‘ภูมิธรรม’ อัด ‘ก้าวไกล’ อย่าทำตัวเองให้ดูดี ให้รัฐบาลดูแย่ แต่ไม่ทำหน้าที่ หลังไม่รับตำแหน่งใน กมธ.งบ 68
‘ภูมิธรรม’ อัด ‘ก้าวไกล’ อย่าทำตัวเองให้ดูดี ให้รัฐบาลดูแย่ แต่ไม่ทำหน้าที่ หลังไม่รับตำแหน่งใน กมธ.งบปี 68 – ถาม เอาข้อกฎหมายใดยื่นศาลปกครอง มองไม่เข้าเงื่อนไข
วันนี้ (25 มิ.ย. 67) นายภูมิธรรม เวชชัยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกลไม่รับตำแหน่งในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ว่า ไม่เป็นไร มีการตรวจสอบข้างนอกอยู่แล้ว ตนเองไม่เห็นมีอะไรเลย อย่าทำให้ตัวเองดูดี จนกระทั่งไม่ทำหน้าที่ก็แล้วกัน ซึ่งตั้งแต่ที่พรรคก้าวไกลบอกว่าไม่ลงมติรับร่างงบ ปี 2568 และจะไปยื่นฟ้องศาลปกครอง มันไม่ใช่กระบวนการที่ควรจะทำ ในขณะที่ประเทศต้องการเงินงบประมาณเพื่อมาทำงาน การไปยื่นศาลปกครองก็ไม่รู้ว่าเอากฎหมายข้อไหนไปยื่น หรือว่าพูดให้รู้ว่าตัวเองตั้งใจจะตรวจสอบที่รัฐบาลแย่มาก แต่ศาลปกครองก็ไม่มีอำนาจที่จะรับ
นายภูมิธรรมกล่าวต่อไปว่า จริง ๆ เรื่องนี้ ก็ควรจะไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญในการวินิจฉัย แต่การจะไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญก็มี 2 ข้อคือ 1.เนื้อหาข้อกฎหมายใดข้อกฎหมายหนึ่งในนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญจึงจะไปยื่นได้ 2. หากจะไปยื่นก็ควรจะยื่นหลังจากที่ผ่านวาระ 3 ไปแล้ว และต้องให้วุฒิสมาชิก (สว.) พิจารณาอีก หากผ่านไปแล้วเมื่อถึงขั้นตอนจะนำขึ้นโปรดเกล้าคุณถึงมีสิทธิ์ที่จะไปยื่นได้ต้องอยู่ใน 2 เงื่อนไขนี้ ซึ่งตนเองดูทั้งหมดแล้วไม่มีอะไรที่ขัดรัฐธรรมนูญ โดยรัฐบาลพยายามดูอยู่ทำตามกฎหมายชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ทราบว่านี่เป็นการสร้างเงื่อนไข ให้รู้สึกว่ารัฐบาลแย่ แล้วทำให้ตัวเองดูดีหรือเปล่า แต่หากมีข้อกฎหมายที่ขัดรัฐธรรมนูญชัดเจนก็ว่ามา แต่ถึงอยู่หรือไม่อยู่เขาก็ตรวจสอบได้อยู่แล้ว
สำหรับกรณีที่พรรคก้าวไกลตั้งธงว่าเป็นห่วงเรื่องโครงการเติมเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า ยิ่งห่วงก็ยิ่งต้องเข้ามาเป็นคณะกรรมการฯ เรื่องนี้ก็เหมือนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เชิญเข้ามาร่วมก็ไม่เอา แต่ออกไปวิจารณ์อยู่ข้างนอก แล้วก็บอกว่าห่วง ซึ่งหากเป็นห่วงก็ขอให้เข้ามา จะได้เห็นและตรวจสอบให้ชัดเจน อันนี้เป็นตรรกะง่าย ๆ ตนเองไม่อยากให้พรรคก้าวไกลที่ทำงานเรื่องการสร้างประชาธิปไตย มองแต่ความต้องการของตนเองเพียงด้านเดียว ควรมองให้กว้าง ไม่ใช่ตั้งใจแต่ว่าตนเองต้องการอะไรเป็นหลัก โดยไม่สนใจอะไรเลย หากทำแบบพรรคก้าวไกล ก็ต้องกลับไปใช้รัฐธรรมนูญปี 2562 แบบเดิม หากหวังดีกับประชาธิปไตยและต้องการเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้เกิดเป็นประชาธิปไตยจริง ๆ หากยังดื้อดึงเอาแบบตนเอง สว.ก็ไม่ผ่าน ถ้าผ่านสว.เสียงของตนเอง 20% ก็ไม่ผ่าน เขามีอำนาจ 20% ในสภาอยู่แล้วของฝ่ายค้านล้มได้อยู่แล้ว ถ้าเขาล้มสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นประโยชน์กับใคร ต้องกลับไปใช้รัฐธรรมนูญเดิมแบบ 10 ปีที่ผ่านมา อยากให้คิดอะไรให้กว้าง ไม่อยากให้ใช้อารมณ์ หรือความต้องการของตนเองเป็นหลัก หากช่วยให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น บรรยากาศในประเทศจะดีขึ้น กรุงโรมไม่ได้สร้างในวันเดียวต้องใช้เวลา อยากให้ก้าวไกลเข้าใจปรัชญาในประเด็นนี้ด้วย












