POLITICS

นายกฯ มอบนโยบายกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในประเทศ ยึด 4 แนวคิด

นายกฯ มอบนโยบายกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในประเทศ ยึด 4 แนวคิด ส่งเสริมเมืองรอง – ให้ไทยเป็นไฮซีซั่นตลอดทั้งปี – เชื่อมต่อกับนทท. – เพิ่มการจับจ่ายใช้สอย ขอ หน่วยงานทำการบ้านหนัก คิดนอกกรอบ ระบุ หากพูดไม่ลื่นหู ต้องขอโทษ แต่ยืนยันเจตนาดีต่อประเทศ

วันนี้ (13 ธ.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายเพื่อกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในประเทศ โดยกล่าวว่า การท่องเที่ยวถือเป็นกลไกที่สำคัญที่สุด โดยตนเองพยามหลีกเลี่ยงคำว่า Quick Win เนื่องจากมีคนนำไปทำเป็นวาทกรรมเยอะ ซึ่งจริง ๆ แล้ว เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุด ทุกคนในที่นี้ก็เป็นลูกหม้อของหน่วยงานนี้ รัฐมนตรีก็ทำงานหนัก ลงพื้นที่ รับฟังปัญหาเยอะ เหนือสิ่งอื่นใดคือโอกาสก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่มารวมกันตอนนี้ เรามารับฟังนโยบายหลัก ซึ่งหลังมีการเปลี่ยนรัฐบาล นโยบายก็เปลี่ยนแปลงไป แต่เชื่อว่าทุกคนมีความหวังดีให้การท่องเที่ยวในไทยก้าวหน้าขึ้น

ดังนั้น การปรับแต่งนโยบายก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ผมเชื่อว่าภาคส่วนการท่องเที่ยวเป็นภาคส่วนที่รัฐบาลให้ความสนใจเยอะ ทั้งในและนอกประเทศ จากนโยบายหลัก ๆ ที่ออกไปหลายนโยบาย เป็นที่ประจักษ์ว่าเราให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยว ตนเองไม่อยากสื่อสารทางเดียว หากฟังจบแล้ว ไม่สบายใจ เกิดความข้องใจ ก็สามารถพูดคุยกันได้

นายกรัฐมนตรี รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการสร้างรายได้จากการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นกระจายรายได้ให้กับประชาชนจำนวนมากทั้งหมด 4 แนวคิด ได้แก่ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นไฮซีซั่นตลอดปี พัฒนาการเชื่อมต่อกับนักท่องเที่ยวและให้นักท่องเที่ยวมีการจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น

เรื่องแรกการส่งเสริมการท่องเที่ยวไม่ใช่แค่พื้นที่เขตเศรษฐกิจหลักเช่นเชียงใหม่ภูเก็ตกระบี่ชลบุรีแต่ต้องเร่งกระตุ้นการเดินทางการท่องเที่ยวการจับจ่ายใช้สอยในเมืองรองอีกหลายจังหวัด เพื่อกระจายรายได้สู่เมืองรองมากขึ้น นำจุดเด่นแต่ละพื้นที่มาใช้ สร้างแลนด์มาร์ค หาจุดเด่น อาหาร ขอให้หาจุดแข็ง จุดเด่น ที่จะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ในแต่ละพื้นที่ ให้เป็นแนวทางกระตุ้นที่ถูกต้อง ส่วนการโปรโมทก็ขอให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามา อยากให้ผู้ว่าฯ ให้นโยบายกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงว่าให้เน้นการท่องเที่ยวไปที่เมืองรองมากขึ้น อาจลำบาก หรือใช้พลังเสาะแสวงหาของดี ๆ แต่ตนเองเชื่อว่ายังมีที่เที่ยวอยู่อีกเยอะ ให้ท้องถิ่น และ ททท. ช่วยกัน

ส่วนที่สองคือส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นไฮซีซั่นตลอดทั้งปี หน้าร้อนเต็มไปด้วยเทศกาลต่าง ๆ ซึ่งไฮซีซั่นก็เป็นหน้าร้อนของตะวันออกกลางเห็นได้จากการเปิดความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบีย ที่เดินทางเข้าไทยมาเยอะ ในช่วงหน้าหนาวของบางประเทศ ก็ทำให้เขาเข้ามาเที่ยวไทยเยอะ แต่มีปัญหา PM2.5 ซึ่งต้องแก้กันไป

