กลุ่มชาติพันธุ์ไทดำ ยื่นหนังสือถึง ‘ประเสริฐ’ เร่งแก้ปัญหาที่ดินสาธารณะทุ่งปากขอ

กลุ่มชาติพันธุ์ไทดำ จ.สุราษฎร์ธานี ยื่นหนังสือถึง ‘ประเสริฐ’ เร่งแก้ปัญหาที่ดินสาธารณะทุ่งปากขอ หลังถูกนายอำเภอบ้านนาเดิมสั่งไล่รื้อ ทั้งที่ผลตรวจสอบพบหนังสือออกผิดทับที่ดินราษฎร
วันนี้ (22 เม.ย. 68) ที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มเครือข่ายชาติพันธุ์ไทดำ อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี ยื่นหนังสือต่อ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีพิพาทเรื่องที่ดินสาธารณะทุ่งปากขอ อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎรธานี ซึ่งอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาของอนุกรรมการแก้ปัญหาที่ดินสาธารณะประโยชน์ ที่ดินเอกชนปล่อยทิ้งร้าง ซึ่งจะมีการประชุมพรุ่งนี้ (23 เม.ย.)
แม้จะมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ปัญหาดังกล่าวอยู่ในกระบวนการแก้ปัญหาของอนุกรรมการแก้ปัญหาที่ดินสาธารณะประโยชน์ฯ จนเกือบได้ข้อยุติแล้ว ซึ่งที่ผ่านมามีการตรวจสอบและรับรองข้อมูลร่วมกันของคณะกรรมการระดับอำเภอ และมีมติร่วมกันว่าหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (น.ส.ล.) แปลงดังกล่าวออกผิดพลาด คลาดเคลื่อนไปทับที่ดินของราษฎรไทดำ แต่นายอำเภอบ้านนาเดิมคนปัจจุบันกลับออกคำสั่งขับไล่ราษฎรที่ทำกินในพื้นที่ โดยให้ทำการรื้อถอนบ้านและผลอาสินออกภายใน 30 วัน มิฉะนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมาย
การดำเนินการเช่นนี้สร้างความวิตกกังวลและความหวาดกลัวแก่ราษฎรกลุ่มชาติพันธุ์ไทดำที่ตั้งถิ่นฐานมามากกว่า 70 ปี จนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ จึงขอยื่นหนังสือต่อนายอำเภอบ้านนาเดิม เพื่อขอให้ขยายเวลาในการบังคับใช้คำสั่งไล่รื้อไปจนกว่าการแก้ไขปัญหาโดยอนุกรรมการแก้ปัญหาที่ดินสาธารณะประโยชน์ฯ จะแล้วเสร็จ แต่กลับถูกปฏิเสธและยืนยันว่าจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เครือข่ายชาติพันธุ์ไทดำ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงมีข้อเสนอต่อนายประเสริฐ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฯ ดังนี้
1.ให้ติดตามและเร่งรัดการดำเนินงาน เร่งแก้ไขกรณีปัญหาที่ดินสาธารณะประโยชน์ทุ่งปากขอ อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีผลการตรวจสอบแล้วสรุปว่าออกผิดพลาดคลาดเคลื่อน ทับที่ดินของราษฎร และดำเนินการตามขั้นตอน ระเบียบ วิธีปฏิบัติจนเป็นที่สิ้นสุดแล้ว ให้เร่งรัดให้เกิดผลการแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
2.ให้ตรวจสอบการดำเนินการด้านการคุกคามชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ไทดำ โดยการสั่งขับไล่รื้อถอนที่อยู่ ทั้งที่ปัญหานี้อยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทย โดยระหว่างการตรวจสอบนี้ขอให้ นายอำเภอบ้านนาเดิม กลับมาทำงานในกรมการปกครองจนกว่าปัญหาจะแก้แล้วเสร็จ