POLITICS

‘รมว.กลาโหม’ เรียกกองทัพเรือ ถกเรื่องซื้อเรือฟริเกต เตรียม บินจีนเจรจาอีกครั้ง

‘รมว.กลาโหม’ เรียกกองทัพเรือ ถกเรื่องซื้อเรือฟริเกต 14:00 น.นี้ เตรียม บินจีนเจรจาอีกครั้ง เชื่อคืบหน้าใน 1 เดือน ก่อนข้อตกลงหมดอายุ

วันนี้ (24 ต.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสัญญาจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน ที่อาจเปลี่ยนเป็นเรือฟริเกตแทน ว่า เรือฟริเกตของจีนราคาอยู่ที่ 14,000 ล้านบาท ส่วนราคา 17,000 ล้านบาทเป็นการตั้งราคาไว้ในงบประมาณปี 2567 ซึ่งเป็นการตั้งเผื่อไว้สำหรับเรือฟริเกตยุโรป และขณะนี้กองทัพอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเอาของชาติใด โดยจะมีการพูดคุยกันในช่วง 14.00 น. วันนี้ เนื่องจากมีการตั้งโครงการจัดซื้อเรือฟริเกตไว้อยู่แล้ว

ส่วนเรือฟริเกตจะมาแทนเรือดำน้ำที่เป็นสัญญาเดิมหรือไม่นั้น นายสุทิน กล่าวว่า เรากำลังจะไปต่อรองราคา หากจีนยินยอม ราคาอาจจะลดลงต่ำกว่า 14,000 ล้านบาท

ส่วนที่จีนผิดเงื่อนไขในสัญญาจะต้องขอการปรับอะไรหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า สัญญามี 2 แบบ หากทำกับเอกชนจะถือว่าผิดสัญญาซื้อขาย แต่สัญญานี้เป็นแบบรัฐต่อรัฐในรูปแบบข้อตกลง ซึ่งมีการเขียนแนบท้ายว่าหากฝ่ายใดไม่สามารถดำเนินการตามข้อตกลง ก็ให้มีการเจรจากันได้ เมื่อจีนไม่สามารถทำตามข้อตกลงได้ ก็ต้องมีการเจรจาเพื่อไม่ให้เราเสียผลประโยชน์ จะมีการเจรจาให้เราได้ประโยชน์ที่สุด

เมื่อถามว่าหากดูตามข้อกฎหมาย สามารถทำได้หรือไม่ที่จะเปลี่ยนจากเรือดำน้ำเป็นเรือฟริเกต นายสุทิน กล่าวว่า จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีแค่ข้อตกลง ไม่ใช่สัญญา แต่เป็นการทำข้อตกลงในระดับกองทัพ

ส่วนการแก้ข้อตกลงกับเริ่มโครงการใหม่ อะไรจะยากกว่ากัน นายสุทิน กล่าวว่า ก็ต้องมีการแก้ของเก่าให้เป็นของใหม่ ซึ่งเดิมตกลงเป็นเรือดำน้ำก็จะขอแก้เป็นเรือฟริเกต

สำหรับกรณีที่พรรคก้าวไกลเสนอว่าไทย ควรมีการขอเงินที่จ่ายไปแล้วคืน หรือแลกกับผลประโยชน์อื่น ๆ นั้น นายสุทิน ระบุว่า ขอลองเจรจาบนพื้นฐานข้อตกลงเดิมก่อน หากไม่บรรลุผล ค่อยว่ากันถึงตรงนั้น อย่างไรก็ตาม เรื่องข้อตกลงแบบรัฐต่อรัฐ มีมิติเรื่องความร่วมมือหลายด้าน หากจะยกเลิกไปเลยก็อาจกระทบความร่วมมือด้านอื่นและความสัมพันธ์ด้วย ต้องคิดให้คุ้ม ซึ่งการเดินทางไปเยือนจีนที่ผ่านมา เราได้รับความร่วมมือจากจีนมากมาย หากใครจะไปหากเรื่องใดเรื่องหนึ่งอาจทำให้เสียประโยชน์ด้านอื่นได้

เมื่อถามถึงการวางกรอบระยะเวลาในการเจรจาเรื่องนี้ นายสุทิน กล่าวว่า ในช่วง 14:00 น. วันนี้ ได้เชิญทางกองทัพเรือ และกลาโหมมาหารือ เพราะในเร็ว ๆ นี้จะเดินทางไปจีนอีกครั้ง ซึ่งในข้อตกลงจะหมดอายุในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ จึงจะต้องเร่งเจรจาให้เร็วที่สุด และต้องรอทางจีนด้วยว่าพร้อมเจรจาหรือไม่

“ยืนยันว่าการเปลี่ยนจากเรือดำน้ำเป็นเรือฟริเกตเป็นการเสนอโดยกองทัพเรือ เพราะกองทัพเรือรู้ดีว่าการนำเข้าเครื่องยนต์จากเยอรมันนั้นปิดประตูสนิทแล้ว จึงเสนอเปลี่ยนเป็นเรือฟริเกต ส่วนจะพอใจหรือไม่นั้น เรื่องนี้กองทัพเป็นผู้เสนอมาเอง และต้องสนองนโยบายรัฐบาล เชื่อว่าภายใน 1 เดือนจากนี้จะมีความคืบหน้าในเรื่องนี้ก่อนหมดอายุข้อตกลง” นายสุทิน กล่าว

Related Posts

Send this to a friend