POLITICS

‘นายกฯ’ นั่งหัวโต๊ะประชุมติดตามเจรจาแก้หนี้นอกระบบ

เผย ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นเรื่องใหญ่ รัฐบาลนี้ต้องทำให้สำเร็จ สั่งกำชับ ‘มหาดไทย’ ดูแลเป็นพิเศษ ชี้ บ้านเมืองมีขื่อมีแปรัฐบาลพร้อมช่วยเหลือ ให้ความเป็นธรรม

วันนี้ (23 ธ.ค. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะ เดินทางถึงศาลากลางจังหวัดน่าน เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามการเจรจาแก้หนี้นอกระบบในพื้นที่จังหวัดน่าน โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (สส.) จังหวัดน่าน เขต 1 ในฐานะเจ้าของพื้นที่, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การมาจังหวัดน่านเป็นจังหวัดแรก เพราะเป็นจังหวัดที่เราวางไว้ว่าจะแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบทั้งหมด ซึ่งวันนี้เราได้ประกาศไปว่าเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาลนี้ ซึ่งปัญหานี้ไม่ใช่พวกท่านปล่อยปะละเลย แต่เป็นปัญหาที่กัดกร่อนสังคมไทยมาอย่างยาวนาน และพวกท่านก็พยายามที่จะแก้ปัญหากันมาบนพื้นฐานที่สามารถทำกันได้ แต่วันนี้ผมเชื่อว่าเป็นนิมิตหมายอันดี ที่คณะผม และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่กันมา เพราะเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ถ้าเกิดปัญหานี้ไม่ถูกแก้ไข จะถือว่าเรื่องนี้เป็นสารตั้งต้นของปัญหาต่าง ๆ ในสังคมไทย ทั้งปัญหาสังคม ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความไม่ปลอดภัยของประชาชนทุกคน

“จังหวัดน่านเป็นจังหวัดที่เล็กแต่เล็กพอที่จะดูแลได้ และมีหน่วยงานครบทุกหน่วยงานที่เราคิดว่ามาร่วมกันพัฒนา และทำงานตรงนี้ได้ ซึ่งหนี้นอกระบบเป็นปัญหาทุกข์ใจของประชาชน และเป็นปัญหาที่ไม่ใช่ความผิด หากเรียนตรงๆ มันไม่ใช่ปัญหาที่เกิดมาจากการพนัน หรือการไปซื้อยาเสพติด แต่เป็นปัญหาเศรษฐกิจที่เรารู้กันดีอยู่ว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา มันเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งเกิดจากการที่ถูกเรียกหนี้ไม่เป็นธรรม ถูกชาร์จดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรม และไม่ได้รับการดูแลจากหน่วยงานรัฐที่ควรจะต้องดูแล” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า แต่วันนี้ที่เรามาไม่ขอพูดเรื่องเก่า เราพูดถึงเรื่องใหม่ดีกว่าว่าจากนี้ต่อไปจะเดินต่อไปอย่างไร ทั้งนี้ ที่จังหวัดน่านมีคนมาแจ้งแล้ว 500 กว่าราย และมีมูลหนี้ประมาณ 33 ล้านบาท ตนเองอยากให้หน่วยงานความมั่นคง ซึ่งสามารถนั่งหัวโต๊ะ และเรียกเจ้าหนี้ ลูกหนี้มาให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย โดยเอากฎหมายเป็นที่ตั้ง ซึ่งหากเราสามารถทำกันได้ และผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ตนเองคิดว่าสิ่งดี ๆ จะเกิดขึ้น กับชีวิตของประชาชน พวกเรานั่งอยู่ตรงนี้เราคือผู้รับใช้ประชาชน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐบาลนี้ กำหนดว่าเป็นเรื่องที่เราต้องทำให้สำเร็จ ซึ่งเรามาที่จังหวัดน่านก็เป็นแพลตฟอร์มที่ให้เดินต่อไป และขอให้กระทรวงมหาดไทยกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานที่ดูในเรื่องพื้นที่ ว่าให้ดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะตนเองเชื่อว่าปัญหายาเสพติด ปัญหาพนันออนไลน์ ปล้นจี้ จะได้รับการแก้ไขเชื่อมโยงไปด้วย และขอฝากความหวังกับพวกท่านทุกคน อยากให้คืนรอยยิ้มให้กับประชาชนคนไทยทุกคน