“ขอให้ทำการบ้าน วางบัดเจ็ตให้เหมาะสมในการทำโปรโมทสถานที่ที่รับผิดชอบ ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาทั้งปี จุดเด่นที่อยาก โปรโมทการท่องเที่ยวเพราะเป็นเรื่องของการกระจายรายได้ และความสม่ำเสมอของแรงงานชั่วคราว” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า อยากให้บริการด้านข้อมูลให้นักท่องเที่ยวก็ดียิ่งขึ้น มีหลายภาษา มีช่องทางการติดต่อหลายรูปแบบครอบคลุมถึงไทม์โซนให้คนมาเที่ยวไทยได้ทุกเวลา การเรียบเรียงข้อมูลให้เข้าใจง่าย ประชาสัมพันธ์ที่หลากหลายสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวทำให้ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวอย่างแน่นอนตนเองเชื่อว่านักท่องเที่ยวมีข้อมูลมาก ดังนั้น การนำเสนอข้อมูลจะต้องทำให้ง่าย เด่นชัด ดึงดูดเขา เอาลูกค้าเป็นที่ตั้ง ตนเองถือเป็นสิ่งสำคัญเพราะเราแข่งขันกับหลายประเทศ

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในปัจจุบันนักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เราจึงต้องโปรโมทเรื่องนี้ด้วย และจะเป็นเทรนของโลกอีกในอนาคต อย่าให้ประเทศไทยเป็นผู้ตามเพียงอย่างเดียว

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญต่อมาคือการเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อทริป ที่ผ่านมา รัฐบาลให้ความสำคัญกับจำนวนนักท่องเที่ยวแต่ไม่ได้สนใจว่าอยู่นานเท่าไหร่ โดยตนเองอยากให้เขามาอยู่ประเทศไทยนานกว่านั้น เรามีข้อมูลอยู่แล้ว ไหน ๆ ก็เข้ามาแล้ว ไม่ต้องเข้ามาเยอะ แต่อยู่นานก็ดี อยู่เยอะก็ใช้จ่ายเงินเยอะ เมื่อวันเสาร์ไปกาญจนบุรีมา ก็ชัดเจนว่ามีนักท่องเที่ยวมาเยอะ แต่ใช้เงินเฉลี่ยคนละพันกว่าบาทเท่านั้น ดังนั้นเราอย่าลงรักแต่ข้อมูลที่เราเห็นเราอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงดีกว่าว่าสิ่งที่เราอยากเห็นคืออะไรตนเองมาจากภาคธุรกิจอาจพูดจาตรงไปตรงมาหากไม่รื่นหูก็ขอโทษด้วยแต่มีแต่ความประสงค์ดีและอยากให้ชัดเจนในหลักการว่าเราเน้นเรื่องระยะเวลาในการอยู่ประเทศไทยและค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัว อยากให้หาเมืองรองที่โดดเด่นออกมา ให้มีการใช้จ่ายมากขึ้น

“จำนวนการท่องเที่ยวไม่ได้สะท้อนถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจ แต่จำนวนเงินที่หมุนเวียนในระบบมากกว่าที่เป็นตัวสะท้อนถึงผลสำเร็จ ที่เราได้จากการท่องเที่ยว จากการโปรโมท หรือการสนับสนุน มีการทำงานกับภาครัฐให้เยอะขึ้น ในแง่การดึงศักยภาพของทุกจังหวัด” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังยกตัวอย่างถึง พื้นที่อุดรธานี ที่มีชนพื้นเมืองของประเทศเวียดนามอาศัยอยู่เยอะ อยากให้คิดนอกกรอบ เพราะทุกพื้นที่มีองค์ประกอบที่แตกต่างกัน ให้คนมาเที่ยวเยอะขึ้น

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยว จึงถือเป็นตัวชี้วัดตัวหนึ่ง อยากให้การท่องเที่ยวเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจ ให้ปประเทศไทยไปอยู่บนเวทีโลก แม้ว่าเราจะติดอับดับอยู่ว่ามีนักท่องเที่ยวเยอะ แต่อย่าพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ผมเชื่อว่าเราสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในจำนวนที่สูงมากขึ้น ในระยะเวลาต่อครั้งที่เข้ามาได้ดีขึ้น และการใช้จ่ายต่อหัวเพิ่มขึ้น

Related Posts

Send this to a friend