POLITICS

ยื่น 13,000 รายชื่อ ต่อต้าน พ.ร.บ.ควบคุมการรวมกลุ่มประชาชน

วันนี้ (25 มี.ค. 65) นางสุนทรี หัตถี เซ่งกิ่ง ผู้แทนเครือข่ายคัดค้านร่างกฎหมายควบคุมการรวมกลุ่มของประชาชน เข้ายื่นรายชื่อกว่า 13,379 รายชื่อ ที่เรียกร้องผ่านแคมเปญออนไลน์บนเว็บไซต์ Change .org ให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพม. เพื่อคัดค้านร่างกฎหมายควบคุมการรวมกลุ่มของประชาชน และขอให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ยุติการขับเคลื่อนและการรับฟังความเห็นของกฎหมายนี้ทันที โดยมีนายอนุกูล ปีดแก้ว อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เป็นตัวแทนรับ ก่อนจะเดินทางไปยื่นหนังสือให้นายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ไม่สามารถเข้ายื่นในทำเนียบฯได้

นางสุนทรี กล่าวว่า ทางเครือข่ายคัดค้านร่างกฎหมายควบคุมภาคประชาชนเห็นว่า รัฐบาลไทยต้องยืนยันหลักความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ซึ่งเปิดโอกาสให้บุคคลทุกคนสามารถรวมตัวกันและจัดตั้งสมาคมได้  ให้การประกันว่าสิทธิในการเข้าถึงทรัพยากร สิทธิในการดำเนินงาน ต้องปราศจากการแทรกแซงที่ไม่เหมาะสมของรัฐ ทั้งนี้เพื่อความเป็นอิสระและความมีประสิทธิภาพในการสมาคม

“วันนี้ได้ติดต่อขอยื่นหนังสือและได้รับการตอบรับมาแล้วจากเจ้าหน้าที่ แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าไปยื่นด้านในทำเนียบรัฐบาลได้ ซึ่งเห็นได้ว่าแม้ยังไม่มีพ.ร.บ. ดังกล่าว แต่การรวมกลุ่มแสดงความเห็นประชาชนยังถูกปิดกลั้นถึงเพียงนี้ หากพ.ร.บ. นี้ได้ออกมาใช้จะเกิดอะไรขึ้น” นางสุนทรี กล่าว

ด้านนางสาวปิยนุช โคตรสาร ผอ.แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า รัฐบาลต้องจะรับฟังปัญหาของประชาชน และทำงานร่วมกับภาคประชาสังคม ไม่ควรใช้กฏหมายมารังแกประชาชน และกล่าวถึงข้อเรียกร้องที่มายื่นหนังสือต่อนายกฯ ดังนี้

  1. ยกเลิกกระบวนการร่างและผลักดันพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ….โดยทันที
  2. เรียกร้องให้ทุกขั้นตอนในการร่างกฎหมายมีการสร้างระบบและพื้นที่รับฟังความคิดเห็น อย่างโปร่งใส เข้าถึงได้ และไม่เลือกปฏิบัติ รวมทั้งประเมินผลกระทบต่อสาธารณะและองค์กรประชาชนซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงอย่างแท้จริง
  3. ประกันว่าสิทธิในการสมาคมรวมทั้งการเข้าถึงทรัพยากร สิทธิในการดำเนินงาน ต้องสอดคล้องกับพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศของประเทศไทย และปราศจากการแทรกแซงที่ไม่ได้สัดส่วนของรัฐ เพื่อความเป็นอิสระและประสิทธิภาพในการสมาคม

นางสุนทรี กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หากมีการนำร่างกฎหมายควบคุมการรวมกลุ่มของประชาชนเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีก จะมีการรวมกลุ่มของเครือข่าย เพื่อออกมาคัดค้านร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวต่อไป

Related Posts

Send this to a friend