‘ปกรณ์วุฒิ’ เผย ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่ แต่ขออุบวันไว้ก่อน

‘ปกรณ์วุฒิ’ เผย ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่ แต่ขออุบวันไว้ก่อน ยืนยันทำงานเชิงรุก ตรวจสอบเข้มข้นขึ้น ทำงานร่วมกันดีกับพรรคร่วมอื่น
วันนี้ (2 ก.ค. 67) นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการเตรียมการทำงานหลังจากสภาเปิดสมัยประชุมว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 3 กรกฎาคมนี้ จะเป็นการพิจารณาร่างกฎหมายที่ผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) มาเป็นเรื่องด่วน โดยเป็นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่เกี่ยวกับกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม 4 ฉบับ ซึ่งคงไม่มีการอภิปรายกันมากและคงรับหลักการร่วมกันทั้งสภาฯ
นอกจากนี้ จะมีการพิจารณาร่างกฎหมายที่ สว.แก้กลับมาว่า สภาจะยืนยันร่างของ สส. หรือจะเห็นด้วยกับการแก้ไขของ สว. คาดว่าน่าจะมีการพิจารณากฎหมายที่ สส. ได้เสนอค้างไว้ในสมัยประชุมที่ผ่านมาเช่นกฎหมายประมวลที่ดิน และ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลยืนยันที่จะยึดมั่นในจุดเดิมคือเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก มีข้อเสนอต่าง ๆ ตลอดเวลา และไม่ได้ทำงานฝ่ายค้านเพียงเพื่อล้มรัฐบาลเท่านั้น แต่จะนำเสนอประเด็นต่าง ๆ ที่รัฐบาลจะสามารถหยิบยกไปใช้ได้ จากนี้การทำงานจะเข้มข้นขึ้น ปีนี้ทั้งงบประมาณและนโยบายต่าง ๆ เป็นการขับเคลื่อนโดยรัฐบาลชุดนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้น การตรวจสอบจะเข้มข้นขึ้น เพราะความคาดหวังของประชาชน และฝ่ายค้านต่อรัฐบาลเข้มข้นกว่าเดิม สิ่งที่สัญญาไว้ มีอำนาจเต็ม มีงบประมาณเต็ม จะขับเคลื่อนได้จริงหรือไม่ ทั้งนี้ การอภิปรายไม่ไว้วางใจมีแน่นอน แต่รอลุ้นว่าจะเป็นช่วงเวลาไหน
สำหรับการวางแผนงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่น ๆ นายชัยธวัช ตุลลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้พูดคุยกับแกนนำของพรรคฝ่ายค้านทุกพรรคทุกเดือน ล่าสุดผู้นำฝ่ายค้านลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี พรรคประชาธิปัตย์ก็ส่งนายร่มธรรม ขำนุรักษ์ไปด้วย และใน พ.ร.บ.งบที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านร่วมกันอย่างเหนียวแน่น เชื่อว่าประชาธิปัตย์ก็พร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยเช่นเดียวกัน
นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวถึงว่าที่ สว.ชุดใหม่ 200 คนว่า ถ้ามีการรับรองเข้ามารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกัน และต้องดูท่าทีอีกครั้งว่าเมื่อมีร่างกฎหมายต่าง ๆ ไปถึง สว. ท่าทีและแนวคิดของสว.ชุดนี้ โดยรวมจะเป็นอย่างไร ส่วนตัวคิดว่าไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีการได้มาซึ่ง สว.ที่ซับซ้อนขนาดนี้ หลายสื่อก็มองว่าจะมีคนสามารถแฮกระบบได้ แต่ก็ไม่อยากกล่าวหาไปก่อน รอที่จะลองทำงานร่วมกัน และคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมาก ส่วนตัวคิดว่าดีกว่าการให้คน ๆ เดียวแต่งตั้ง 200 กว่าคนมา