POLITICS

ทภ.1 ยัน กัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทยที่ บ.หนองหญ้าแก้ว

กองทัพภาคที่ 1 ยืนยันกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทยที่ ‘บ้านหนองหญ้าแก้ว’ พบกำลังทหารและตั้งหมู่บ้านในดินแดนไทย ต้องผลักดันและทำรั้วลวดหนามป้องกันภัย และกัมพูชายังละเมิดข้อตกลงหยุดยิงด้วย

วันนี้ (23 ส.ค. 68) The Reporters ลงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นอีกจุดที่พบกัมพูชา มาตั้งหมู่บ้านและฐานทหารรุกล้ำอธิปไตยของไทย ทำให้กองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่ 1 ต้องปฏิบัติการในการผลักดันออกจากพื้นที่ของไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 และทำรั้วลวดหนาม เพื่อเป็นแนวป้องกันภัย

พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 12 กองกำล้งบูรพา กองทัพภาคที่ 1 เปิดเผยว่า ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว เป็นอีกจุดหนึ่งที่ กองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่ 1 ตั้งใจนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว IOT Thailand มาลงพื้นที่ เพราะกัมพูชาละเมิดอธิปไตยของไทย มีการสร้างบ้านเรือนและฐานทหาร รุกล้ำเข้ามาในเขตไทย ละเมิดข้อตกลง MOU43 เหมือนที่บ้านหนองจาน และกัมพูชายัง ละเมิดข้อตกลงยุดยิง GBC เมื่อวันที่ 7 ส.ค.68 โดยเฉพาะในข้อ 4 และข้อ 9 ที่กระทำการยั่วยุ โดยให้ประชาชนทั้งคนพิการและเด็กมาสร้างข่าวเท็จว่าไม่ได้กลับบ้านและไม่ได้ไปโรงเรียน รวมถึงอ้างว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยของกัมพูชา ทั้งๆที่พื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย

พ.อ.ชัยณรงค์ เปิดเผยว่า แนวรั้วลวดหนามที่ไทยทำขึ้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งฝั่งตรงข้ามเป็นบ้าน เปรยจัน อ.โอวจะโลว จ.บันเตียเมียนเจย ตั้งอยู่ห่างเส้นเขตแดนประมาณ 150 เมตร ซึ่งรั้วลวดหนาว ไม่ได้เป็นแนวเขตแดน แต่ไทยจำเป็นต้องทำขึ้นเพื่อวางกำลังแนวป้องกันภัย ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้อยู่ในเป็นอธิปไตยของไทย ตั้งอยู่ระหว่างหลักเขตแดนไทย-กัมพูชา หลักเขตที่ 42 และ 43 ซึ่งหลักเขต 42 ยังตกลงกันไม่ได้ จึงเกิดแนวพื้นที่อ้างสิทธิ์ และต้องเจรจาปักปันเขตแดนตามข้อตกลง MOU43 เหมือนที่บ้านหนองจาน และพบว่าตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา กัมพูชาได้รุกล้ำดินแดนไทย มีการมาสร้างบ้านเรือน หมู่บ้าน มากกว่า 20 ครัวเรือน และยังมีการตั้งฐานทหาร เข้ามาในเขตไทย เป็นสิ่งที่ไทยไม่สามารถยินยอมได้ จึงทำการผลักดัน เมื่อวันที่ 26 ก.ค. โดยมีบ้านที่ผลักดันไป 3 ครัวเรือน และได้พื้นที่คืนรวมพื้นที่เพาะปลูก ประมาณ 100 ไร่

“จุดนี้มีการรุกล้ำทั้งสร้างบ้านและมีฐานทหารเหมือนที่บ้านหนองจาน ซึ่งเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของไทยชัดเจน เราจึงต้องผลักดัน และตรงนี้มีดราม่าที่กัมพูชาเอาคนพิการนั่งรถวีลแชร์ หาว่าเข้าบ้านไม่ได้ เอาเด็กนักเรียนมาตะโกนว่ามาโรงเรียนไม่ได้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เพราะไม่มีจุดผ่านแดนที่เข้ามาไทยได้ และจุดนี้ที่กัมพูชานำล็อบบี้ยิสต์ชาวต่างชาติมาไลฟ์สด ทำให้ไทยต้องนำสแลนมีปิดกั้นไว้ เพื่อไม่ให้เกิดการยั่วยุ ซึ่งการกระทำตรงนี้กัมพูชาได้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงชัดเจน”

พ.อ.ชัยณรงค์ กล่าวว่า ไทยจำเป็นต้องรักษาอธิปไตย ผลักดันทหาร และบ้านที่รุกล้ำในพื้นที่ไทย ซึ่งรื้อถอนแต่เพียงฐานทหาร ไม่ได้รื้อถอนบ้านเรือนประชาชน และรั้วลวดหนาวก็ตั้งอยู่ในพื้นที่ของไทย ในขณะที่กัมพูชาได้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง GBC ในข้อ 4 และ ข้อ 9 ทั้งการยั่วยุและกล่าวเท็จว่าพื้นที่บริเวณน้ันเป็นของกัมพูชา และที่ผ่านมาไทยปฏิบัติตาม MOU43 แต่กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดมาโดยตลอด ซึ่งกองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่ 1 ได้ประท้วงมาโดยตลอดเช่นกัน

รายงาน: ฐปณีย์ เอียดศรีไชย

Related Posts

Send this to a friend