อน้ำเลี้ยงฝ่ายกัมพูชาได้เป็นอย่างดี ช่วยคนไทยไม่ให้ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีกทางหนึ่ง

ส่วนรัฐบาลมีเพียงลมปาก ความสามารถและความจริงใจในการแก้ปัญหาแก็งคอลเซนเตอร์ ไม่มีเป็นรูปธรรมชัดเจน หากนายกฯ แน่จริง สั่งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินที่ผ่านจากไทยไปกัมพูชาในรอบสองปีที่เพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล จะเห็นว่ามีเงินโอนออกไปเท่าไหร่ ผ่านช่องทางใดบ้าง และรัฐบาลมีปัญญาทวงเงินกลับคืนมาหรือไม่

ธุรกรรมทางการเงินทุกรูปแบบที่ผ่านกลุ่มฮวยวัน (Huione Group) ไม่ว่าจะเป็น Huione Pay ,Huione Guarantee ,Huione Crypto ,HuiOne International Payments, HuiOne Warranty หรือ Huiwang Warranty ซึ่งกลุ่มบริษัทฯดังกล่าวถูกสหรัฐอเมริกาขึ้นบัญชีดำวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ในข้อกล่าวหาฟอกเงินให้กับแก๊งอาชญากรทั่วเอเชีย รวมถึงแฮกเกอร์เกาหลีเหนือที่อยู่เบื้องหลังคดีล้วงข้อมูล และอาชญากรรมไซเบอร์

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่ม “นายพัด สุภาภา” หรือ “ลี ยง พัด” เจ้าพ่อกาสิโนเกาะกง และสีหนุวิลล์ ภายใต้ LYP Group และ Tudou Guarantee รวมทั้ง นาย ตือ ค.ม. มีความสนิทสนมกับคนใกล้ตัวนายกฯ จึงไม่แปลกใจเลยว่าการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในไทยจึงเป็นไปอย่างไม่เอาจริงเอาจังเท่าที่ควร

กรณี ‘เสี่ยวโป’ ที่ถูกจับในข้อหาค้าอาวุธสงคราม และปลอมแปลงเลียนแบบเจ้าหน้าที่ทางการทูตจีน เคยเป็นข่าวใหญ่ในไทย ก็ยังคงประกอบธุรกิจเกี่ยวข้องกับทั้ง อาวุธสงคราม, ระบบ Call Center, กาสิโน และการฟอกเงินที่กัมพูชาก็มีความสนิทสนมกับคนใกล้ตัวนายกฯ เช่นกัน

“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพรรคเพื่อไทยถึงอยากเขี่ยภูมิใจไทยออก และอยากได้ มท.1 เพราะอยากขับเคลื่อนกาสิโนเสรีให้เป็นผล ดังนั้น นโยบายปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์จึงเป็นเพียงปากว่าตาขยิบ ไม่มีผลเป็นรูปธรรมชัดเจน และไม่มีปัญญาติดตามเงินที่ถูกหลอกไปมาคืนผู้เสียหาย” พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว

Related Posts

Send this to a friend