นายกฯ เผย ครม. สั่งปรับปรุงหลักเกณฑ์การเยียวยาผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว – อนุมัติงบกลางภัยแล้ง
วันนี้ (22 เม.ย. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้ได้ติดตามเรื่องการเยียวยาจากกรณีแผ่นดินไหว โดยเฉพาะในส่วนของกรมบัญชีกลาง ที่หลักเกณฑ์ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมบัญชีกลาง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมโยธาธิการและผังเมือง และกรุงเทพมหานคร เร่งหาแนวทางที่เป็นไปได้ในการปรับแก้ไขระเบียบ กฎเกณฑ์ ให้มีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญต้องไม่ซ้ำซ้อนกับเงินประกันอาคารที่ได้รับความเสียหาย ได้รับจากบริษัทประกันภัย
ที่ประชุม ครม. เห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอให้ปรับปรุง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ที่ไม่เอื้อต่อการย้ายฐานการประกอบธุรกิจแห่งอนาคต เช่น สตาร์ทอัพ หรือธุรกิจที่ต้องอาศัยผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องเทคโนโลยีขั้นสูง หรือ เทคโนโลยีการให้บริการทางออนไลน์ โดยเฉพาะการพัฒนาแอพพลิเคชัน เพื่อเพิ่มความสามารถและศักยภาพในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ
ครม. เห็นชอบ และอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสิ่งแวดล้อมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไทย ว่าด้วยความร่วมมือด้านมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการป้องกันและลดผลกระทบจากมลพิษข้ามแดน รวมทั้ง มลพิษทางอากาศ มลพิษทางน้ำ ขยะอันตราย และมลพิษในรูปแบบอื่น ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันมลพิษข้ามแดน
ครม. อนุมัติตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำ เสนอของบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2568 ขอใช้งบกลางเพื่อดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ รองรับสถานการณ์ภัยแล้ง ประจำปี 2568 วงเงิน 7,404 ล้านบาท เพื่อดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาล ปรับปรุงระบบประปา การหาแหล่งน้ำต้นทุน ทำฝายป้องกันตลิ่ง
ที่ประชุม ครม. ยังได้อนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ ในการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 เพิ่มเติม จำนวน 781 ล้านบาท จากงบประมาณในปี 2568 เพื่อนำไปใช้จ่ายให้กับกลุ่มผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 86,876 ครัวเรือน ในพื้นที่ 11 จังหวัด
ครม. ยังได้รับรายงานจาก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ รัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ว่า หน่วยงานที่กำกับด้านการบินของสหรัฐอเมริกา หรือ FAA ได้ยกระดับการบินของไทย จากระดับ 2 ขึ้นเป็นระดับ 1 ซึ่งจะส่งผลดีต่อประเทศไทย ทำให้คนไทยที่จะเดินทางไปอเมริกามีความสะดวกมากขึ้น โดยสายการบินจากประเทศไทยจะได้รับอนุญาตให้บินตรงเข้าอเมริกาได้เลย ทำให้สามารถมีเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ถูกลง และยังทำให้ประเทศไทยพัฒนาสนามบิน สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ถูกพัฒนาจนกลายเป็นศูนย์กลางทางการบินของภูมิภาคได้มากขึ้น
