POLITICS

‘ธัญวัจน์‘ ดีใจกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่าน จ่อ ผลักดันเปลี่ยนนามนำหน้า

‘ธัญวัจน์‘ ร่วมยินดี คู่รัก จดทะเบียนสมรสเท่าเทียมครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย เผย ดีใจกฎหมายผ่าน จ่อ ผลักดันเปลี่ยนนามนำหน้า

วันนี้ (23 ม.ค. 68) ที่สำนักงานเขตบางรัก ได้เปิดให้คู่รักลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมครั้งแรก ถือเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ที่กฎหมายมีผลบังคับใช้วันนี้เป็นวันแรก

นางพรพัน วัฒนสินธุ์ ผู้อำนวยการเขตบางรัก ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมของการจัดงานจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมในวันนี้ ว่า วันนี้เป็นวันแรกของการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมของประเทศไทย เป็นที่น่ายินดีสำหรับคู่รักทั้งหลายที่จะเปลี่ยนเป็นคู่สมรส และเป็นโอกาสอันดีที่ได้รับการผลักดันให้กฎหมายตัวนี้ใช้ได้ครั้งแรกในประเทศไทย ดังนั้นสำนักงานเขตบางรักจึงจัดสถานที่ให้ผู้รับมาจดทะเบียนสมรส เตรียมทุกอย่างโดยมีผู้สนับสนุน คือ ผู้ที่แสดงความยินดีกับคู่รักทุกคู่ในวันนี้ และทีมงานเราได้จัดเตรียมบุคลากรในเรื่องของคำพูดที่จะต้องเปลี่ยน จากเดิมจะใช้คำว่าคู่บ่าวสาว มาเป็นคำว่าคู่สมรสแทน และจะไม่ใช้คำว่าเพศ โดยเปลี่ยนมาใช้คำว่าคู่สมรสคนที่ 1 และคู่สมรสคนที่ 2 แทน เพื่อความเท่าเทียม และลดความเหลื่อมล้ำ อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตก็สนับสนุนนโยบายเหล่านี้มาโดยตลอด และขอแสดงความยินดีกับคู่รักทุกท่านที่วันนี้เรามีความเท่าเทียมเกิดขึ้น และทำให้เรามีหลายๆ สิ่งที่ดี และมีความสุขเพิ่มขึ้นในประชาชน

นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.พรรคประชาชน ระบุว่า วันนี้เป็นวันที่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ก็กลับกลายเป็นไปได้ ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศใช้ชีวิตอย่างจินตนาการไม่ออกว่าโตขึ้นไปจะสร้างครอบครัวอย่างไร แต่วันนี้ทุกอย่างเป็นไปได้อย่างเท่าเทียม ขอบคุณสำนักงานเขตบางรักที่ถือว่าเป็นจุดสำคัญที่ทุกคนเลือกมาจดทะเบียนสมรสกัน และขอให้ทุกคนมีความสุขกับชีวิตสมรส นี่คือศักดิ์ศรีที่พวกเรามีความเท่าเทียมกัน

เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรบ้างที่วันนี้สิ่งที่ผลักดันได้สำเร็จแล้ว นายธัญวัจน์ กล่าวว่า ตนเองคิดว่าเวลาเราพูดเรื่องความรักนั้นเป็นนามธรรม แล้วมองว่าคนเหล่านี้เวิ่นเว้อ แต่ตนเองเชื่อว่าความรักสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้จริงๆ การสมรสเท่าเทียมถือเป็นหนึ่งประเด็นที่สร้างความเปลี่ยนแปลง ทำให้โลกเปลี่ยนไป และมีอีกหลายอย่างที่เราต้องผลักดัน ตนเชื่อว่าความรักจะสร้างความเปลี่ยนแปลง คนเข้ามาขอบคุณก็มีเยอะ แต่ตนเองเชื่อว่าในฐานะผู้แทนราษฎรเราทำเต็มที่อยู่แล้ว ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนี้ก็จะนึกถึงบุคคลที่สูญเสีย

เมื่อถามต่อว่าก้าวต่อไปนอกจากการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมแล้ว ยังมีอะไรที่เราอยากทำให้เท่าเทียมอีกบ้าง นายธัญวีจน์ เผยว่า หากในประเด็นสมรสเท่าเทียมจะมีข้อสังเกตที่ว่า เราต้องแก้การตั้งครรภ์ด้วยเทคโนโลยี ให้ครอบครัว LGBTQ สามารถมีครอบครัวได้ อีกประเด็นคือเรื่องการขอสัญชาติของผู้สมรส รวมถึงกฎหมายคุ้มครองแต่ละประเทศที่ขณะนี้หลายประเทศไม่ยอมออกใบรับรองให้

ส่วนกรณีที่บ้านเรามีกฎหมายเท่าเทียมแต่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะคว่ำกฎหมายของ นายโจ ไบเดน มีผลต่อความเท่าเทียมทั่วโลกอย่างไรบ้าง นายธัญวีจน์ กล่าวว่า การให้สัมภาษณ์เรื่องนี้มองว่า ตนเองเชื่อว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ มาจากการเลือกตั้ง แต่นั่นหมายถึงว่าการที่มีนโยบายแบบนี้สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือไม่รู้ว่าอเมริกามีอิทธิพลเรื่องสื่อ และวัฒนธรรมมากมายจนถึงประเทศเรา

ดังนั้น การผลักดันเรื่องอัตลักษณ์ทางเพศก็จะยากขึ้น เพราะสิ่งหนึ่งที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ พูดขึ้นมา เป็นเรื่องของบุคคลข้ามเพศ และอัตลักษณ์ทางเพศ ซึ่งเมืองไทยก็ยากอยู่แล้ว แต่เชื่อว่าคงจะมีหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป และเราก็คงต้องรับมือ ตนเองมองว่าเขาไม่สามารถแทรกแซงเราได้ แต่เรื่องนี้มีอิทธิพลทางความคิดเพราะเขามีอิทธิพลเรื่องวัฒนธรรม การค้า และเศรษฐกิจ นั่นหมายถึงว่าเราต้องตั้งรับ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเปลี่ยนคำนำหน้าที่ต้องการให้เกิดขึ้นจะมีการผลักดันต่อ และมีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง นายธัญวีจน์ เผยว่า จริงๆ ร่างเรื่องนี้ตกไปแล้วแต่เราได้ร่างขึ้นมาใหม่ โดยขณะนี้ต้องบอกว่าทุกอย่างคือเกมการเมือง เราจึงยังไม่กล้ายื่น ต้องรอคณะรัฐมนตรียื่นเข้ามาก่อน เพราะตนเองก็กังวลว่าจะถูกปัดตกอีก จึงฝากบอกไปยังพรรคเพื่อไทยว่าเราจะต้องผลักดันเรื่องนี้กันต่อไป

ด้าน นายวิพุธ ศรีวะอุไร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) เขตบางรัก กล่าวว่า ตนเองคิดว่าเป็นการทำงานเพื่อส่วนรวมเรื่องความเท่าเทียม แต่เป็นการยอมรับให้โอกาสในความแตกต่าง ตนเองจึงคิดว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และประชาชนเราเดินหน้าได้อยู่แล้ว

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat