‘โรม‘ เตรียมบุก รพ.ตำรวจ ขอดูชั้น 14 พบข้อมูลใหม่ปมส่ง ‘ทักษิณ‘ ออกนอกเรือนจำ
‘โรม‘ เตรียมบุกโรงพยาบาลตำรวจ ขอดูชั้น 14 พบข้อมูลใหม่ปมส่ง ‘ทักษิณ‘ ออกนอกเรือนจำ แต่ยังไม่ทราบอาการป่วย เหตุเป็นข้อมูลส่วนบุคคล
วันนี้ (22 พ.ย. 67) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือกรณีการพักรักษาตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจว่า วันนี้มีเวลาพูดคุยกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ย้ำว่าคณะกรรมาธิการชุดนี้มีอำนาจในการพิจารณา ไม่ว่าหน่วยงานจะโต้แย้งหรือไม่เห็นด้วย แต่หน่วยงานไม่มีอำนาจในการชี้ กฎหมายให้อำนาจเรา เราก็มีอำนาจในการพิจารณา การพิจารณาของคณะกรรมาธิการใช้แนวทางปฏิบัติเดิมมาตลอด ไม่ได้มีแนวทางพิสดาร
ส่วนเนื้อหาสาระที่ได้มีการพูดคุยกันคือ กรณีการออกจากเรือนจำไปพักที่โรงพยาบาลตำรวจ การพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ และการให้พักโทษ โดยทั้ง 3 ประเด็นนี้ มีข้อจำกัดของเวลาไม่สามารถสอบถามได้ครอบคลุมทุกประเด็นโดยละเอียด ซึ่งก็มีข้อมูลเพิ่มเติมที่แตกต่างจากรอบที่แล้วอยู่บ้าง เช่น การที่นายทักษิณ ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจก่อนหน้านี้ได้รับข้อมูลว่าเป็นเพียงพยาบาล 2 คนที่ลงนาม ซึ่งข้อมูลใหม่ ช่วงเวลา 11.00 น.ของเวลาดังกล่าว มีแพทย์จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์พิจารณาสภาพร่างกายของนายทักษิณก่อน หลังจากนั้นในเวลากลางคืน อาการของนายทักษิณก็แสดงออกมา จึงได้มีการส่งตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งได้รับข้อมูลเพียงเท่านี้
ในการพิจารณายังไม่ทราบอาการป่วย ในใบแสดงความเห็นของแพทย์มีอาการของนายทักษิณหลายอย่าง โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าไม่อยากเปิดเผยให้ทราบ เพราะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล แน่นอนว่าขัดต่อความรู้สึกตอนที่เห็นนายทักษิณลงจากสนามบิน ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับปากและไม่ปฏิเสธว่าจะส่งเอกสารให้กับคณะกรรมาธิการ ซึ่งเอกสารที่ขอไปกว่า 10 รายการ โดยเฉพาะเวชระเบียนก็หวังว่าจะได้จากรัฐมนตรี
ส่วนข้อมูลชั้น 14 เป็นไปตามระเบียบกฎหมายหรือไม่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ไม่เคยตรวจสอบว่าชั้น 14 อยู่ภายใต้กฎหมายข้อบังคับข้อใด ส่วนการให้คะแนนว่าอดีตนายกรัฐมนตรีเป็นผู้สูงอายุไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ แต่ก็ยังไม่ได้รับรายงานว่าเป็นอย่างไร จึงอนุมานว่าผลการตรวจสอบคงจะไม่เป็นลบอะไร เพราะไม่ได้มีการชี้แจงจากกระทรวงยุติธรรมว่า การให้คะแนนของนายทักษิณอาจเป็นการให้คะแนนที่ผิดหรือไม่
นอกจากนี้ได้รับข้อมูลใหม่จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแล้วว่า ค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลตำรวจในการพักรักษาตัวชั้น 14 ปรากฏค่าใช้จ่ายกว่าหนึ่งล้านบาท แท้จริงแล้วนายทักษิณเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด โดยหลังจากนี้จะมีการเดินทางไปที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งจะมีการสรุปรายละเอียดวันและเวลาในการเดินทางอีกครั้ง เพื่อไปประชุมที่โรงพยาบาลตำรวจ และเชิญแพทย์พยาบาลที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยด้วย รวมถึงเดินทางไปดูชั้น 14
นายรังสิมันต์ ยืนยันว่าชั้น 14 ก็เรื่องหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญกฎหมายต่าง ๆ ต้องตรวจสอบความชอบธรรมของกฎหมายด้วย สิ่งที่คณะกรรมาธิการสามารถทำได้คือ การตรวจสอบให้มั่นใจที่สุดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงกายภาพอย่างไร และขอให้ทุกคนพูดความจริงเพื่อให้สิ้นข้อสงสัย
