POLITICS

‘ราษฎร’ ชี้ การเลือกตั้งครั้งนี้ คือการนำอำนาจสูงสุดกลับมาสู่ ปชช.อีกครั้ง

‘ราษฎรและเครือข่าย’ เปิดแคมเปญ ‘โหวตเพื่อเปลี่ยน’ ชี้ การเลือกตั้งครั้งนี้ คือการนำอำนาจสูงสุดกลับมาสู่ประชาชนอีกครั้ง

วันนี้ (22 มี.ค. 66) เวลา 14:00 น. แกนนำราษฎรและเครือข่าย จัดกิจกรรมแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ ‘โหวตเพื่อเปลี่ยน’ สำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง เพื่อแสดงจุดยืน และข้อเรียกร้องเพื่อการปฏิรูปอย่างแท้จริง

นางสาวกัลยกร สุนทรพฤกษ์ สมาชิกแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กล่าวว่า การยุบสภาที่ผ่านมาอาจดูเหมือนเป็นการคืนอำนาจให้กับประชาชน และเปิดทางสู่การเลือกตั้ง แต่ความจริงแล้วแม้ว่าจะไม่มีการยุบสภา ก็ต้องมีการเลือกตั้งอยู่ดี

“การยุบสภานี้จึงเป็นเพียงฉากหนึ่งในเกมการเมือง ไม่ใช่ฉากสุดท้ายของรัฐบาลเผด็จการทหาร การเลือกตั้งครั้งนี้คือการนำอำนาจกลับมาอยู่ในมือของประชาชนอีกครั้งผ่านปลายปากกาในการเลือกตั้ง ที่เป็นอาวุธสำคัญในการต่อสู้กับเผด็จการ” นางสาวกัลยกร กล่าว

นางธนพร วิจันทร์ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิแรงงาน กล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องอยู่ภายใต้รัฐบาลเผด็จการพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ประชาชนถูกปิดกั้นเสรีภาพเป็นอย่างมากองค์กรระดับโลกก็ได้จัดลำดับให้ประเทศไทยด้านประชาธิปไตย และสิทธิเสรีภาพให้อยู่ในเกณฑ์ที่ถดถอย

“ความเลวร้ายของรัฐบาลเผด็จการประยุทธ์ จันทร์โอชา คือไม่มีน้ำยาในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และปากท้องให้กับประชาชนได้มิหนำซ้ำรัฐบาลเผด็จการยังกู้เงินกว่า 10 ล้าน ล้าน บาท สร้างภาระให้กับประชาชนที่ต้องใช้หนี้ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้ก่อ นอกจากนี้ยังไม่มีน้ำยาในการแก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชั่น หน่วยงานของรัฐเผด็จการก็กลับเป็นผู้กระทำเสีย เองทั้งทุนจีนสีเทา การคอรัปชั่นในวงการตำรวจ ทหารหรือแม้แต่ ส.ว. 250 เสียงซึ่งเป็นองคาพยพของเผด็จการประยุทธ์ จันทร์โอชา” นางธนพร กล่าว

นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และนักปกป้องสิทธิมนุษยชน กล่าวถึง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า กกต. ต้องมีคำตอบให้ประชาชน เกี่ยวกับเกณฑ์การแบ่งเขตเลือกตั้ง ทุกคนในสังคมเห็นว่าการแบ่งเขตของ กกต. เอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมืองบางกลุ่ม และขอเรียกร้องให้ กกต. นับคะแนนแบบเรียลไทม์ ไม่ดองคะแนน

นางสาวปนัสยา กล่าวถึงพรรคการเมืองว่า ขอให้ทุกพรรคการเมืองหาเสียงอย่างโปร่งใส ไม่โจมตีกัน แต่ขอให้ต่อสู้กันด้วยนโยบาย ซึ่งจะมีประโยชน์กับประชาชนมากกว่า และขอร้องให้ประชาชนร่วมกันตรวจสอบการหาเสียงของทุกพรรคการเมือง เช่นมีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงหรือไม่ และในวันเลือกตั้ง ก็ขอให้อยู่ที่คูหาเลือกตั้ง เพื่อจับตาดูว่าการนับคะแนนเป็นไปอย่างโปร่งใสหรือไม่

