POLITICS

‘โรม’ ชง 6 ข้อเสนอคลี่คลายปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

‘โรม’ ชง 6 ข้อเสนอคลี่คลายปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้กัมพูชาเป้าหมายชัดใช้ทุกวิธีดึงไทยขึ้นศาลโลก

วันนี้ (24 ก.ค. 68) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในที่ประชุม นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาแนวทางการรับมือความขัดแย้งระหว่างชายกัมพูชาที่นำไปสู่ภาวะการรบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศชาติและประชาชนชาวไทย

นายรังสิมันต์ กล่าวให้กำลังใจต่อประชาชนตามแนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบ และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้ที่สูญเสียทุกคน ขณะเดียวกันได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในแนวหน้าทั้งฝ่ายทหารหรือพลเรือนก็ตาม ในสถานการณ์แห่งความยากลำบากนี้ เราจำเป็นต้องรวมกันเป็นหนึ่งในการสนับสนุนและหาทางออกให้กับประเทศชาติให้ได้

อยากให้เข้าใจว่ากัมพูชาต้องการอะไรนี่คือโจทย์ที่สำคัญลำดับแรกโดยกัมพูชาต้องการพาประเทศไทยขึ้นสู่ศาลโลก ที่ผ่านมาได้พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อลากประเทศไทยขึ้นสู่ศาลโลกให้ได้โดยหนึ่งในวิธีการที่เชื่อ คือการมีเหตุรุนแรงระหว่าง 2 ประเทศ กัมพูชาไม่ต้องการใช้อาวุธเพื่อเอาชนะไทย แต่ต้องการใช้อาวุธเพื่อทำให้ไทยเป็นประเทศที่ก้าวร้าวและรังแกกัมพูชา นั่นคือความต้องการของรัฐบาลที่พนมเปญโดยสร้างภาพที่เลวร้ายให้กับประเทศไทยให้ได้

ที่ผ่านมาตนเองชื่นชมความอดทนอดกลั้นของทุกฝ่าย และพยายามหาทางออกโดยใช้กลไกทวิภาคี แต่ต้องยอมรับว่า ผู้นำระหว่างประเทศที่ไม่ได้ให้คุณค่าต่อชีวิตของมนุษย์ และพร้อมใช้วิธีการต่างๆ ในการยั่วยุและก้าวร้าว จนนำมาซึ่งการขัดกันทางอาวุธในวันนี้ นี่คือความโหดร้ายของผู้นำฝั่งกัมพูชาที่ไม่สนใจต่อชีวิตมนุษย์เลย และทำให้กลไกการแก้ไขความขัดแย้งอย่างสันติเกิดขึ้นได้ยากมากขึ้น

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่าในวันนี้ไทยมีความจำเป็นต้องตอบโต้ ฝเป็นสถานการณ์ที่ไทยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการตอบโต้ และการตอบโต้ตามที่ได้มีการวางแผนของฝ่ายความมั่นคงเพื่อนำไปสู่การปกป้องประเทศไทย และอำนาจอธิปไตย แต่ต้องคำนึงถึงชีวิตมนุษย์และชีวิตของประชาชนชาวไทยอีกด้วย เราไม่อยากให้สถานการณ์นี้เกิดขึ้นแต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องปกป้องประเทศชาติของเราอย่างเต็มที่

จึงอยากใช้โอกาสนี้ในการนำเสนอแนวทางซึ่งมี 6 ข้อ คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการคลี่คลายสถานการณ์ โดยประการแรก การตอบโต้ตนคิดว่าประเทศไทยนอกจากต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ที่ต่างประเทศมองเข้ามาในสถานการณ์ความขัดแย้งนี้ การตอบโต้มีความจำเป็น และเชื่อมั่นว่าด้วยอาวุธที่มีไทยไม่มีทางมุ่งหมายไปที่เป้าหมายซึ่งเป็นพลเรือน แต่มีเป้าหมายเพื่อทำให้ทางการกัมพูชาไม่สามารถใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่ ในการละเมิดกฏหมายระหว่าง การฆ่าผู้บริสุทธิ์ หรือดำเนินการที่ไม่ใช่ในทางการทหาร จึงต้องย้ำต่อไปว่าการตอบโต้ในระดับนี้อาจเป็นระดับที่มีความจำเป็นเพื่อทำให้ภาพรวมของสถานการณ์ ไทยจะต้องเป็นผู้ชนะ