ทั้งนี้ ในช่วงหนึ่งของการประชุมนายกรัฐมนตรี ได้ท้วงติงว่า ตัวเลขจำนวนลูกหนี้ที่มีแจ้งมากว่า 500 กว่ารายถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่มีการเจรจาไกล่เกลี่ย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือมีผู้มาแจ้ง 500 กว่าคน แต่การนำเข้ามาสู่ระบบถือว่าน้อยมากมีเพียง 100 กว่ารายเท่านั้น ฉะนั้นผมเสนอให้ใช้กลไกของกำนัน และผู้ใหญ่บ้านลงพื้นที่ไปดูติดตาม รวมถึงฝากอธิบดีกรมการปกครองด้วยก็แล้วกัน ถ้าเขาคุณสมบัติไม่ครบตัดออกไปปัญหาก็จะไม่ได้รับการแก้ไข ผมไม่ได้ดูตัวเลข 500 กว่ารายที่แจ้งมา แต่ตนดูตัวเลข 100 กว่ารายที่เข้าสู่ระบบการเจรจา และหากเป็นไปได้อาจจะจัดตลาดนัดแก้หนี้ ที่ศาลากลางจังหวัด จัดเป็นอีเวนท์ทุกวันที่ 15 หรือวันเสาร์และอาทิตย์ เป็นต้น เพื่อให้ฝ่ายเจ้าหนี้และลูกหนี้ได้มาพูดคุยกัน รวมถึงธนาคาร ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี

“หากนำลูกหนี้และเจ้าหนี้เข้าสู่การเจรจาได้ 300 ถึง 400 ราย จะถือเป็นตัวเลขที่เรียกความมั่นใจได้ดีกว่า ซึ่งมันประหลาด หากเขาเดือดร้อนแต่ข้อมูลไม่ครบ ซึ่งอาจจะขาดข้อมูลนิดเดียว แต่ตัดเขาออกไป และไม่ยอมเรียกมา จึงฝากให้อธิบดีกรมการปกครองให้ดูเรื่องนี้หน่อย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ต่อมานายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ว่าข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทยมีความชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นขอให้กำนันผู้ใหญ่บ้านและอำเภอจัดทีมออกไปออกไปสำรวจเพราะอาจจะมีประชาชนที่ไม่กล้าลงทะเบียนเพราะกลัวถูกข่มขู่ ดังนั้นเราก็จะต้องกระตุ้นลงพื้นที่ไปตามที่นายกฯสั่งการ เดี๋ยวจะหาว่าต้องมานั่งฟังนายกฯชี้นำเพราะกระทรวงมหาดไทยมีข้อสั่งการในเรื่องนี้อยู่แล้ว และเจ้าที่ทุกคนก็ต้องปฏิบัติตามข้อสั่งการของกระทรวงที่มีลำดับลำดับอยู่แล้ว

ต่อมา นายกรัฐมนตรีได้ร่วมรับฟังการแก้ปัญหาหนี้ระหว่างประชาชน (ลูกหนี้) กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยก่อนที่จะรับฟังปัญหา นายเศรษฐา กล่าวว่า ผมเข้าใจว่าที่ผ่านมาบ้านเมืองพบกับปัญหาเศรษฐกิจ โควิด-19 ซึ่งอาจจะทำให้หลายคนต้องไปพึ่งพาหนี้นอกระบบ วันนี้จึงมาพูดคุยพร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจะมาแก้ไขปัญหาขอยืนยันว่าบ้านเมืองมีขื่อมีแป รัฐบาลพร้อมจะให้การช่วยเหลือ

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat