POLITICS

‘รังสิมันต์’ ชี้ ตำแหน่ง ‘ประธานสภาฯ’ พรรคก้าวไกลต้องเอาไว้เอง

‘รังสิมันต์’ ชี้ ตำแหน่ง ‘ประธานสภาฯ’ พรรคก้าวไกลต้องเอาไว้เอง ยังไม่ได้เลือกใครเหมาะสม มองเฟคนิวส์โจมตีหวังลดแรงศรัทธาพรรค

วันนี้ (24 พ.ค. 66) เวลา 11.20 น. ที่พรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล และว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความเตือน ก้าวไกลอย่าเสียตำแหน่ง “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” เป็นอันขาดว่า อันที่จริงก็เหมือนกับที่นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า เรื่องของตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตำแหน่งที่พรรคก้าวไกล อยากรักษาประเพณีที่เคยทำกันมา ซึ่งในอดีตหากไม่นับรวมเมื่อปี 2562 จะพบว่า พรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งเป็นลำดับที่ 1 จะขอตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วย เพื่อผลักดันกฎหมายต่างๆ พรรคก้าวไกลยืนยันว่า ตำแหน่งดังกล่าว ทางพรรคก้าวไกลต้องขอเอาไว้เอง

เมื่อถามว่า มีพรรคการเมืองใดมาต่อรองตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้วหรือยัง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบ แต่เบื้องต้นพรรคก้าวไกลได้ประกาศมาหลายครั้ง และยืนยันในเรื่องนี้มาโดยตลอด

เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับพรรคเพื่อไทยในประเด็นนี้หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องถามนายชัยธวัช เพราะเป็นผู้ดูแลการเจรจาในพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งจะตอบคำถามได้ดีที่สุด

เมื่อถามว่า นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งประธานสภาหรือไม่ นายรังสิมันต์ เผยว่า ในรายละเอียดทางพรรคก้าวไกล ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันว่าใครเหมาะจะเป็นแคนดิเดตในตำแหน่งประธานสภาฯ ซึ่งคิดว่าพรรคก้าวไกลยังมีเวลาคุยว่าจะมีใครที่มีความเหมาะสม

เมื่อถามถึงจำนวน ส.ว. ที่ยกมือโหวต นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีอาจยังไม่เพียงพอ จะมีการดำเนินการอย่างไร นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบยังเห็นว่ามีอีกหลายคนที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะลงมติไปในทิศทางไหน เข้าใจว่าคงจะรอดูก่อน ซึ่งตนคิดว่ายังมีเวลาที่จะเจรจาพูดคุย เพื่อจะนำไปสู่การปลดล็อค ม.272 ซึ่ง ม.272 อนุญาตให้ ส.ว. สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งตนมองว่ามาตราดังกล่าวอยู่ในบทเฉพาะกาล เป็นกฎหมายชั่วคราวที่ปีหน้าก็หมดแล้ว ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องรอให้หมดตามรัฐธรรมนูญ ทำไมถึงไม่ช่วยกัน ปิดสวิตซ์ ม.272 เสียตั้งแต่ตอนนี้

เมื่อถามว่ามี ส.ว. หลายคน ยังมองว่า ม.112 ยังเป็นเงื่อนไขอยู่ แม้ไม่มีใน MOU ก็ตาม แต่นายพิธา ยังแถลงว่าพรรคจะเสนอเข้าในสภา อาจเป็นเงื่อนไขที่ไม่ยกมือให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องไปดูจริงๆ ว่าเงื่อนไขเป็นเพราะมาตรา 112 หรือไม่ หากยังมีการตั้งคำถามไปเรื่อยๆ เกี่ยวกับมาตรา 112 ก็ต้องกลับไปดูว่าจริงๆแล้วอาจจะไม่เกี่ยวกับมาตรา 112 แต่อาจเป็นการที่จะไม่โหวตให้พรรคก้าวไกลไม่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่ของ ส.ว.

เมื่อถามถึง กรณีค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท ที่อาจไม่สามารถปรับขึ้นได้ทันทีตามที่หาเสียงไว้ นายรังสิมันต์ เผยว่า วันนี้ยังไม่มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ ตนคิดว่านายพิธา ได้อธิบายอย่างชัดเจนแล้ว ว่าสิ่งที่พรรคก้าวไกลจะดำเนินการในเรื่องค่าแรงขั้นต่ำจะเป็นอย่างไร

ส่วนหลังจากนี้จะต้องมีการปรับแนวทางการสื่อสารอย่างไร เนื่องจากมีกระแสโจมตีอยู่ต่อเนื่อง นายรังสิมันต์ ระบุว่า คงต้องปรับตลอดเวลา เพราะประชาชนคาดหวังต่อเราสูง และช่วงที่ยังไม่มีการเลือกนายกรัฐมนตรีก็คงมีการสร้างเรื่องราวต่างๆให้คนเข้าใจผิด ซึ่งสุดท้ายก็มองว่าเป็นเรื่องจุดประสงค์ทางการเมือง เพราะอาจจะทำให้แรงที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลเสื่อมลงมาและไม่สนับสนุนพรรคก้าวไกล ดังนั้นเมื่อโดนโจมตีก็จะต้องสร้างความเข้าใจ และย้ำว่า พรรคก้าวไกลจะเป็นรัฐบาลที่แม้กระทั่งคนที่ไม่ชอบเราเราก็จะเป็นรัฐบาลให้กับเขา และคนที่รักเราเราก็จะเป็นรัฐบาลให้กับเขา เราจะเป็นรัฐบาลให้กับทุกคน

สำหรับช่วงบ่ายวันนี้ พรรคก้าวไกลจะมีการประชุมหลากหลายวง แต่ยังไม่มีการประชุมรวม ช่วงนี้ต้องกระจายกันทำงานเพื่อผลักดันให้บรรลุเป้าหมายการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ จึงต้องเตรียมการหลายด้าน แต่ไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดได้

Related Posts

Send this to a friend