POLITICS

‘จุลพันธ์’ ยัน รัฐบาลไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส.ทำดิจิทัลวอลเล็ต ใช้กลไกงบประมาณ

‘จุลพันธ์’ ยัน รัฐบาลไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ทำดิจิทัลวอลเล็ต แต่เป็นการใช้กลไกงบประมาณ มั่นใจไม่ทำให้ขาดสภาพคล่อง หลัง สหภาพแรงงานถามที่กระทรวงการคลัง เผย คุยกันเข้าใจ เผย พัฒนา ซุปเปอร์แอปฯ ใช้งบไม่ถึงพันล้าน มองเป๋าตังค์ยังเป็นตัวเลือกอยู่

วันนี้ (23 เม.ย. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสหภาพธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ เข้าพบที่กระทรวงการคลังเมื่อวานนี้ (22 เม.ย.) เพื่อขอให้ชี้แจงกรณี ที่จะนำเงินของ ธ.ก.ส. ไปใช้ในโครงการดิจิทัล วอลเล็ตใน 5 ประเด็น ว่า เมื่อวานได้นั่งพูดคุยกัน และชี้แจงเรียบร้อยดี และก็เข้าใจตรงกัน ยืนยันว่าไม่มีปัญหา ซึ่งพวกเขาก็ต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฏหมาย โดยทางคณะกรรมการฯ และกระทรวงการคลังก็ได้ตรวจสอบทุกอย่างเรียบร้อยแล้วยืนยันว่า ทุกอย่างถูกต้อง รัฐบาลต้องการความมั่นใจ ว่ามีขั้นตอนทางกฏหมายอะไรที่รัฐบาลต้องทำ เช่น ส่งให้ทางสำนักคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบ ซึ่งก็ต้องทำ

ส่วนได้กำหนดระยะเวลาให้ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะทุกอย่างมีระยะเวลาของมัน ตนเองยืนยันว่าไม่มีความกังวล เพราะรัฐบาลมั่นใจ ว่าทุกอย่างทำตามกรอบกฏหมายชัดเจน

นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า 5 ข้อสงสัยของสหภาพแรง งาน ธ.ก.ส. สามารถชี้แจงได้หมด รวมถึงแหล่งที่มาของเงิน ส่วนเรื่องของสภาพคล่องไม่น่าเป็นห่วง เพราะธ.ก.ส. สามารถบริหารจัดการได้ โดยกลไกปกติผ่านการบริหารจัดการของธนาคาร ส่วนการชำระเงินคืนก็เป็นไปตามกลไกของงบประมาณ ที่รัฐบาลจะต้องมีกลไกในการชำระคืน ตามมาตรา 28 ให้กับ ธ.ก.ส. ในแต่ละปี โดยส่วนตัวไม่กลัวว่าจะเกิดแรงกระเพื่อม เพราะเมื่อวานได้พูดคุยกันเป็นไปอย่างเรียบร้อยดี และเข้าใจตรงกัน

ส่วนขณะนี้ รัฐบาลเป็นหนี้ ธ.ก.ส. อยู่ประมาณประมาณเท่าไหร่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ประมาณ 8 – 9 แสนล้านบาท และครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการกู้เงินของธนาคาร ธ.ก.ส. มาทำนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต แต่เป็นการใช้กลไกผ่านงบประมาณ และมาตรการการเงินการคลัง เพราะรัฐบาลกู้เงินธ.ก.ส. ไม่ได้

นายจุลพันธ์ ระบุว่า ตนเองยืนยันไปทางสหภาพแรงงาน ธ.ก.ส. ไปใน 3 ประเด็น คือ กลไกทั้งหมดต้องเป็นไปตามกฏหมาย และเสถียรภาพของธนาคาร ธ.ก.ส. จะต้องแข็งแกร่ง พอรัฐบาลจะ มีนโยบายที่จะเพิ่มในเรื่องความแข็งแกร่งให้กับ ธ.ก.ส. และที่สำคัญรัฐบาลถือหุ้น 100% ไม่มีทางที่จะรัฐบาลจะปล่อยให้กลไกนี้สั่นไหว ขณะที่ปีนี้เป็นปีที่สำคัญในการช่วยเหลือเกษตรกร รัฐบาลมีความจำเป็นที่ต้องใช้มาตรการตามมาตรา 28 ซึ่งทุกรัฐบาลก็ทำมากันตลอด ไม่ขัดต่อข้อตกลงระหว่างประเทศ และสุดท้ายจะต้องไม่กระทบต่อสวัสดิการและสวัสดิภาพของพนักงานธ.ก.ส.

ส่วนเกษตรกรจะสงสัยว่าทำไมถึงไม่ให้ใช้เงินในโครงการไปชำระหนี้เลย นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า ใช้ชำระหนี้ไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งที่รัฐบาลยืนยันมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ว่าต้องการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ หากนำเงินไปใช้หนี้คืนให้กับ ธ.ก.ส. เป็นต้น ก็หมายความว่าเงินดังกล่าวจะกลับเข้ารัฐ ไม่เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเศรษฐกิจ

นายจุลพันธ์ กล่าวถึงระบบบล็อกเชน ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าจะเข้ากับแอพพลิเคชั่นของรัฐได้อย่างไร เพราะไม่ได้เอื้อต่อธุรกรรมทางการเงิน ว่า กำลังพัฒนา และดำเนินการอยู่ส่วนเรื่องแอพฯทางรัฐ ก็ได้มีการพูดคุยมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในแอพพลิเคชั่นที่คาดหวังว่า จะสามารถอัพเกรดเป็นซุปเปอร์แอพฯ ซึ่งเป็นเรื่องของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล จะเป็นผู้รับผิดชอบ และดำเนินการพัฒนาระบบเพื่อให้เชื่อมโยงความเป็นรัฐทั้งหมดเข้ามาอยู่ในแอพเดียวกัน เพื่อไปเป็นจุดเชื่อมในอนาคต เช่น ลูกค้าของธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นธนาคารของอะไร จะสามารถมาเชื่อมกับระบบของรัฐ และสามารถเข้าสู่ระบบดิจิทัล วอลเล็ตได้ ยืนยันว่า การไปพัฒนาเรื่องนี้นั้นใช้งบประมาณไม่เยอะ ไม่ถึงพันล้านบาท และจะสามารถใช้ทันในไตรมาสที่4 ส่วนแอพเป๋าตังก็ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือก ที่รัฐบาลก็กำลังดูอยู่

Related Posts

Send this to a friend