พล.อ.ประวิตร ยืนยัน ไม่มีรัฐประหารอีกหากประเทศสงบสามัคคี

‘มายด์ ภัทรสารลี’ สัมภาษณ์ ‘ประวิตร’ เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ – การป้องกันรัฐประหาร ด้านประวิตร ยืนยัน ไม่มีรัฐประหารอีก หากประเทศสงบสามัคคี

วันนี้ (23 มี.ค. 66) ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ บรรยากาศงานเปิดตัว พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ในทุกภาค กว่า 70 คน โดยในงานมี น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล แกนนำกลุ่มคณะราษฎร 2563 เดินทางมาในฐานะสื่อมวลชน รวมทั้งเข้าสัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในประเด็นการเมือง และถ่ายรูปร่วมกัน

น.ส.ภัสราวลี ถาม พล.อ.ประวิตร ว่า พรรคพลังประชารัฐเน้นย้ำเรื่องการก้าวข้ามความขัดแย้ง ซึ่งเรื่องการนิรโทษกรรมทางการเมือง จะเป็นหนึ่งในนโยบายด้วยหรือไม่พล.อ.ประวิตร ตอบว่า นโยบายการเมืองเป็นเรื่องของการหาเสียง และเป็นการที่ทำให้ประชาชนเลือกพรรคใดพรรคนึง ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เรื่องก้าวข้ามความขัดแย้งเป็นความคิดของตน ว่าจะทำอย่างไรให้คนไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน และทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ส่วนเรื่องการเมือง ใครจะคิดอย่างไรก็ว่ากันไปเพราะเป็นเรื่องของการเมืองแต่จะมุ่งเน้นเรื่องทำให้คนไทยรัก และสามัคคีกัน

น.ส.ภัสราวลี ถามต่อว่า เรื่องของรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ที่มีข้อถกเถียงกันอย่างมากในสังคม พรรคพลังประชารัฐมีแนวทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ตนยังไม่มีความคิดที่จะแก้ ขอให้เป็นเรื่องของรัฐสภา ให้บุคคลที่อยู่ในรัฐสภาเป็นผู้จัดการ และมองว่าให้เป็นเรื่องหลังจากการเลือกตั้ง

น.ส.ภัสราวลี ถามอีกว่ามีแนวทางในการป้องกันการทำรัฐประหารอย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า การรัฐประหารจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว ถ้าประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มีความขัดแย้งจะไม่มีการรัฐประหารอีก จะมีอีกถ้าหากประเทศชาติไม่สงบ บ้านเมืองลุกเป็นไฟก็ต้องจำเป็น

น.ส.ภัสราวลี ถามต่อว่าหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะมีการรัฐประหารอีกหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่มี ถ้าคนไทยเป็นหนึ่งเดียว ผมรับรองจะไม่มีการรัฐประหารเกิดขึ้น ถ้าบ้านเมืองสงบ ไม่มีแล้ว”

น.ส.ภัสราวลี กล่าวภายหลังจากสัมภาษณ์พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ภาพรวมวันนี้ถือว่าไปในทางที่ดี พล.อ.ประวิตรได้ถามตนว่า “หนูจะมาทำอะไรหรือ วันนี้จะมาชู 3 นิ้วหรือไม่” ซึ่งตนก็ได้ชี้แจงว่าวันนี้ตนเองมาในฐานะสื่อมวลชน รวมทั้งรู้สึกว่าโอเคที่พรรคพลังประชารัฐไม่ได้ปิดกั้นสื่อ ที่เสนอในแนวทางแบบประชาธิปไตย ที่เราไม่ได้สนับสนุนพรรคไหนเป็นพิเศษ และวิจารณ์ทุกพรรค

ส่วนบรรยากาศในพรรคที่ตนเองเดินเข้ามาดูเป็นกันเองอย่างมาก ซึ่งตนมองว่า พรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งครั้งนี้ ค่อนข้างวางตัวได้เป็นมิตรกับทุกคนพอสมควร รวมถึงการที่บอกว่าจะก้าวข้ามความขัดแย้งทำให้สถานการณ์ในวันนี้เป็นคำตอบได้ดี ที่พยายามทำให้ดูว่าก้าวข้ามความขัดแย้งได้มากแค่ไหน

หลังจากนั้นนางสาวภัสสราวลี ได้ขอเซลฟี่คู่กับพลเอกประวิตร ซึ่งพลเอกประวิตรก็ยินดีให้ถ่ายด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มและตบไหล่เบาๆ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าการให้สัมภาษณ์กันค่อนข้างอารมณ์ดีแตกต่างกับเวลาผู้สื่อข่าวการเมืองถามที่พลเอกประวิตรค่อนข้างมีอารมณ์หงุดหงิด