‘มงคลกิตติ์’ ยัน สันนิษฐานคดีแตงโมเป็น ‘ฆาตกรรม’ พร้อมประกาศยุติบทบาท

‘เต้ มงคลกิตติ์’ ยังยืนยันสันนิษฐานคดีแตงโมเป็น ‘ฆาตกรรม’ พร้อมประกาศยุติบทบาท หลังให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ครบแล้ว

วันนี้ (24 มี.ค. 65) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือเต้ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ เปิดเผยว่า หลังจากให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในกรณีการเสียชีวิตของดาราสาวแตงโม-ภัทรธิดา หรือนิดา พัชรวีระพงษ์ ที่พลัดตกเรือสปีดโบ๊ท จมลงในแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขต อ.เมืองนนทบุรี โดยตนเองได้ช่วยรวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง พร้อมทั้งได้ชี้แจงพยานกล้องวงจรปิดให้กับพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว รวมทั้งข้อสังเกตในการยืนยันคลิปวงจรปิดตรงข้ามวัดเขมาภิรตาราม ก็ยืนยันว่ามีลักษณะคล้ายขอนไม้กับมีบางสิ่งบางอย่างอยู่ด้วย สอดคล้องกับเวลาที่สปีดโบ๊ทออกไป และตรงนั้นห่างจากจุดพบศพประมาณ 100 เมตร หากไปดูในรายละเอียดก็จะทราบ จึงเป็นข้อสันนิษฐานให้พนักงานสอบสวนได้นำไปติดตามตรวจสอบต่อไป

และขอย้ำว่าจากคลิปบริเวณหน้าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตยืนยันว่าไม่มีคนตกน้ำเพราะไม่มีลักษณะของเงาที่หายไป แสดงว่าไม่มีคนเกาะขาและปัสสาวะอยู่ และยังคงสันนิษฐานว่าเป็นคดีฆาตกรรม โดยวิเคราะห์จากบาดแผล และพฤติกรรมของคนบนเรือ ทั้งระหว่างตก หลังตก และจากผลตรวจสอบแอลกอฮอล์ ซึ่งตนไม่เชื่อว่าคนบนเรือ จะมีแตงโมเมาอยู่แค่คนเดียว

ทั้งนี้ในฐานะพลเมืองดีได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ และได้จบภารกิจในส่วนนี้แล้ว จากนี้ไปถือเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ที่จะต้องดำเนินการ แต่ในอนาคตหากได้ข้อมูลเพิ่มก็จะนำมามอบให้อีก ดังนั้นถือว่าเป็นการจบภารกิจในการช่วยหาข้อมูลหลักฐานมาตลอด 1 เดือน และจะขอยุติบทบาท

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผมโดยตรง แต่เหตุเกิดตรงบริเวณสะพานพระราม 7 ซึ่งผมอยู่มาตั้งแต่เด็ก เราไม่ทิ้งกัน แต่อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ และทนายกฤษณะก็จะทำหน้าที่ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคต่อไป ตลอด 1 เดือนเต็มที่ผ่านมา เราก็เหนื่อยนะ นอนน้อย ทีมงานก็นอนน้อย ขอพักก่อน” นายมงคลกิตติ์ กล่าว

นายมงคลเกิตติ์ กล่าวว่าสัปดาห์หน้าพรรคไทยศรีวิไลย์จะเปิดศูนย์ประสานงานรับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชนทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัดในฐานะพรรคการเมืองทำงานเพื่อประชาชน ดังนั้นกรณีที่เกิดขึ้น ใครจะกล่าวหาว่าเป็นการหาเสียงก็ยอมรับว่าเป็นบทบาทของพรรค

สำหรับกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กรุงเทพฯ ไปแจ้งความดำเนินคดีนั้น นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า รู้สึกท้อว่าเป็นการทำงานเพื่อประชาชน ซึ่งการหาข้อมูลหลักฐานก็ไม่ได้มีเจตนาไปกล่าวให้ร้ายใคร ไม่เคยคิดจะใส่ร้ายลุงนิด และต้องขอโทษลุงนิดที่ทำให้ประชาชนบางส่วนเข้าใจผิด ยืนยันไม่มีเจตนาไปมีปัญหากับลุงนิด ซึ่งเป็นประชาชนตัวเล็กๆ และจนถึงขณะนี้ก็ไม่แน่ใจว่าภาพในกล้องวงจรปิดที่เห็นเป็นลุงนิดหรือไม่ และเชื่อว่าถ้าหันไปเห็นคนตกน้ำก็น่าจะมีการเข้าไปช่วยเหลือ และยืนยันว่าไม่ได้แทรกแซงคดีแตงโมเป็นเพียงพยาน และไม่กังวลว่าจะถูกยื่นถอดถอน การทําผิดจริยธรรมเพราะยังมั่นใจในการกระทำของตัวเอง

ส่วนที่นายวินิต ตรีปัญญา หรือลุงนิด อายุ 53 ปี คนหาปลาที่ปรากฏในคลิปอยากให้นายมงคลกิตติ์ขอโทษนั้น นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่าขอไปต่างจังหวัดก่อนและขอพักสักนิดนึงแล้วจะไปหาลุงนิดที่บ้าน แล้วจะไป ขอโทษที่บ้านลุงนิดเลยแล้วจะไปช่วยตกปลา พร้อมยืนยันว่าไม่มีผู้ใหญ่ในสภาคนใดมากดดัน

ส่วนจะกลับมาช่วยทำคดีนี้ต่อเมื่อไหร่นั้น นายมงคลกิตติ์กล่าวว่าจะกลับมาต่อเมื่อมีเสียงประชาชนให้การสนับสนุนโดยมีเสียงประชาชนเรียกร้องและสนับสนุนใน Facebook ไม่น้อยกว่า 1 แสนคน