ป.ป.ช.เตรียมผนึกกำลัง กทม. แก้ปัญหาทุจริตในหน่วยงาน

ป.ป.ช.เตรียมผนึกกำลัง กทม. แก้ปัญหาทุจริตในหน่วยงาน และบูรณาการระยะยาว หลังเกิดกรณี ผอ.โรงเรียนเรียกรับสินบนค่าอาหารกลางวันเด็ก เตรียมประสาน ‘มหาดไทย’ ตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่บท แก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นทั่วภูมิภาค

วันนี้ (23 ก.พ. 66) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. เปิดเผยถึงการทำงานร่วมกับกรุงเทพมหานคร ในการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่นในหลายหน่วยงาน และโรงเรียนสังกัด กทม. โดยระบุว่า ในเร็วๆ นี้จะมีการผนึกกำลังร่วมกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสถานทูตอังกฤษ ที่จะทำโครงการเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้

นอกจากนี้ ในช่วงเดือนมีนาคม ป.ป.ช.และ กทม. จะนัดหมายหารือร่วมกัน สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่ ป.ป.ช.เข้าดำเนินการจับกุม ผู้อำนวยการโรงเรียนในสังกัด กทม. ที่เรียกรับเงินสินบนค่าอาหารกลางวันเด็ก ซึ่งทางกทม. จึงต้องการหามาตรการ แนวทางการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก และยังมีกรณีอื่นๆ ที่กทม.ได้รับการร้องเรียนเข้ามา โดยในปัจจุบันผู้ว่าฯ กทม. ก็พยายามที่จะหาข้อมูล ในกรณีการร้องเรียน และการปฎิบัติหน้าที่ประพฤติมิชอบทุจริตภายในหน่วยงาน และให้ป.ป.ช. เข้าร่วมในกระบวนการตรวจสอบอีกด้วย รวมทั้งยังถือว่าเป็นนิมิตหมาย และเป็นก้าวแรกที่ดี ระหว่างความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงาน เพื่อไม่ให้เกิดการทุจริตหรือการประพฤติผิดในหน่วยงาน

นายนิวัติไชย ระบุอีกว่า ที่ผ่านมามีความร่วมมือในการทำงานร่วมกันมาโดยตลอด แต่อาจจะไม่ใช่รูปแบบการพูดคุยอย่างเป็นทางการ เป็นแค่เพียงประสานงานการเฉพาะกิจ ซึ่งต้องการให้มีมาตรฐานในระยะยาว และบูรณาการร่วมกันในเรื่องอื่นๆ ซึ่งต้องอาศัยการร้องขอความอนุเคราะห์ในบางสิ่งบางอย่าง กทม. ที่มีอำนาจ เพราะประเด็นการทุจริตเกิดขึ้นทั่วประเทศไทยโดยเฉพาะพื้นที่กทม.ที่มีปัญหาเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง รวมทั้งระบบการศึกษา การอนุมัติ อนุญาตการก่อสร้าง การโยธา ซึ่งเรื่องเหล่านี้ยังคงมีเรื่องร้องเรียนมาทางป.ป.ช.อย่างสม่ำเสมอ

ดังนั้นจึงต้องการวางมาตรการในการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต รวมถึงอาจจะมีการทำเป็นมาตรฐานตัวอย่างในพื้นที่กทม. เพราะพื้นที่กรุงเทพเป็นพื้นที่ที่ใหญ่ และมีบุคลากรที่เข้าไปเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก หากวางแนวทางได้ ก็จะเป็นการปูพรหมไปยังทั่วประเทศ

อย่างไรก็ดี ทาง ป.ป.ช. ยังได้ประสานงานไปยังกระทรวงมหาดไทยทั่วภูมิภาค โดยมีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่บท ซึ่งมีผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดเป็นประธาน รวมทั้ง ป.ป.ช. และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เป็นเลขานุการร่วม โดยจะมีการนำปัญหากรณีการร้องเรียนสถิติข้อมูลแผนดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์ และรายงานผลการปฎิบัติงานในพื้นที่ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนงาน อีกทั้งเป็นการบูรณาการร่วมกันไม่ใช่ต่างคนต่างทำ และรายงานกลับมาทางให้ป.ป.ช.รับทราบถึงผลความสำเร็จของการแก้ไขปัญหา และประเด็นปัญหาที่อาจจะก่อให้เกิดการทุจริตขึ้นในแต่ละพื้นที่จะมี

นอกจากนี้ เลขาฯ ป.ป.ช. กล่าวอีกว่า ยังจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะภาคประชาชนที่เป็นผู้รู้เห็นหรือสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ไม่ถูกต้อง ส่งมาทางให้คณะกรรมการป.ป.ช.ร่วมกันตรวจสอบ หรือป้องกันระงับยับยั้งก็จะช่วยลดปัญหาเรื่องการกล่าวหาในพื้นที่ลงได้รวมถึงในพื้นที่กรุงเทพมหานครอีกด้วย