ประการที่ 2 เรื่องของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การขัดกันทางอาวุธที่เกิดขึ้น จะนำมาซึ่งผลเสียและผลกระทบต่อผู้บริสุทธิ์ ซึ่งมีประชาชนกว่า 100,000 คนที่ได้รับผลกระทบไม่ใช่แค่ในจังหวัดสุรินทร์ แต่มีหลายอำเภอชายแดนที่ติดกับประเทศกัมพูชา ซึ่งประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับผลกระทบทั้งสิ้น จึงเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งว่าไทยจะดำเนินการอย่างไร ข้าราชการต้องมีบทบาทสนับสนุนการอพยพกลุ่มเปราะบาง ซึ่งแผนเรื่องการอพยพประชาชนถือเป็นเรื่องสำคัญ ปัญหาที่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วนจะทำอย่างไรให้ผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด องเร่งออกแผนการและทำอย่างมีประสิทธิภาพ

ประการที่ 3 ในเรื่องของการแจ้งเตือน ได้การสอบถามไปยัง กสทช.ติดตามเรื่อง Cell Boardcast จะมีความสามารถเพียงพอหรือไม่ในการแจ้งเตือนประชาชนเพื่อเตรียมความพร้อมในการอพยพรับมือสถานการณ์ ที่อาจจะคาดไม่ถึงและเปลี่ยนแปลงทุกนาที ตนคิดว่ายังไม่พร้อมและต้องเร่งให้พร้อมเพื่อให้ใช้เครื่องมือในสถานการณ์เช่นนี้ได้แล้ว ประชาชนตามแนวชายแดนสมควรได้รับการเตือนภัยและแจ้งเตือนอย่างมีประสิทธิภาพ

ประการที่ 4 การใช้กลไกระหว่างประเทศ การสู้รบกันครั้งนี้ทุกคนรู้ว่าไม่ว่าจะรุนแรงขนาดไหน ก็จะจบลงด้วยการเจรจา ซึ่งจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยได้เปรียบและให้ทั่วโลกสมควรที่จะเห็นว่าพฤติกรรมของกัมพูชาที่ยั่วยุและก่อความรุนแรงจะจัดการได้อย่างไร การดำเนินการให้ทูตทหาร และทูตระหว่างประเทศ รู้สถานการณ์แบบเรียลไทม์ มีความสำคัญอย่างมาก รวมถึงสามารถเชิญลงพื้นที่เพื่อให้รู้สถานการณ์จริงได้ เพื่อให้ประเทศต่างๆทั่วโลกรับรู้ถึงพฤติกรรมที่ก้าวร้าวของทางกัมพูชา

ประการที่ 5 การเผยแพร่ข้อมูลวันนี้เข้าใจดีว่าอยากนำเสนอข้อมูลอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ตามที่มีการรายงานว่าทางกัมพูชายิงอาวุธหนักเข้ามาฝั่งไทยตามจุดต่าง ๆ อาจมีด้านกลับหากกัมพูชามอนิเตอร์ว่าไทยมีการสื่ออย่างไรออกไป ก็จะจัดทัพใหม่เพื่อให้มีการโจมตีที่มีประสิทธิมากขึ้น ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อประชาชนคนไทย การสื่อสารที่รวดเร็วอาจไม่ใช่มุมมองที่ดี

ประการที่ 6 จากที่ทางกัมพูชาได้มีการตั้งกำลังในพื้นที่โบราณสถาณ เช่น บริเวณปราสาทพระวิหาร การทำเช่นนี้เพื่อใช้โบราณสถาณที่บางส่วนเป็นมรดกโลกเพื่อเป็นเกราะคุ้มกัน เมื่อไรก็ตามที่ไทยโจมตีและพลาดพลั้งเป็นเรื่องใหญ่ในเวทีโลก และจะใช้เรื่องนี้เพิ่มน้ำหนักเพื่อดึงประเทศไทยเข้าสู่ศาลโลกต่อไป

ทั้งหมดนี้ที่ได้นำเสนอหวังว่าจะเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา ต้องยอมรับว่าการนำเสนอยุตินี้ทำด้วยความยากลำบากข้อมูลหลายส่วนเป็นข้อมูลลับและละเอียดอ่อน ซึ่งถ้าหากนำเสนอไม่ดีก็อาจเกิดความเข้าใจผิดและเป็นการเติมน้ำมันในกองเพลิง ต้องยอมรับว่าพฤติกรรมยั่วยุและพฤติกรรมที่ก้าวร้าวของกัมพูชาเป็นสิ่งที่ต้องถูกประณาม แต่ต้องมองไม่เห็นถึงภาพใหญ่ว่าทางกัมพูชาต้องการอะไร สิ่งที่ผู้นำของกัมพูชาต้องการคือทำให้ไทยขึ้นสู่ศาลโลก ก็ถือว่าชนะแล้ว

Related Posts

Send this to a friend