‘สรวงศ์’ เปรียบนักร้องเหมือน ’กรวดในรองเท้า‘ มั่นใจ ไม่ใช่กรณีสุดท้าย คงจะมีการร้องกันอีกเรื่อย ๆ
เลขาฯ เพื่อไทย ย้ำ ยืนบนความบริสุทธ์ใจ หลังศาล รธน. ตีตกคำร้อง เปรียบนักร้องเหมือน ’กรวดในรองเท้า‘ มั่นใจ ไม่ใช่กรณีสุดท้าย คงจะมีการร้องกันอีกเรื่อย ๆ อย่าใช้อคติขัดจังหวะประเทศ รัฐบาลขอใช้เวลา ที่เหลือพิสูจน์ผลงาน วอนก้าวข้าม อดีตนายกฯ ได้แล้ว
วันนี้ (22 พ.ย. 67) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับพิจารณาวินิจฉัยคำร้องที่ขอให้ นายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย เลิกการกระทำที่จะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองฯ ว่า ตนเองเคยบอกไปแล้วเรายืนอยู่บนความบริสุทธ์ใจจริง ๆ ในฐานะนักการเมืองคนหนึ่ง การจะทำอะไรถ้ามีอะไรมาขัดจังหวะเรื่อย ๆ มองว่าไม่เกิดผลดีกับประเทศ หากการร้องอยู่บนพื้นฐานของการมีอคติทางการเมือง แม้การร้องเรียนถือเป็นสิทธิ และต้องยอมรับว่ารายได้หลักของประเทศคือการท่องเที่ยว รวมถึงการลงทุน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มันเกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่นของนักลงทุน นักท่องเที่ยว เมื่อไหร่ที่การเมืองไม่นิ่ง หรือประเทศมีความขัดแย้ง มองว่าจะส่งผลโดยตรงฝแน่นอน
นายสรวงศ์ กล่าวว่า แต่ถึงอย่างไรเราก็ผ่านมาได้ส่วนหนึ่งแต่มั่นใจว่าไม่ใช่กรณีสุดท้าย แล้วคงจะมีการร้องกันอยู่เรื่อย ๆ ตนเองก็เชื่อว่าประชาชนติดตามอยู่ว่ามันเป็นยังไง
เมื่อถามว่า หลังจากนี้กังวลหรือไม่เพราะขณะนี้แม้จบไปแล้ว แต่หลังจากนี้อาจมีเรื่องร้องเรียนอีก นายสรวงศ์ ยอมรับว่า กังวลตลอด พร้อมเปรียบว่าเหมือนกับกรวดในรองเท้า ทำให้รู้สึกเหมือนไม่สมูท แต่หากถามว่ากังวลเรื่องจะโดนร้องเรียนหรือไม่ พรรคเพื่อไทยมองว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ผ่านมามันก็โดนมาตลอด แต่ไม่ว่าเราจะทำอะไร ก็อยู่บนพื้นฐานความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งนายกฯ และพรรคเพื่อไทยก็พร้อมที่จะสู้ทุกกรณี
ส่วนจะสามารถขจัดกรวดในรองเท้าออกไปได้หรือไม่ ก็คงไม่ได้ เพราะทางการเมือง ต่างคนต่างความคิด การเมืองมีการ TAKE SIDES แต่ควรมองถึงภาพรวมของประเทศ และขณะนี้รัฐบาลเหลือเวลาไม่ถึง 3 ปี ก็ขอวัดด้วยผลงาน อะไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้แต่ปัจจุบันมีสิ่งหนึ่งที่นายกฯ พูดอยู่ตลอดเวลาคือ ขอบคุณเวลา ที่ทำให้เรายังมีเวลาพิสูจน์ตัวเอง และมีเวลาที่จะกลับมาในใจของพี่น้องประชาชนคนไทยในการพิสูจน์ผลงาน
ส่วนการทำงานของรัฐบาลหลังจากนี้จะราบรื่นขึ้นหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เรื่องเหล่านี้ไม่เคยอยู่ในระบบความคิดการทำงาน ตนเอง และนายกฯ มองว่าปล่อยให้เป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมาย ส่วนการทำงานรัฐบาลยังคงทำต่อไป และไม่ได้มองเรื่องร้องเรียนเหล่านี้มาเป็นส่วนประกอบในการทำงานเลย
เมื่อถามว่า จากหลายปัจจัยจึงทำให้ช่วงนี้นายทักษิณ สบายใจขึ้นหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่หรอก แต่ท่านพูดเสมอว่าอายุเยอะแล้ว ประกอบกับท่านเป็นผู้มีประสบการณ์ด้วย ฉะนั้นการจะนำประเด็นของคุณทักษิณมาเกี่ยวข้องตลอดไม่ได้หรอก และควรก้าวข้ามไปได้แล้ว เพราะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและนายกฯ คนปัจจุบันชื่อแพทองธาร ฉะนั้นควรนำสิ่งที่หัวหน้าพรรคและนายกฯ พูดเป็นหลัก ซึ่งคุณทักษิณ แม้เป็นอดีตนายกฯ เป็นบิดาของหัวหน้าพรรค และนายกฯ คนปัจจุบัน และมีประสบการณ์มากกว่าพวกเราอยู่แล้ว ฉะนั้นสิ่งต่าง ๆ ที่ท่านยกขึ้นมา มองว่าเป็นข้อแนะนำดีกว่า พวกเราก็รับฟังไว้ อันไหนปฏิบัติได้ก็ทำ อันไหนปฏิบัติยากก็ต้องพูดคุยกัน พร้อมย้ำว่าไม่ใช่เป็นการมาครอบงำอะไรหรอก