นายอานนท์ นำภา ทนายความ และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง กล่าวว่า 3 ปีที่ผ่านมานักเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายคนถูกทำร้ายร่างกาย ถูกคุมขังด้วยเหตุผลทางการเมือง จะทวงคืนอย่างแน่นอน ในนามของคนรุ่นใหม่ จะจับตาการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่ผ่านมาเห็นพรรคการเมืองที่ชูนโยบายที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างแท้จริง แต่จากนี้เป็นต้นไป จะต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงที่หยั่งถึงรากของปัญหาสังคม

“หลังเลือกตั้ง เราจะภาพี่น้องที่ต้องลี้ภัยทางการเมืองกลับบ้านให้ครบทุกคน จะพาพี่น้องที่ติดคุกด้วยข้อหาทางการเมืองออกมาจากคุกทุกคน และจะเปลี่ยนประเทศนี้ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ร่วมกัน” นายอานนท์ กล่าว

นางสาวภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และนักปกป้องสิทธิมนุษยชน กล่าวเปิดแคมเปญ ‘โหวตเพื่อเปลี่ยน’ ว่าในฐานะปฏิบัติการร่วมทางการเมือง เราราษฎรขอเปิดตัว กิจกรรม รณรงค์ “โหวตเพื่อเปลี่ยน” (Vote for Change) เพื่อการร่วมมือกันของฝ่ายประชาธิปไตย อันประกอบไปด้วยหลักการสําคัญ 3 ข้อ ที่เป็นทั้งจุดยืน และลําดับข้อเรียกร้องได้แก่

1.การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม: โดยประชาชนทั้งประเทศเข้ามามีส่วนร่วมในการพิทักษ์เจตจํานงในการเลือกผู้แทนราษฎร ผ่านกิจกรรมจับตาเลือกตั้ง สอดส่องการหาเสียงของบรรดาผู้สมัคร กดดัน และจับตาการปฎิบัติหน้าที่ของ กกต. และหน่วยงานรัฐทั้งหลาย ให้อยู่บนหลักของความ บริสุทธิ์ โปร่งใส และยุติธรรม

2.การเลือกตั้งที่ฝ่ายประชาธิปไตยชนะไปด้วยกัน: เราขอเชิญชวน และเรียกร้องต่อประชาชน และบรรดาพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยทั้งปวง ให้เดินหน้าร่วมกันเอาชนะฝ่ายเผด็จการผ่านการเลือกตั้ง และผนึกกําลังพรรคฝ่ายประชาธิปไตยเป็นเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล

3.การเลือกตั้งเพื่อการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอย่างแท้จริง: ภายหลังจากการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันของฝ่ายประชาธิปไตย รัฐบาลจําเป็นต้องเดินหน้าสู่การปฏิรูปในทุกองคาพยพ ทั้งการปฏิรูปเศรษฐกิจ ปฏิรูปทางการเมือง ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และ การปฏิรูปสถาบัน

ท้ายที่สุดนี้ เราราษฎรและเครือข่าย ขอยืนยันด้วยใจอันเห็นประโยชน์แห่งมหาชนเป็นที่ตั้งว่า การมีชัยเหนือบรรดาองคาพยพทรราชชนชั้นนํานั้น เป็นภารกิจที่ต้องเกิดขึ้นร่วมกันจากฝ่าย ประชาธิปไตยทั้งมวล และจะบังเกิดผลได้จริงก็เพียงด้วยการร่วมมือผนึกกําลังกันของพี่น้อง ประชาชนในฝ่ายประชาธิปไตยจากทุกภาคส่วน ทุกกลุ่ม ทุกพรรคการเมือง เดินหน้าปฎิบัติการร่วมนี้ ด้วยแรงใจ แรงกาย เพื่อการจัดตั้งรัฐบาลของฝ่ายประชาธิปไตย และเดินหน้าสู่การปฏิรูปโครงสร้างใน ทุกระดับได้อย่างแท้จริง” นางสาวภัสราวลี กล่าว

นางสาวปนัสยา กล่าวทิ้งท้ายว่า วันที่ 28 มีนาคมนี้ จะนำเสนอและลงรายละเอียดเกี่ยวกับแคมเปญกิจกรรม ‘โหวตเพื่อเปลี่ยน’ และจะเสนอข้อเรียกร้องต่อการจัดตั้งรัฐบาล และนโยบายขั้นต่ำของพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย

Related Posts

Send this to a friend