POLITICS

‘รังสิมันต์’ พร้อมตรวจสอบกรณีเจ้าภาพ NRM

‘รังสิมันต์’ พร้อมตรวจสอบกรณีเจ้าภาพ NRM ชี้ตำรวจไม่ควรพูดว่าอาจเป็นผู้กระทำผิด 70% ใครจะอยากกลับ ขอให้สาวถึงตัวการใหญ่คนไทยและต่างชาติ ทลายแก๊งคอลเซนเตอร์-ค้ามนุษย์

วันนี้ (24 พ.ย. 66) นายรังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่าตนเตรียมจะไปเยี่ยม ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า NRM ที่เขตหนองจอก หลังยังดูแลคนไทยราว 160 คนที่ช่วยเหลือมาจากเมืองเล้าก์ก่าย ประเทศเมียนมา ในช่วงบ่ายของวันนี้

นายรังสิมันต์ เผยว่า ตนจะเดินทางไปเยี่ยมและติดตาม พร้อมสอบถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องถึงคนที่ยังเหลืออยู่ในเมืองเล้าก์ก่าย จะได้รับการช่วยเหลือเมื่อไหร่ ซึ่งในวันนี้เข้าใจว่าจะมีอีก 24 คนที่เดินทางมาถึงประเทศไทยเพิ่มเติม เป็นกรณีที่ยังติดตามและให้ความสำคัญ เมื่อวานได้พยายามถามและได้รับคำยืนยันว่าคนที่เหลืออยู่จะไม่ถูกทอดทิ้งแน่นอน ในตอนนี้คือต้องช่วยกันนำคนไทยออกมาอย่างเร่งด่วน เพราะสถานการณ์ในเมียนมาค่อนข้างวิกฤติ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีศูนย์ NRM หนองจอก ยังไม่มีหน่วยงานใดเป็นเจ้าภาพ เพราะความไม่ชัดเจนของกฎหมาย หากเกิดในต่างจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบ แต่นี่เป็นครั้งแรกในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการปกครองรูปแบบพิเศษ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า กรณีนี้ตนจะรับไปตรวจสอบอีกครั้ง ขอไปถึงที่นั่นก่อน แล้วเดี๋ยวคงจะได้คุยว่ามีกระบวนการอะไรที่ยังติดขัดอยู่ ซึ่งในคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ ที่ตนเป็นประธานนั้น มีการตั้งคณะอนุกรรมมาธิการเกี่ยวกับเรื่องชายแดน เกี่ยวพันกับผู้ลี้ภัย โดยมีนายมานพ คีรีภูวดล เป็นประธาน อาจได้มอบหมายให้นายมานพ ติดตามดูแลเรื่องนี้ต่อ ช่วยกันหาทางแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนกลับมายังประเทศไทยอย่างปลอดภัยมากที่สุด

ส่วนกรณีการคุ้มครองเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์และการสืบสาวถึงต้นตอขบวนการค้ามนุษย์ ผู้นำพาที่เป็นคนไทยนั้น นายรังสิมันต์ ระบุว่า ตอนนี้ต้องให้ความสำคัญกับ 2 เรื่อง คือการนำคนไทยกลับมาให้ได้เพราะชีวิตสำคัญที่สุด และการขยายผลไปถึงคนที่อยู่เบื้องหลัง เป็นตัวการสำคัญ หากขยายผลจนสามารถทำลายโครงสร้างของบรรดาแก๊งค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งหลาย จะทำให้สังคมไทยปลอดภัยมากขึ้น และต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องที่เป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ หากให้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์กับเราได้ เชื่อว่าจะนำไปสู่การขยายผลที่สำคัญได้

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเคยแถลงว่าคนที่ช่วยมา สงสัยว่า 70% เป็นผู้กระทำความผิด นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า คำนี้ไม่ควรพูด ถ้าทำแบบนี้ใครจะอยากกลับมา ตนคิดว่า อย่าเพิ่งไปเริ่มต้นด้วยการบอกว่าใครจะเป็นอาชญากร ใครจะเป็นคนกระทำความผิด อะไรเลย

อย่างไรก็ตามโดยหลักการเราต้องสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และน่าเชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้น่าจะถูกหลอกลวงจากแก๊งค์ต่างๆ เท่าที่ทราบในช่วงโควิดเป็นเวลาที่ยากลำบากจริงๆ หลายคนไม่มีข้าวกิน ไม่มีเงินเลี้ยงครอบครัว เมื่อเจอโฆษณาในอินเตอร์เน็ตแล้วคิดว่าไม่มีอะไร ปรากฏว่ากลายเป็นแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ เป็นขบวนการค้ามนุษย์ไป เราควรจะต้องเข้าใจในเรื่องความเป็นมนุษย์ด้วยกันเช่นกัน อย่าเริ่มด้วยการตีตราใคร เราควรขยายผลไปสู่การจัดการตัวการสำคัญเหล่านี้ ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือคนไทยออกมาจากประเทศเมียนมาให้เร็วที่สุด

Related Posts

Send this to a friend